นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทร่วมลงนามสัญญากับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด (แอสคอทท์) THE ASCOTT LIMITED THAILAND บริษัทผู้นำตลาดด้าน การบริหารธุรกิจเซอร์วิสเรสซิเด้นท์ รายใหญ่ที่สุดในโลก ในการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ ซัมเมอร์เซ็ท ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Somerset Riverside Bangkok) และ โครงการ ไลฟ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Lyf Riverside Bangkok)
ทั้งนี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ เพิ่มศักยภาพโครงการด้วยการบริหารงานระดับสากล ตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าไทยและชาวต่างชาติที่มองหาที่พัก ในทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดินทางสะดวก แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมากมาย อาทิ ล้ง 1919 (Lhong 1919), เดอะ แจม แฟคตอรี่ (The Jam Factory), เอเชียทีค (Asiatique), ไอคอนสยาม (IconSiam) นอกจากนี้สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปท่าเรือตากสิน รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าสายสีทอง และระบบขนส่งอื่นๆ สู่ใจกลางกรุงเทพฯ รวมไปถึงย่านธุรกิจ ความบันเทิง และแหล่งศิลปะ
สำหรับโครงการ ซัมเมอร์เซ็ท ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Somerset Riverside Bangkok) เป็นโครงการระดับลักชัวรี่ เซอร์วิสเรสซิเด้นท์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 52 ยูนิต ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 23-27 บนพื้นที่คอนโด ระดับลักชัวรี่ เดอะ ริเวอร์ (The River) ถ.เจริญนคร
โรงแรมไลฟ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Lyf Riverside Bangkok) ที่พักสุดฮิปตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ในยุคมิลเลนเนียลเน้นให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในการแบ่งปันประสบการณ์การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม ด้วยพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ เช่น โซน “co-working” และเลานจ์ “Connect” พื้นที่ทำงานและเลาจน์ โซน “Bond” พื้นที่ทำอาหารร่วมกับผู้พักอาศัยอื่น ซึ่งภายในห้องพักแห่งนี้เป็นห้องพักที่ออกแบบมาเพื่ออาศัยร่วมกัน พร้อมกิจกรรมในชุมชนมากมาย เรียนรู้ประสบการณ์ท้องถิ่นที่แท้จริง รวมไปถึงสิทธิพิเศษ และโอกาสในการสร้างเครือข่าย ด้วยห้องพักกว่า 71 ห้อง ติดโครงการ เดอะ ริเวอร์ (The River) บนพื้นที่กว่า 1 ไร่
“แม้ในช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจะหยุดชะงัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 แต่จากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกำหนดเป้าหมายที่จะเปิดประเทศ ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจเกิดการขับเคลื่อน บริษัทเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะค่อยๆ มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จึงได้มีการวางแผนการดำเนินงานระยะยาวสำหรับรองรับการฟื้นตัวในอนาคต โดยมั่นใจในศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการ ริมโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการพักผ่อนในระยะสั้น-ระยะยาว ด้วยพื้นที่ใกล้แหล่งธุรกิจ อยู่ท่ามกลางห้างสรรพสินค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งการร่วมมือกับแอสคอทท์ในครั้งนี้จะเป็นการขยายศักยภาพของบริษัทด้วยการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดผ่านประสบการณ์ของพันธมิตรระดับโลก จึงถือว่าเป็นจุดแข็งของทั้ง 2 โครงการนี้ที่โดดเด่นในคุณภาพระดับลักชัวรี่บนทำเลศักยภาพ และ การบริหารงานระดับสากล” นายกรณ์ กล่าวเพิ่มเติม