17ปีกรมโยธาฯบังคับใช้ผังเมืองคลุม 73 จว.

03 ต.ค. 2562 | 12:42 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2562 | 05:16 น.

 

17ปีกรมโยธาฯบังคับใช้ผังเมืองคลุม 73 จว.

17ปีกรมโยธาฯบังคับใช้ผังเมืองคลุม 73 จว.

 วันนี้ (3 ตุลาคม 2562)  กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดงานครบรอบ 17 ปี นับตั้งแต่การรวมกรมโยธาธิการ และกรมการผังเมือง เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 ซึ่งเป็นผลจากการปฏิรูประบบราชการ โดยบูรณาการงานที่เกี่ยวเนื่องของทั้งสองกรมเข้าด้วยกัน และมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาเมืองที่สัมฤทธิ์ผล ตามวัตถุประสงค์ของ   การผังเมืองอย่างแท้จริง อันจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน

-บังคับใช้ผังเมือง73จว.ทั่วไทย

17ปีกรมโยธาฯบังคับใช้ผังเมืองคลุม 73 จว.

 ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา กรมฯ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการฯ ต่างๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้นำเอานโยบายแปลงไปสู่การปฏิบัติงานตามภารกิจ 4 ด้าน ได้แก่ ภารกิจด้านการผังเมือง ด้านการพัฒนาเมือง ด้านการอาคาร และด้านการให้บริการด้านช่าง มีผลการดำเนินงาน       ที่สำคัญ อาทิ  ภารกิจด้านการผังเมือง มีการบังคับใช้ผังเมืองรวมจังหวัด ครบทั้ง 73 จังหวัด ในปี 2560 (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต นนทบุรี และสมุทรปราการ เนื่องจากมีการวางผังเมืองรวมครอบคลุมทั้งพื้นที่แล้ว) โครงการวางผังการระบายน้ำจังหวัดในลุ่มน้ำ กรมฯ ได้จัดทำแผนดำเนินโครงการวางผังการระบายน้ำจังหวัดในลุ่มน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำทั่วประเทศ 25 ลุ่มน้ำ และนำผังดังกล่าวมาเป็นแนวทางและข้อมูลในการศึกษาเพื่อดำเนินการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเพื่อการแก้ไขปัญหาการระบายน้ำการป้องกันน้ำท่วมและการบรรเทาอุทกภัย

   นอกจากนี้ยังมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 ทำให้ผังเมืองมีความสอดคล้องและเชื่อมโยง        เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการผังเมืองได้เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การจัดระบบระเบียบดีขึ้น ส่งผลให้บูรณาการร่วมกันได้ดีขึ้นทุกภาคส่วน  

ที่สำคัญคือการวางผังพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เพื่อชี้นำการใช้ประโยชน์ที่ดิน การคมนาคมและขนส่ง และกิจการสาธารณูปโภค ให้มีทิศทางที่เป็นระบบและมีระเบียบ รองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ภารกิจด้านการพัฒนาเมืองโครงการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และยอมรับ      การประกอบอาชีพของประชาชนในพื้นที่

 

 

 

 

-วางผังน้ำแก้ท่วมซ้ำซาก

                17ปีกรมโยธาฯบังคับใช้ผังเมืองคลุม 73 จว.

 โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำทั่วประเทศ และเขื่อนชายแดน เพื่อแก้ปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่ง     ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อาคาร บ้านเรือน วัด โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนระบบสาธารณูปโภค รวมถึง        การสูญเสียดินแดน โครงการพัฒนาตามผังเมือง เป็นการต่อยอดงานผังเมืองมาเป็นโครงการพัฒนาเมืองเพื่อให้เกิดเมืองน่าอยู่ สะดวกสบาย ปลอดภัย มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม โครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม       ของชุมชน สภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดี อาทิ โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวชุมชนเชียงคาน โครงการสะพานเลียบชายฝั่งทะเลจังหวัดชลบุรี   โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม โดยกรมฯ ได้ใช้ผังการระบายน้ำจังหวัดในลุ่มน้ำมาใช้ในการออกแบบก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ที่กำหนด เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชน พื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่โบราณสถาน และพื้นที่บรรเทาทุกข์ที่เกิดจากปัญหาน้ำท่วมรุนแรง และเกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งประกอบด้วยคันป้องกันน้ำท่วม อาคารระบายน้ำ       และการปรับปรุงระบบระบายน้ำให้มีความมั่นคงแข็งแรง  

            ขณะโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ เป็นเครื่องมือในการผลักดันให้เกิดถนนตามผังเมืองโดยไม่ต้องเวนคืนที่ดิน โดยนำแปลงที่ดินหลายแปลงมารวมกันแล้วจัดรูปแปลงที่ดินใหม่ให้เป็นระเบียบสวยงามตามแผนผังที่วางไว้ พร้อมกับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริเวณสาธารณะให้ได้มาตรฐาน แก้ปัญหาที่ดินตาบอด ทั้งนี้ กรมฯ ได้ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินแล้วเสร็จ          จำนวน 50 โครงการ ใน 43 จังหวัด และได้แจกโฉนดที่ดินแปลงใหม่ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 16 โครงการ                     

-เข้มอาคาร9ประเภท                                   

17ปีกรมโยธาฯบังคับใช้ผังเมืองคลุม 73 จว.

นอกจาก ภาระกิจด้านผังเมืองแล้ว  ยังให้ความสำคัญด้านอาคาร อาทิ  ดำเนินการตรวจสอบอาคารภาครัฐ 9 ประเภท ทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี จำนวนประมาณ 500 อาคาร   และโครงการสุ่มตรวจความปลอดภัยอาคารของเอกชน 9 ประเภท ทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี จำนวนประมาณ 500 อาคาร    ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้อาคาร พร้อมทั้งจัดทำมาตรฐานด้านความปลอดภัยของอาคาร และเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ         ที่ 6/2562 เรื่อง มาตรการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการประกอบธุรกิจโรงแรมบางประเภท จะทำให้โรงแรมประเภทที่ 1        (มีห้องพักอย่างเดียวไม่เกิน 50 ห้อง) และโรงแรมประเภทที่ 2 (มีบริการห้องพักอย่างเดียวเกิน 50 ห้อง หรือมีบริการเฉพาะห้องพักและห้องอาหาร) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก ที่สร้างก่อนปี 2559 และอยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามกฎกระทรวง เรื่องกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559”    ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 มีโอกาสได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ทั้งนี้การผ่อนผันตาม ม.44 ในเรื่องนี้ จะมีผลบังคับใช้ไปถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2564

สำหรับภารกิจด้านการบริการด้านช่าง กรมฯ ได้ให้คำปรึกษา แนะนำด้านช่าง งานก่อสร้างพลับพลาพิธี และให้บริการศูนย์ทดสอบวัสดุแก่หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และประชาชน อีกภารกิจสำคัญ คือ การแก้ไขปัญหาผักตบชวาตามนโยบายรัฐบาล ในแหล่งน้ำสาธารณะที่ประสบปัญหาผักตบชวาหนาแน่น ปัจจุบันกรมฯ มีแบคโฮบนโป๊ะ 5 ลำ สามารถกำจัดผักตบชวาได้ประมาณ250 ตัน/วัน เรือสายพานลำเลียง ขนาดใหญ่ 25 ลำ สามารถกำจัดผักตบชวาได้ประมาณ 120 ตัน/วัน และเรือกำจัดผักตบชวาขนาดเล็ก 10 ลำ สามารถกำจัดผักตบชวาได้ประมาณ 25 ตัน/วัน รวม 40 ลำ พร้อมบุคลากรที่จะช่วยในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ และการดำเนินโครงการแบบบ้านสานฝัน ของขวัญปีใหม่ คนไทยมีความสุข ตั้งแต่ปี 2559 โดยที่ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออกแบบบ้าน สามารถนำไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างได้ทันที ซึ่งปี 2562 จัดทำ แบบบ้านอารยสถาปัตย์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมผู้สูงอายุหรือบุคคลซึ่งมีข้อจำกัด   ในการปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันและ แบบบ้านสำเร็จรูปเพื่อแก้ไขปัญหาในการก่อสร้างที่พักอาศัยให้               มีความสะดวก รวดเร็ว และประหยัด สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ประสบภัยธรรมชาติ

         

 “กรมโยธาธิการและผังเมือง จะเข้าสู่ปีที่ 18 ในฐานะหน่วยงานองค์กรหลักของประเทศด้านการผังเมือง การพัฒนาเมือง การอาคาร และการบริการด้านช่าง ซึ่งพร้อมจะดำเนินงานตามภารกิจ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ตามเป้าหมาย            ด้วยความมุ่งมั่น สร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาประเทศต่อไป