แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาพรวม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ต้นปี 2564 ชะงักลง แต่สำหรับกลุ่มคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี ที่ตั้งอยู่บนทำเลทองหายาก ใจกลางพื้นที่เศรษฐกิจกรุงเทพฯ ทั้งลีสโฮลด์ - ฟรีโฮลด์ ยังมีดีมานด์ค่อนข้างดี จากตลาดกลุ่มเล็ก ซัพพลายเข้าใหม่จำกัด
อีกทั้ง ที่ดินเพื่อพัฒนาเหลือน้อย มาตรฐานการก่อสร้างสูง - วัสดุแพง จึงเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนไทยกำลังซื้อสูง และชาวต่างชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และ ยุโรป เรื่อยมา ยิ่งในวิกฤติ ผู้ซื้อต่อรองราคาได้ง่าย เกิดการซื้อเก็บเป็นทรัพย์สิน และเพื่ออยู่อาศัยระยาว เป็นบ้านหลังที่ 2
สอดคล้อง นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอล ลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ตลาดคอนโดฯ “ซูเปอร์ลักชัวรี” ราคามากกว่า 2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.)จะได้รับปัจจัยบวก หลังสถานการณ์โควิด-19 สิ้นสุดลงแน่นอน แม้ปีนี้ มีบางโครงการยกเลิกการพัฒนาไป และการเปิดตัวใหม่ยังไม่คึกคักมากนัก
อย่างไรก็ตาม คอนโดฯในทำเล ย่านสำคัญ สุขุมวิท ชิดลม ทองหล่อ ราชดำริ หลังสวน สีลม สาทร ยังเป็นที่ต้องการของเศรษฐีต่างชาติกำลังซื้อสูง ตอบโจทย์ทั้ง ความหรูหรา- ส่วนตัว อีกทั้ง ราคาที่ขายกัน เมื่อเทียบกับหลายประเทศแถบเอเชีย ถูกกว่ามาก
“ก่อนหน้า มีบางโครงการ ใจกลาง สุขุมวิท-ทองหล่อยกเลิกแผน และเลื่อนเปิดตัวไป หลังมองบรรยากาศไม่เอื้อลงทุน แต่พบว่า โครงการ Super Luxury หลายโครงการ ที่เคยขายหมดแล้ว และโครงการที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จ นำห้องชุดมาจัดโปรโมชั่น กลับได้รับความสนใจค่อนข้างดี สะท้อนตลาดยังมีกำลังซื้อเพียงแค่รอเวลา ราคา และจังหวะที่เหมาะสม”
ขณะสัญญาณ เตรียมเปิดประเทศ ใน 120 วัน ภายใต้เงื่อนไข การกระจายวัคซีนครบ 50 ล้านคน ที่นายกรัฐมนตรีประกาศล่าสุดนั้น พบความเคลื่อนไหวในกลุ่มผู้ประกอบการ คอนโดฯ ลักชัวรี-ซูเปอร์ลักชัวรี หลายรายให้การตอบรับ
โดย นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด และการขาย บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัท เตรียมเปิดคอนโดฯใหม่ ระดับไฮเอนด์ แบบเอ็กคลูซีฟ ยูนิตน้อย ใจกลางกรุงเทพฯ 2 โครงการ ในซอยสุขุมวิท 38 ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ “โตเกียว ทาเทโมโนะ” และ อีก 1 โครงการในย่านพร้อมพงษ์ มูลค่ารวมกันทั้งสิ้นราว 1.5 หมื่นล้านบาท คาดสร้างสีสันให้กับตลาดอย่างมาก
หลัง มองว่า ตลาดคอนโดฯ ระดับนี้ คงการเติบโตดีไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี อีกทั้ง การเปิดประเทศ โดยให้ภูเก็ตนำร่อง และรัฐอยู่ระหว่างพิจารณา ขยายสิทธิ์ให้คนต่างชาติหลายแง่นั้น จะช่วยผลักดันโอกาสตลาดนักลงทุนต่างชาติ โดยที่ผ่านมา เกือบทุกโครงการของบริษัท มีสัดส่วนต่างชาติเต็มโควต้าถึง 49%
“ปีที่แล้วตลาดหรู นิ่ง เพราะไม่มีซัพพลายใหม่ แต่ดีมานด์ยังโต ล่าสุดมีสัญญาณ เปิดประเทศ เมื่อบวกกับมาตรการสนับสนุนต่างชาติในอสังหาแล้ว คาดจะช่วยหนุนภาพรวมให้กลับมาคึกคัก ผู้ประกอบการเอง ประเมินการลงทุน จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวและการฉีดวัคซีนเป็นหลัก”
ขณะ นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม NOBLE เผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาร่วมพันธมิตร “ฮ่องกงแลนด์” จ่อเปิดโครงการคอนโดฯ ไฮไลท์ที่สุดของปี “The Embassy at Wireless” บนพื้นที่ 3 ไร่ครึ่ง ย่านวิทยุ ติดสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่าราว 10,700 ล้านบาท คาดราคาขายเริ่มไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนบาทต่อตร.ม. ในช่วงไตรมาส 3 นี้ หลังเลื่อนเปิดตัวมาจากไตรมาส 2
เพราะเริ่มเล็งเห็นสัญญาณบวกเชิงเศรษฐกิจ นับถอยหลังเปิดประเทศในแง่อสังหาฯ จะช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุน เข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว อีกทั้งพบประสิทธิภาพของวัคซีน อยู่ในเกณฑ์ จัดการการแพร่ระบาดของโรคได้ อย่างไรก็ดี จะประเมิน ผลสำเร็จ จากโมเดล ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ร่วมด้วย ก่อนลงทุน
นอกจากนี้ ยังพบความเคลื่อนไหว จากโครงการสุดหรู บนที่ดินผืนสุดท้ายใจกลางเมือง ปาร์ค นายเลิศ ริมถนนวิทยุ ของกลุ่ม “นายเลิศ กรุ๊ป” ในโครงการ Branded Residence อมัน นายเลิศ เรสซิเดนเซส กรุงเทพฯ 42 ยูนิต ราคาเริ่ม 4.5 แสนบาทต่อตร.ม. หรือ 45 ล้านบาท ที่เปิดขายไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แหล่งข่าว แจ้งว่า แม้จะมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงปี 2566 นั้น แต่ปัจจุบันมียอดขายเกินแล้ว 40% โดยลูกค้าต่างชาติ ติดต่อเข้ามาตลอด แม้ภาพรวมภายนอกตลาดดูซบเซา คาดการประเทศ จะช่วยผลักดันยอดขาย
เช่นเดียวกับ บมจ. แสนสิริ หลังซีอีโอใหญ่ “เศรษฐา ทวีสิน” ชี้ นโยบายนายกฯ นั้น นับเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี ปลุกความต้องการซื้อคอนโดฯ เป็นบ้านหลังที่ 2 หรือเป็น Safe Heaven เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบโครงการ กลุ่มราคาแพง ที่อยู่ระหว่างการขายของแสนสิริ (Sansiri Luxury Collection) ใจกลางกรุงเทพฯ
พบโครงการหรู ติดบีทีเอส ทองหล่อ “คุณ บาย ยู” มูลค่า 4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ อีกเป้าหมายลูกค้าต่างชาตินั้น ล่าสุด มีหน่วยพร้อมขายและโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งสิ้น 29 ยูนิต ราคาขายตั้งแต่ 15-139 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 3.7 แสนบาทต่อตร.ม.
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,690 วันที่ 24 - 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง