กรมที่ดินแนะประชาชนเข้าทำประโยชน์ที่ดิน เพื่อปกป้องสิทธิผ่าน LandsMaps

03 ก.ย. 2565 | 03:16 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ย. 2565 | 10:25 น.

กรมที่ดินแนะประชาชนเจ้าของที่ดิน เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน เพื่อปกป้องสิทธิไม่ให้ถูกยึดผ่าน Application LandsMapsของกรมที่ดิน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความอุ่นใจ แม้ที่ผ่านมาไม่เคยยึดแม้แต่แปลงเดียวก็ตาม

 

กรณีมีการเผยแพร่ ในโลกโซเซียล ว่า”หากเจ้าของที่ดินปล่อยที่ดินทิ้งร้างไม่ทำประโยชน์นานเกิน 10 ปี ระวังโดนรัฐยึดคืนตาม มาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497โดยออกประกาศระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้ตกเป็นของรัฐ พ.ศ 2522” นั้น

 

 

 กรมที่ดินจึงขอแนะนำให้ประชาชนผู้มีสิทธิในที่ดินได้ตรวจสอบที่ดินและเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเพื่อปกป้องและรักษาสิทธิในที่ดินของตนเอง โดยสามารถตรวจสอบรูปแปลงที่ดินผ่าน Application LandsMaps ของกรมที่ดิน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและอุ่นในในทรัพย์สิน

 

ขณะเดียวกันกรมที่ดิน ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ตั้งแต่มีประกาศกระทรวงมหาดไทยปี2522  ยังไม่เคยมีคำสั่งศาลให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ตกเป็นของรัฐ แต่อย่างใด แต่ทั้งนี้เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันเจ้าของที่ดินควรเข้าไปทำประโยชน์ดังกล่าว

 

 

สำหรับ ข้อบัญญัติดังกล่าวระบุว่า "นับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับ บุคคลใดมีสิทธิในที่ดินตามโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หากบุคคลนั้นทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน หรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาดังต่อไปนี้

 

 

(1) สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน เกินสิบปีติดต่อกัน

(2) สำหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เกินห้าปีติดต่อกัน

 

ให้ถือว่าเจตนาสละสิทธิในที่ดินเฉพาะส่วนที่ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ หรือที่ปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า เมื่ออธิบดี (กรมที่ดิน) ได้ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลได้สั่งเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าวให้ที่ดินนั้นตกเป็นของรัฐเพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายนี้ต่อไป"

 

ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้วางระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้ตกเป็นของรัฐ พ.ศ.2522 ลงวันที่ 9มีนาคม2522

 

กรมที่ดิน ชี้แจงปล่อยที่ดินทิ้งร้างไม่ทำประโยชน์เกิน 10 ปี โดนรัฐยึดคืนว่าการพิจารณาว่าที่ดินแปลงใดมีผู้ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้พิจารณาถึงการทำประโยชน์ เพียงแต่ล้อมรั้วหรือเสียภาษีบำรุงท้องที่

 

แต่ไม่ทำประโยชน์ย่อมถือว่าเป็นการทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า สำหรับที่ดินซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านหรือในเมือง แม้จะยังไม่ได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยแต่เจ้าของยังมีเจตนายึดถือเพื่อตนอยู่

 

ให้ถือว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่ได้ทำประโยชน์แล้วโดยสภาพ โดยภายในเดือนมกราคมของทุกปีจังหวัดจะสำรวจว่ามีที่ดินแปลงใดบ้างที่มีผู้ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาสิบปีติดต่อกัน

 

 

สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน หรือห้าปีติดต่อกันสำหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และรายงานกระทรวงมหาดไทยทราบ ซึ่งก่อนส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยจะมีขั้นตอนการดำเนินการสรุปได้ดังนี้

 

  (1 )จังหวัดหรืออำเภอจะทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของที่ดินที่ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า จัดการหรือเร่งรัดให้มีการทำประโยชน์ภายในเวลา 3 เดือนนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

 

( 2)เมื่อครบกำหนดแล้วยังไม่จัดการให้มีการทำประโยชน์ให้จังหวัดตั้งกรรมการเพื่อพิจารณาว่ามีการทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดินหรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาจริงหรือไม่เพียงใด

 

(3)เมื่อคณะกรรมการมีความเห็นว่ามีการทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดินหรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาจริงให้จังหวัดทำความเห็นส่งกรมที่ดินเพื่อพิจารณาดำเนินการส่งเรื่องให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าวให้ตกเป็นของรัฐต่อไป