นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินงานในการให้บริการ “PT Service Master” ว่า ภายในสิ้นปีนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนพนักงานที่เป็น PT Service Master ให้ได้ 500 คน จากปัจจุบันมีอยู่ 200 คน และวางเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนให้ได้ 2,500 คนภายใน 3 ปี ทั้งนี้เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และในปีหน้าจะกระจายออกสู่ต่างจังหวัดในรูปแบบของ PT Service Buddy
สำหรับ PT Service Master คือผู้ชำนาญการด้านการบริการในสถานีบริการน้ำมัน PT เพื่อดูแลและให้บริการลูกค้า พร้อมให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก รวมถึงแนะนำสินค้าและบริการให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เกิดความประทับใจ และเกิดรอยยิ้มกลับไปเมื่อเข้ามาใช้บริการ ยังผลให้เป็นที่หนึ่งในใจของคนไทยทั่วประเทศด้านสถานีบริการน้ำมัน
สำหรับ PT Service Master ใช้ระยะเวลาบ่มเพาะมา 5 ปี โดยจะเป็นผู้นำเสนอโซลูชั่นให้กับลูกค้า หรือผู้มาใช้บริการได้รับทราบว่าทางสถานีฯ มีบริการอะไรบ้าง หรือกำลังมีโปรโมชั่นแบบไหน ผู้ที่ถือบัตรสีเขียวมีสิทธิพิเศษอะไร บัตรสีแดงพลัสทำอะไรได้บ้าง ซึ่งแต่ละสถานีบริการจะมีอย่างน้อย 6 คนแทนเด็กปั๊มปกติ โดยจะมาจากทั้งพนักงานภายใน เด็กปั๊ม ที่ขอมาทำหน้าที่นี้ และรับสมัครจากภายนอก หลังจากนั้นจะดูบุคลิกภาพ จิตใจรักบริการ ยิ้มแย้มแจ่มใสเพื่อนำมาบ่มเพาะ
“ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา PTG มุ่งมั่นและทุ่มเทในการพัฒนาบริการ มีการสำรวจความต้องการของลูกค้า รวมถึงผสมผสานความรู้จากพนักงานที่อยู่หน้างาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสนองต่อธุรกิจ จนเกิดเป็นผู้ชำนาญการด้านการบริการในสถานีบริการน้ำมัน PT ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะทำอย่างไรให้ PT Service Master เป็นที่รู้จักในตลาดสายงานบริการ และจะทำอย่างไรให้ภาพของสถานีบริการน้ำมันยถคใหม่ที่เปลี่ยนไปจากเดิม”
นายพิทักษ์ กล่าวอีกว่า การบริการของ PT Service Master จะยกระดับการบริการลูกค้าให้ได้รับการบริการในรูปแบบโรงแรมระดับ 7 ดาว มีผู้ชำนาญการเป็นผู้ให้บริการโดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่มีพนักงานหน้าลาน หรือที่เรียกว่า “เด็กปั๊ม” แต่จะเป็นการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ที่จะคอยให้ความช่วยเหลือและบริการต่าง ๆ ให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร มุ่งเน้นแนะนำสิทธิประโยชน์ที่ดีและเหมาะสมให้กับลูกค้า รวมถึงสำรวจความต้องการของลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการต่อไป
“บริษัทตั้งเป้าในปีนี้จะขยายในส่วนของ PT Service master ให้ได้ประมาณ 90 สาขา ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จากปัจจุบันขยายไปแล้วมากกว่า 24 สาขา โดยเชื่อว่า PT Service master จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยเพิ่มความสามารถและได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น”
อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของพนักงาน PT Service Master ที่เป็นรูปธรรมสะท้อนจากยอดขายของสาขา ซึ่งในแง่ของยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นราว 25% ของยอดขายปกติของสาขานั้นๆ เป็นอย่างน้อย และยอดบัตรสมาชิก MAX Card และ MAX Card Plus เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สูงกว่าสาขาปั๊มทั่วไปที่เคยทำได้ราว 4-5 เท่า นอกจากนี้ ทางด้านของการแจ้งข้อร้องเรียนผ่านเบอร์ 1614 ก็มีอัตราที่ลดลงเกือบเป็นศูนย์
“การบริการที่ดีเกินกว่าความคาดหวังจะทำให้ลูกค้าประทับใจ จะทำอย่างไรให้รู้จัก รู้ใจ ใกล้ชิดลูกค้า PT Service Master มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีกระบวนการคัดสรร มีการทดสอบผ่านการสัมภาษณ์ เข้ามาฝึกงาน มีการฝึกฝนก่อนปล่อยลงสถานีบริการจริง เรียกว่าเป็นมากว่าบริการเติมน้ำมัน เพราะองค์ความรู้ได้รับการอบรมอย่างดี เป็น One Stop Service ให้บริการเติมน้ำมัน พูดคุยเรื่องร้านกาแฟ มาร์ท น้ำมันเครื่อง และอื่น ๆ เพราะโปรโมชั่นมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ประเด็นที่สำคัญคือ หากต้องการทำวิจัยทั้งเรื่องน้ำมัน มาร์ท กาแฟ ก็สามารถให้พนักงาน PT Service Master พูดคุยกับลูกค้าได้” นายพิทักษ์ กล่าว