บิ๊กทุนยึดที่ดินริมเจ้าพระยา 11 โปรเจ็กต์ 7.3 หมื่นล้าน

26 พ.ย. 2564 | 06:48 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ย. 2564 | 15:15 น.

ทำเลโค้งน้ำเจ้าพระยา เดือด  ทุนยักษ์แห่ขยายอาณาจักร สร้างจุดขายอาคารอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ AWC ใต้ปีกเจ้าสัวเจริญ มีที่ดินในมือมากสุด พลิก“ล้ง 1919” ตระกูลหวั่งหลี อายุ 200 ปี แลนด์มาร์คสุขภาพ  เขย่าไอคอนสยาม รถไฟ-ธนารักษ์ลุยประมูล คาด พรึบ11 โปรเจ็กต์ 7.3 หมื่นล้าน

 

ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดแรงกระเพื่อมอีกครั้ง เมื่อบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (AWC) บริษัทในกลุ่มทีซีซี.ใต้ร่มเงาเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ประกาศขยายอาณาจักร สร้างแลนด์มาร์คสุขภาพจุดหมายปลายทางย่านคลองสานฝั่งธนบุรี บนที่ดินเช่าเนื้อที่ 8ไร่ “ล้ง 1919” คฤหาสน์จีนของตระกูลหวั่งหลี

ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์บรรพบุรษจีนมากว่า 200 ปี หรือในยุคสมัย รัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่มีมูลค่า 3,436 ล้านบาท คาดหมายว่าอีกไม่เกิน 5 ปีนับจากนี่จะเปิดให้บริการประเมินว่าอนาคตจะมีโครงการใหม่เกิดขึ้นริมแม่นํ้าเจ้าพระยา ไม่ตํ่ากว่า 11 โครงการ มูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท

 

 

ชนเจ้าถิ่นย่านคลองสาน

  การขยับ เข้ามายังย่านคลองสานของ AWC อาจกลายเป็นตัวเร่งให้เจ้าถิ่น อย่างกลุ่มสยามพิวรรธน์  และพันธมิตรเครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้พัฒนาห้างยักษ์ อย่างไอคอนสยาม มูลค่า 55,000 ล้านบาท จุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวทั่วโลก ปรับทีเด็ด ให้มีสีสัน อย่างการวางแผนพัฒนาหอคอยชมวิว และตามด้วยการลงทุนโครงการเฟสใหม่ตอกยํ้าความยิ่งใหญ่ แต่เนื่องจากระยะนี้อยู่ในช่วงสถานการโควิด-19 เข้าใจว่าจะรอดูท่าทีอีกระยะ

 นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า “ถือเป็นการยกระดับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ตระกูลหวั่งหลีให้ความไว้วางใจร่วมสร้างคุณค่าพัฒนาสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวด้านสุขภาพระดับโลก เชื่อมโยงกับโครงการอื่นของ AWC ซึ่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสอดคล้องกับแนวคิด The River Journey ประสบการณ์ท่องเที่ยวริมน้ำที่สำคัญของไทย”

บิ๊กทุนยึดที่ดินริมเจ้าพระยา  11 โปรเจ็กต์ 7.3 หมื่นล้าน

 

เชื่อมวังค้างคาว 100 ปี

 การเดินทางมายัง ล้ง 1919 หรือ ฮับสุขภาพในอนาคต สามารถเดินทางมาทางเรือฟรี ที่รับส่ง จาก ท่าเรือสี่พระยา มาลงที่ท่าเรือหวั่งหลี ทั้งนี้ ในทำเลย่านคลองสาน ใกล้กับล้ง 1919 มีโบราณสถานเก่าแก่ วังค้างคาว หรือบ้านพระยาประเสริฐวานิช ที่กรมธนารักษ์นำออกประมูล และเปิดซองเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา แม้เนื้อที่จะไม่มาก แต่ใครได้ที่ดินไปสามารถใช้เป็นจุดขายที่ดีได้ เพราะมีอายุกว่า 100 ปี

