TOA โชว์ยอดขายไตรมาส 2/65 ทะลุ 5,201 ล้านบาท เติบโต 16%ควักปันผล 0.25 บาท/หุ้น

20 ส.ค. 2565 | 07:39 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ส.ค. 2565 | 14:58 น.

TOA โชว์ยอดขายไตรมาส 2/65 ทะลุ 5,201 ล้านบาท เติบโต 16%ควักปันผล 0.25 บาท/หุ้นหลังกวาดรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง

 

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/65 บริษัทฯ มียอดขาย 5,201ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 16% (เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน)ส่งผลให้ยอดขายในงวดครึ่งปีแรกอยู่ที่ 10,166 ล้านบาท

 

เติบโตขึ้นถึง 14%จากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคารและเคมีภัณฑ์ก่อสร้างทั้งในละต่างประเทศ เสริมด้วยการเติบโตของยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มยิปซั่มบอร์ดอย่างไรก็ตาม ราคาวัตถุดิบในช่วงไตรมาส 2 ที่ได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

 

TOA โชว์ยอดขายไตรมาส 2/65 ทะลุ 5,201 ล้านบาท เติบโต 16%ควักปันผล 0.25 บาท/หุ้น

ผนวกกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ส่งผลให้ราคาพลังงานสูงขึ้น ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นตั้นของบริษัทฯปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้กำไรจากธุรกิจหลักสำหรับไตรมาส 2 เป็นเงิน 473 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน 13%

 

ในขณะที่กำไรจากธุรกิจหลัก สำหรับครึ่งปีแรกเป็นเงิน 920 ล้านบาท ลดลง 21%อย่างไรก็ตามเมื่อรวมการบันทึกมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน และกำไร(ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรสุทธิในไตรมาส 2 อยู่ที่ 368 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน 32% และกำไรสุทธิสำหรับงวดครึ่งปีแรก เป็นเงิน 778ล้านบาท ลดลง 36%

 

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ปรับราคาขายสินค้าเป็นครั้งที่ 3 ในช่วงไตรมาส 2เพื่อให้สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นประกอบกับแนวโน้มราคาพลังงานที่ชะลอความร้อนแรงลงและค่าเงินบาทที่กลับแข็งค่าขึ้นจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของกำไรขั้นต้นในไตรมาส 3ในขณะที่บริษัทฯ มีกำไรต่อหุ้นสำหรับงวดครึ่งปีแรก 0.38 บาทต่อหุ้น

 

ลดลงจากงวดครึ่งแรกของปีก่อนซึ่งมีกำไรต่อหุ้น 0.60 บาท/หุ้นและได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกจำนวน 0.25 บาท/หุ้น เท่ากับงวดเดียวกันของปีก่อน

 

บริษัทฯให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการแบบ TotalSolution และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุดเพื่อสร้างสรรค์ความสวยงามให้กับที่อยู่อาศัยและโลกใบนี้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจ

 

 

ที่ยังคงทำให้ทีโอเอ เป็นแบรนด์ ยอดนิยมอันดับ 1 ที่ลูกค้าเชื่อมั่นไว้วางใจและเลือกใช้มาโดยตลอด นอกจากนี้ เรายังมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมถึงการสร้างกระบวนการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

 

 

ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความสามารถในแข่งขันสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จนทำให้เราก้าวผ่านความท้าทายในการดำเนินธุรกิจมาตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปี ของทีโอเอ” นายจตุภัทร์กล่าวทิ้งท้าย