หลายธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับการทรานส์ฟอร์มองค์กรเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน และสร้างให้พนักงานได้เติบโตไปพร้อมกับความสำเร็จขององค์กร เช่นเดียวกับ บริษัท แสนสิริ จำกัด( มหาชน) ประสบความสำเร็จ สู่ท็อปฟอร์มอันดับ 1 บริษัทฯ อสังหาริมทรัพย์ที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ผ่านกลยุทธ์ “People Partner” ที่นำทัพ HR Transformation ก้าวข้ามความท้าทาย จนสู่ Sansiri All-Time High 2023 ที่ประสบความสำเร็จในวันนี้
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ Chief of Staff บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริ” วางกลยุทธ์ของ HR ให้เป็น “People Partner” ที่เปรียบเสมือนหุ้นส่วนของบริษัทและเพื่อนคู่คิดของพนักงาน ที่ดึงศักยภาพของพนักงานออกมาในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำงานอย่างมีความสุข และเติบโตไปพร้อมกับองค์กร ทำให้ในวันนี้ แสนสิริ ขึ้นแท่นอันดับ 1 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด โดยเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัล 2 รางวัลใหญ่แห่งปี ได้แก่ “องค์กรที่ New Generation คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด” และ “องค์กร 1 ใน 5 Top of Mind ในฐานะ Diversity & Inclusion Companies 2023 บริษัทที่มีความโดดเด่นด้านการยอมรับความหลากหลายและความเท่าเทียมในองค์กร” จาก QGEN บริษัทที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน People & Organization”
นอกจากนี้ จากผลสำรวจจาก Universum Talent Research ของประเทศไทยในปีนี้ แสนสิริ คว้า Top 10 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วย ครองใจนักศึกษาไทย 8,447 คนจาก 112 สาขา ในมหาวิทยาลัยและสถานศึกษา 23 แห่งทั่วประเทศ โดยแสนสิริอยู่ในอันดับ 10 จากสาขาวิศวกรรม, อันดับ 18 จากสาขาบริหารธุรกิจ และอันดับที่ 22 จากสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ รวมถึง Top 50 Employers in Thailand 2023 หรือ 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด จากการสำรวจของ WorkVenture และในเวปไซต์ WorkVenture.com แสนสิริได้คะแนนจากผู้รีวิว ว่าเป็นบริษัทที่จะแนะนำเพื่อนมาทำงานด้วยคะแนนเต็ม 100%
นายภูมิภักดิ์ กล่าวต่อว่า “การที่แสนสิริได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในบริษัทฯที่คนรุ่นใหม่และนักศึกษาอยากทำงานด้วยมากที่สุด ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น การที่บริษัทฯจะประสบความสำเร็จได้ ควรขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำอย่างไรให้คนที่เข้ามาทำงานในองค์กรของเรานั้น ทำงานอยู่กับเราต่อไปในระยะยาว ซึ่งจุดเริ่มต้นของภารกิจนี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่วงที่แสนสิริย้ายสำนักงานจากอาคารสิริภิญโญ เขตพญาไท มาอยู่ที่ สิริ แคมปัส ซอยอ่อนนุช 1/1"
HR Transformation ของแสนสิริเกิดขึ้นในช่วงก่อนโควิด ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายในการ disrupt ปรับทั้งแผนและกลยุทธ์ต่างๆให้เข้ากับสถานการณ์ ปัจจุบันนี้ถือว่า เราได้เดินทางในการ Transform มาได้ตามเป้าหมาย