ลุยตลาดคลองสาน-สถานีธนบุรี

 เช่นเดียวกับ ที่ดินตลาด คลองสานพลาซ่า เนื้อที่ 5 ไร่ใกล้ท่าเรือสี่พระยา นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ประธานกรรมการ บริษัทเอสอาร์ทีแอสเสท จำกัด (SRTA) บริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า ภายในปี 2565 เตรียมนำที่ดินบริเวณดังกล่าวออกประมูลให้เอกชนเช่า พัฒนาเชิงพาณิชย์เนื่องจากทำเลมีศักยภาพติดแม่น้ำเจ้าพระยา โอบล้อมไปด้วย โรงแรมระดับ 5-6 ดาวตึกสูงใหญ่

ห้างยักษ์อย่างไอคอนสยาม รถไฟฟ้าสายสีทองเชื่อมการเดินทางราคาที่ดินค่อนข้างสูงสำหรับรูปแบบพัฒนาเป็นมิกซ์ยูส โรงแรม 3 ดาว มั่นใจว่านักลงทุนรายใหญ่จะให้ความสนใจ นอกจากนี้ แปลงที่ดินย่านสถานีรถไฟธนบุรี หรือสถานีบางกอกน้อย บริเวณด้านหน้าของสถานีฯ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยแปลงนำร่องจะเป็นบ้านพักพนักงานรถไฟ เนื้อที่ 21 ไร่ พัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพ ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช และเอกชน

เจ้าพระยาแม่เหล็กดูดลงทุน

สอดรับกับนายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาที่ดินของรัฐ ประเมินว่า ที่ดินรถไฟตลาดคลองสานมีศักยภาพราคาที่ดิน 4-5 แสนบาทต่อตารางวา หากพัฒนาราคาจะขยับสูงได้อีก เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ไอคอนสยาม

รถไฟฟ้าสายสีทองที่ปัจจุบันที่ดินรัศมีรอบห้างยักษ์ดังกล่าวขยับไปที่กว่า 1 ล้านบาทต่อตารางวา ที่สำคัญแม่น้ำเจ้าพระยา ยังเป็น ทำเลที่มียุทธศาสตร์สำคัญที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจ โดยเฉพาะนักลงทุนจีน-ฮ่องกง ที่กำลังมองหาที่ดินริมแม่น้ำพัฒนาโครงการหรู และดึงชาติเดียวกันเข้าซื้อโครงการ รวมทั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ของไทยเช่นเดียวกับ ที่ดินย่านสถานีรถไฟธนบุรี

ฝั่งเจริญกรุงสุดรุ่ง

 ข้ามมายังฝั่งพระนคร บนถนนเจริญกรุง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ดินราคาตารางไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อตาราง ของ AWC เวิ้งนาครเขษม บนเนื้อที่ 14 ไร่เศษที่มีแผนเนรมิต เป็นโรงแรมหรู ย่านช็อปปิ้งทันสมัย ผสมผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมกรุงเก่าไชน่าทาวน์ ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569-2570

อีกแปลงที่วางแผนพัฒนา 4 เฟส บนที่ดิน 100 ไร่ของเจ้าสัวเจริญนั่นคือ โครง การเอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนท์ ตั้งอยู่บนที่ดินเอเชียทีค มูลค่า 30,000 ล้านบาท ที่จะสร้างปรากฎการณ์ โรงแรมทั้งหรูและสูงที่สุดในไทย ที่จะสร้างมูลค่าบนที่ดินราคากว่า 1 ล้านบาทต่อตารางวา

บีทีเอสกรุ๊ป ผุดโรงแรม  5 ดาว

 ที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันทรงคุณค่า ที่กรมธนารักษ์ ร่วมลงทุนกับ บริษัทยูซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U กำลังพัฒนาโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว สร้างจุดขายอาคารอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ ที่มีอายุกว่า 130 ปี ซึ่งมีเป้าหมายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวในปี 2568 ที่จะพร้อมเปิดให้บริการเช่นเดียวกัน