เอกสารเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน ในพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 มูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาทเคยระบุว่า การก่อสร้างจะเริ่มต้นได้ในปี2563 แต่ปัจจุบัน ยังไม่เริ่มแม้แต่การเวนคืนที่ดิน สร้างความเสียหายต่อการขยายธุรกิจอย่างมากเพราะที่ดินถูกล็อกในแนวเขตทาง
นายบุญชู กมุทมาโนชญ์ เลขาธิการสมาพันธ์ SMEไทยภาคเหนือได้เชิญชวนผู้ประกอบการ SME และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมเสวนาโต๊ะกลม เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 จังหวัดพะเยา เครือข่ายคนรักรถไฟได้พร้อมใจกันมาติดตามข่าวสารการสร้างทางรถไฟทางคู่ดังกล่าวและได้เปิดแสดงความคิดเห็นหลากหลาย ผู้ร่วมประชุมหลายคนกังวลใจเกี่ยวกับความล่าช้าของโครงการฯเพราะในแผนแม่บท การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เคยแจกเอกสารว่าจะเริ่มการก่อสร้างในปี 2563 ขณะนี้ยังไม่เข้าสู่การเวนคืนที่ดินอันเนื่องมาจากความล่าช้าของการเดินเอกสารต่างๆ และขั้นตอนของระบบราชการ จึงได้ขอความวิงวอน
ทุกภาคส่วนขับเคลื่อนแบบบูรณาการหลังจากที่โควิด 19 เริ่มคลี่คลาย ผู้ประกอบการ SMEและประชาชนได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัส จากพิษเศรษฐกิจ จึงมีแนวความคิดว่าระบบโลจิสติกส์ทางรางเป็นส่วนสำคัญของการเพิ่มธุรกิจเข้ามาในท้องถิ่น
การขนส่งสินจากระเบียงเศรษฐกิจ นอร์ท อีส คอริดอร์ สู่ทุกภูมิภาคการขนคน รวมทั้งการเติบโตของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นดัชนีสำคัญของการเพิ่ม GDP ของชุมชนที่มีเส้นรถไฟพาดผ่าน โครงการรถไฟดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่ ปี 2503 เมื่อ 60 ปีที่แล้ว การเว้นช่วงประหนึ่งเป็นการตอนความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและสังคมเพิ่มพื้นสังคมชายขอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประชาชนภูมิภาคล้านนาตะวันออกจึงได้รวมตัวกัน เพื่อเป็นนัยสำคัญที่จะสื่อสารมายังภาครัฐ ได้เชื่อมโยงงานเอกสารอย่างบูรณาการ มติที่ประชุมได้มีแนวความคิดที่จะติดป้ายประชาสัมพันธ์ในทุกจังหวัด ยืนยันว่าเป็นโครงการที่ประชาชนเฝ้ารอมา 60 ปี แม้ว่า รฟท.ยังไม่เริ่มการก่อสร้างฯ นักธุรกิจได้เริ่มมาหาช่องทางการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับโลจิสติกส์ทางราง
“ผู้ประกอบการสร้างบ้านขายโดน 2 เด้งจากพิษโควิดนอนซมซด น้ำข้าวต้ม ซ้ำร้ายพื้นที่โครงการอยู่ในแนวเวนคืนยิ่งกว่าตายทั้งเป็นถึงแม้ พระราชกฤษฎีกา (พรฎ) เวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังไม่บังคับใช้ แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ไม่อนุญาตให้มีการก่อสร้างในเชิงธุรกิจ ทั้งนี้การเสวนาโต๊ะกลมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประชาชน ล้านนาตะวันออก 4 จังหวัด และเป็นการขอบคุณภาครัฐและทุกองคาพยพ ร่วมขับเคลื่อนโครงรถไฟสายประวัติศาสตร์นี้ ให้ทันในช่วงชีวิตคนรุ่นนี้
ด้านนายนิรุฒ มณีพันธุ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่าโครงการรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ คาดว่าเตรียมเปิดประมูลได้ในปลายปี 2563 สอดคล้องกับ แหล่งข่าวรฟท. ยืนยันว่า หากบริษัทลงนามในสัญญา สามารถลงสำรวจพื้นที่เพื่อเวนคืนได้ทันที ภายในปีนี้
หน้า 7 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,596 วันที่ 30 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563