ดังนั้น สิ่งที่ทาง HR ส่วนใหญ่มักจะทำกันก็คือ สร้าง Engagement ความผูกพันธ์กับองค์กรให้กับพนักงาน โดยเพิ่มสวัสดิการจูงใจต่างๆให้กับพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น การให้ทำงานที่บ้านได้ (Work from Home) เข้าออกสำนักงานเวลาไหนก็ได้ (Flexible Hour) หรือ ให้งบประมาณในการไปทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ
"แสนสิริ ไม่เชื่อว่าการปรับสวัสดิการต่างๆนั้นจะสามารถสร้าง Engagement อย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว ผมยืนยันว่าสวัสดิการต่างๆของเราแข่งขันได้และก็ดีกว่าในหลายๆบริษัทแน่นอน" แสนสิริ เราเชื่อว่า การรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรไปนานๆนั้น ไม่ควรไป Focus อยู่ที่การสร้าง Engagement อย่างเดียว แต่เราต้องทำให้พนักงานรักในงานที่ทำ รู้สึกภูมิใจในงานที่ทำ เพื่อช่วยส่งเสริมให้บริษัทเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือที่เรียกว่า Employee Thriving
จากการทำวิจัยในองค์กรพนักงานส่วนใหญ่ 4 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขกับการทำงานไปพร้อมกับ Result Oriented จะมีหลักๆด้วยกัน 4 อย่างคือ หัวหน้างาน ปริมาณงาน การสื่อสาร และ ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ดังนั้น Mission ของ HR จึงเริ่มในการแก้ไขสาเหตุทั้ง 4 ข้อ
ดังนั้นสิ่งที่ HR ดำเนินการ คือ การเดินสายคุยกับหัวหน้างาน พร้อมคอยกำชับดูแลเรื่องระบบพี่เลี้ยงให้มีประสิทธิภาพ เพราะการสอนงานเป็นเรื่องที่สำคัญมาก นอกจากนี้ HR จะช่วยกำกับเรื่องจำนวนการจัดประชุมต่างๆในแต่ละเดือน ซึ่งรวมถึง Monitor ระยะเวลาในการประชุมแต่ละครั้งให้มีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือ HR จะคอยติดตามพนักงานแต่ละคนว่า ลักษณะการทำงานได้เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่
สำหรับเรื่องการสื่อสารนั้น พนักงานทุกคนนอกจากจะต้องเข้าใจงานของทีมตัวเองแล้ว ยังต้องมีความเข้าใจกระบวนการทำงานทั้งหมดของบริษัทฯ หรือ Value Chain ด้วย (ซึ่งพนักงานทุกคนที่เข้ามาทำงานจะต้องผ่านการอบรมเรื่องนี้ก่อนปฏิบัติงานจริง) เมื่อทุกคนมีความเข้าใจกระบวนการทำงานที่ดีแล้ว จะมีความเข้าใจกันและกันมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน (Career path) ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่จะทำให้พนักงานทำงานอยู่กับองค์กรเป็นระยะเวลานาน เพราะต้องมองเห็นอนาคตและการเติบโตในบริษัทที่ชัดเจน ที่ผ่านมาทาง HR จะรับหน้าที่หลักในการดูแลเรื่องของการปรับเงินเดือนและปรับตำแหน่งซึ่งส่วนใหญ่จะมาตามผลประเมินหรือ KPI ของแต่ละคน
ขณะที่การมีส่วนร่วมของหัวหน้างานจึงความสำคัญมาก ทาง HR จะให้น้ำหนัก Input ของหัวหน้าประกอบด้วย จะไม่ใช้ข้อมูลจากคะแนนประเมินเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้แสนสิริ ยังเปิดโอกาสให้คนเก่งมีความสามารถที่มีผลงานโดดเด่นสามารถเติบโตในหน้าที่การงานได้อย่างรวดเร็ว
หากพนักงานสามารถพิสูจน์ได้ว่า สามารถทำงานได้หลากหลายมากขึ้น (มี Scope of work ที่มากขึ้น) มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีภาวะผู้นำ ก็สามารถปรับระดับเร็วกว่าพนักงานที่อายุเท่าๆกันหรือเข้างานพร้อมๆกัน ดังนั้นประสบการณ์ทำงานและอายุก็เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น แต่ปัจจัยสำคัญกว่าคือ ความรู้ความสามารถและการพัฒนาตนเอง เพราะสิ่งนี้จะทำให้พนักงานคนใดคนหนึ่งมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้ดี
