ปัจจุบันการเดินทางระหว่างช่วงอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ไปยังตัวเมืองจังหวัดตาก จำเป็นต้องอาศัยทางหลวงหมายเลข 12 สายตาก-แม่สอด เป็นเส้นทางคมนาคมหลักเพียงเส้นทางเดียว แม้ว่ากรมทางหลวง(ทล.) จะได้รับงบประมาณในการก่อสร้างขยายเส้นทางนี้ให้เป็นทางหลวง 4 ช่องจราจร แต่เนื่องจากแนวเส้นทางยังมีข้อจำกัดด้านกายภาพที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ลักษณะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวและมีความลาดชันสูง เนื่องจากภูมิประเทศเป็นลักษณะภูเขาทำให้ไม่เอื้ออำนวยต่อการขนส่งสินค้าปริมาณมาก รวมถึงมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณดอยรวก
ประกอบกับข้อมูลปริมาณการค้าชายแดนในปี 2559 ที่ผ่านมาพบว่ามีสูงกว่า 8.3 หมื่นล้านบาทและยังเติบโตต่อเนื่อง 20-25% ต่อปีดังนั้นจากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2557 จึงมีข้อเสนอให้ทล.ดำเนินการศึกษาการขุดเจาะอุโมงค์ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (สายตาก-แม่สอด) เพื่อย่นระยะทาง ลดทางโค้งให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจร
ดังนั้น เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางและขนส่งสินค้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต และเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างอำเภอแม่สอดไปยังตัวเมืองจังหวัดตาก ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รวมทั้งเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทล.จึงได้บรรจุให้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายตาก-แม่สอด เป็นหนึ่งในโครงข่ายสายทางตามแผนแม่บทการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ปี 2560-2579
สำหรับมอเตอร์เวย์เส้นทางสายนี้มีระยะทางประมาณ 70-80 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 1 แสนล้านบาทเนื่องจากมีการก่อสร้างอุโมงค์ 2 แห่ง รวมระยะทางยาวประมาณ 25 กิโลเมตรจัดเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพสามารถเป็นตัวชี้นำการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค เชื่อมโยงการเดินทางระหว่างเมืองศูนย์กลางภาคเหนือ จังหวัดตาก และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยจะส่งผลให้การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้มีความเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ยั่งยืน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมและเพิ่มศักยภาพต่อโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด-เมียวดีของรัฐบาล 2 ประเทศ
นอกจากนั้นยังช่วยลดปัญหาการเสี่ยงอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เส้นทางหลวงระหว่างตาก-แม่สอด ทำให้การเดินทางสู่พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มโครงข่ายทางหลวงพิเศษสาย M2 เข้าสู่พื้นที่ชายแดนด้านตะวันตก ขยายโรงข่ายการเชื่อมโยง AEC ได้กว้างไกลมากขึ้นพร้อมกับการมีส่วนร่วมชี้นำชี้นำความเจริญและส่งเสริมความเข้มแข็งในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ดังนั้นนอกเหนือจากที่รัฐบาลโดยทล.จะเร่งเปิดใช้บริการสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 ในปลายปี 2561 แล้วซึ่งคาดว่าสภาพการจราจรจะหนาแน่นสมควรที่จะมีถนนเพื่อการเชื่อมโยงดังนั้นทล.จึงวางแผนก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายแม่สอด-ตาก รองรับไว้ตั้งแต่วันนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมาได้เปิดรับฟังความเห็นประชาชน ครั้งที่ 1 ก่อนที่จะเปิดรับฟังความเห็นครบ 3 ครั้งและนำความเห็นทั้งหมดสรุปนำเสนอผู้บริหารทล.เร่งผลักดันต่อไปโดยการศึกษาความเหมาะสมในครั้งนี้มีระยะเวลา 15 เดือน คาดว่าการศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมจะแล้วเสร็จในปี 2561 แล้วนำบรรจุในงบประมาณปี 2562 ต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,249 วันที่ 2 - 5 เมษายน พ.ศ. 2560