โดยแต่ละตัวจะมีหน้าที่ปฏิบัติงาน ณ อาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 สายพานที่ 1-23 ปฏิบัติงานเวรตรวจละ 2 ตัว 3 เวรครั้งละ 4 ชั่วโมง จำนวน 8-13 เที่ยวบิน/เวร ประจำการ ณ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อยู่ในการกำกับดูแลของกองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ ซึ่งทำหน้าที่ปฏิบัติงานตรวจสอบการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ ทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณอาคารผู้โดยสารนอกจากนี้ยังมีภารกิจนอกพื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ พื้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง, ระยอง, เชียงใหม่, เชียงราย, อุบลราชธานี, อุดรธานี, สุรินทร์, สระแก้ว,ภูเก็ต, สุราษฏร์ธานี (สมุย), น่าน หรือภารกิจ ณ สถานที่อื่น ตามความเหมาะสม
“สารวัตรบีเกิ้ล” จัดเป็น “สุนัข K-9” หรือสุนัขที่ถูกฝึกฝนในงานของตำรวจ ทหาร และหน่วยงานต่างๆ คำว่า K-9 เล่นคำย่อของคำลาติน Canine หมายถึงสัตว์ในตระกูลสุนัข โดยสุนัข K-9 จะเป็นสายพันธุ์ที่ฉลาด สามารถถูกฝึกให้มีวินัยต่าง ๆ โดยลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์บีเกิ้ลเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็ก ฉลาด แสนรู้ ว่องไว ประสาทสัมผัสการดมกลิ่นดี มีความเป็นมิตร จึงเหมาะกับการปฏิบัติงานในสนามบิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการตรวจค้นหาวัตถุสิ่งของที่ต้องสงสัย ให้กับเจ้าหน้าที่ในการป้องกันการลักลอบนำสัตว์ และซากสัตว์ที่อาจเป็นพาหะเชื้อโรคระบาดสัตว์ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและสุขอนามัยของประชาชนภายในประเทศได้
สำหรับชุดปฏิบัติการทีมสุนัขดมกลิ่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 เข้าร่วมภารกิจสนับสนุนการทำงานของสารวัตรกรมปศุสัตว์ที่ด่านกักกันสัตว์สุวรรณภูมิ เพื่อตรวจหาซากสัตว์ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ตามกระเป๋าเดินทางหรือสัมภาระของผู้โดยสาร ตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ 2558 เนื่องจากการลักลอบนำซากสัตว์เข้าราชอาณาจักรอยู่ในภาชนะปิดยากต่อการมองเห็นและตรวจสอบ มีผลต่อการนำโรคระบาดสัตว์เข้าสู่ประเทศนี่คือความจำเป็น ทำให้สารวัตรบีเกิ้ลมีความจำเป็นต่อภารกิจเป็นอย่างมาก
ยกตัวอย่างเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา เพียง 1 เดือน มีสถิติในการยึดอายัดสัตว์/ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ จำนวน 17 ครั้ง ยึด 64.8 กิโลกรัม (ก.ก.) คิดมูลค่า กว่า 32,995 บาท ประเทศต้นทางที่นำเข้ามามากที่สุดมา จากประเทศรัสเซีย รองลงมา คือ จากประเทศเวียดนาม เป็นต้น
ผลงานเด่นที่ผ่านมา “สารวัตรบีเกิ้ล” เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 เวลา 12.40 น. “สารวัตรบีเกิ้ล” ได้ตรวจสัมภาระผู้ต้องสงสัยชาวเวียดนาม ตรวจสอบเที่ยวบินมาจากต้นทางรัสเซีย (มอสโคว์) ซุกไส้กรอกสุกร จำนวน 9 แพ็ค น้ำหนัก 9 กิโลกรัมและหมูสามชั้น 3 แพ็ค รวมมูลค่า 5,700 บาท ดำเนินการยึดอายัดและเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เพื่อรออนุมัติทำลายตามระเบียบกรมปศุสัตว์ ว่าด้วยการทำลายหรือจัดการโดยวิธีอื่นซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ที่ถูกยึดหรืออายัดไว้กรณีนำเข้าหรือนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 ต่อไป
จากความเข้มงวดในการตรวจหาซากสัตว์ เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ ตามกระเป๋าเดินทางหรือสัมภาระของผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยสามารถป้องกันการเกิดโรคระบาดในสัตว์จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศได้เป็นอย่างดี มาตรการดังกล่าวได้ส่งผลดีต่อภาพรวมของการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไทย และทำให้นานาชาติเกิดความเชื่อมั่นในการควบคุมโรคระบาดสัตว์ในประเทศ สร้างภาพลักษณ์และความมั่นใจด้านสินค้าปศุสัตว์ของไทยแก่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