หลังจากทำ HR Transformation ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ถือว่าบริษัทฯ ประสบความสำเร็จด้านการ Transform ในการสรรหาพนักงาน (Recruitment) โดยปกติ บริษัททั่วๆไปจะแย่งนักศึกษาที่เป็น Talent มาทำงานกับองค์กร แต่แสนสิริ เรามองต่าง เนื่องจากในการทำงานจริง คนที่เข้าใจวัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture) และมีวัฒนธรรมในการทำงานเหมือนๆ กันเท่านั้น ถึงจะทำงานร่วมกันในระยะยาวได้
"เราจึงเน้นรับนักศึกษาที่มี DNA ตรงกับความเป็นแสนสิริมากกว่าการไปแก่งแย่งนักศึกษาที่เป็น Talent กับองค์กรอื่น ซึ่งเราเชื่อว่าเรามีกระบวนการอบรมที่ดี พร้อมที่จะพัฒนาให้พนักงานใหม่เป็นคนเก่งได้ในอนาคต" หากถามว่า DNA ของแสนสิริ ประกอบด้วยอะไร คือ การเป็นคนที่มีความอยากพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา มีความกระหายที่จะประสบความสำเร็จ มีวินัยในการทำงานทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี และที่สำคัญที่สุดคือ การเป็น Good Citizen ที่รับผิดชอบต่อสังคมใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเคารพในสิทธิของผู้อื่น
แสนสิริ เรียกตำแหน่ง HR ว่า People Partner ซึ่งเป็นเหมือนหุ้นส่วนของบริษัทและเพื่อนคู่คิดของพนักงาน HR ของเราทำงานแบบ Personalization ให้ตรงกับโจทย์ของธุรกิจ ลงรายละเอียดของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงพนักงานแต่ละคนที่มีศักยภาพและจุดแข็งแตกต่างกัน HR ต้องทำงานหนักและมีบทบาทสำคัญในการผลักดันธุรกิจต่างจากบริบทของ HR เดิมๆ
นอกจากนี้ HR ต้องเก่งมีความรอบรู้ในกระบวนการทำงานของทุกๆฝ่าย โดยจะแบ่งทีมงานดูแลแต่ละฝ่ายแตกต่างกันไปดำเนินการ Personalize ในแต่ละทีม แสนสิริโชคดีที่ HR เก่งและมีความรู้รอบด้าน สามารถช่วยทำให้ Transform ได้อย่างราบรื่น
"สิ่งที่เรายังมุ่งมั่น ทำต่อเนื่องก็คือ การปิด Generation Gap ในองค์กร เนื่องจากพนักงาน แสนสิริเป็นองค์กรที่ก่อตั้งมาเกือบ 40 ปีแล้ว ดังนั้นพนักงานจะมีตั้งแต่รุ่น Baby Boomer, Gen X, Gen Y และ Gen Z ซึ่งขณะนี้สัดส่วนของพนักงานที่มากที่สุดจะอยู่ที่ Gen Y โดยจะมี Gen Z เพิ่มขึ้นมาทุกๆปี"
ทั้งนี้การสื่อสารการทำงานร่วมกันของทุก Generation ถือเป็นเรื่องสำคัญและท้าทายมากสำหรับแสนสิริ เราต้องการทำให้องค์กรเป็นองค์กรที่ ทุก Generation ให้โอกาสเปิดรับความคิดเห็นของทุก Generation โดยไม่มีข้อจำกัด Baby Boomer และ Gen X อาจจะมีความได้เปรียบเรื่องประสบการณ์
นอกจากนี้ Gen Y และ Gen Z จะมีความได้เปรียบเรื่องของ Technology และพฤติกรรมของผู้บริโภคปัจจุบัน เพราะมีความเข้าใจด้าน Technology มากกว่า หากทุกคนสามารถสื่อสารกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานมุ่งไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน
"ผมเชื่อว่าพนักงานทุกคนก็จะมีความผูกพันธ์กับองค์กร และทำงานอย่างมีความสุข พร้อมที่จะผลักดันให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป”