นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูปและบริการหลังการขายภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,331.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ มีรายได้รวม 1,237.22 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิได้ 195.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.50% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิรวม 168.20 ล้านบาท
โดยมีปัจจัยความสำเร็จมาจากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างของกลุ่มลูกค้าโครงการที่พัฒนาโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และกลุ่มห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่เดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่มีการเติบโตที่ดีเช่นกัน
นอกจากนี้ ด้วยขีดความสามารถการแข่งขันของ DRT ที่เพิ่มสูงขึ้น จากการเริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ NT-11 ช่วยเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไม้สังเคราะห์และแบรนด์ ‘ตราเพชร’ ที่แข็งแกร่ง รวมถึงการบริหารจัดการด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยโดยรวมสูงถึง 90% จากเป้าหมายเฉลี่ย 80% ของกำลังการผลิตโดยรวม เป็นผลให้การดำเนินงานของ DRT ขยายตัวได้ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้
“แม้ในไตรมาสแรกของปีนี้จะเกิดปัจจัยลบการแพร่ระบาด Covid-19 แต่เราประสบความสำเร็จในการผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตได้ดีกว่าแผนที่วางไว้ ทั้งแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ สะท้อนถึงขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดวัสดุก่อสร้างของตราเพชร ที่มีจุดแข็งด้านแบรนด์สินค้าและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ รวมถึงช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมจึงสามารถตอบสนองกับดีมานต์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดียิ่งขึ้น” นายสาธิต กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มองว่าช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อย ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และลูกค้าโครงการมีความต้องการซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง แม้ระยะสั้นปัจจัยการแพร่ระบาด Covid-19 ระลอก 3 ส่งผลต่อบรรยากาศและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไปบ้าง
แต่คาดว่าจะสามารถฟื้นตัวดีหลังควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด หลังประชาชนทยอยรับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ จะบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิต โดยมุ่งรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยไว้ที่ 80-85% เพื่อรับมือแนวโน้มต้นทุนโลจิสติกส์และวัตถุดิบบางรายการปรับตัวขึ้น ซึ่ง DRT จะมุ่งรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย 27-29% และแผนบริหารด้าน Product Mix ที่ดี เพื่อสนับสนุนการเติบโตทั้งปีให้เป็นไปตามแผน