อนันดา จับมือ บิทคับ เปิดตัว "ZillaSpace" รุกธุรกิจบล็อกเชนเต็มรูปแบบ
อนันดาฯ จับมือ บิทคับ เปิดตัว ZillaSpace รุกใช้บล็อกเชน เปลี่ยนโมเดลธุรกิจอสังหาฯ 4.0รายแรกของวงการฯ ปฎิวัติ รูปแบบเจ้าของกรรมสิทธิ์ พื้นที่ - สำนักงาน - อสังหาฯ ร่วมกัน
2 พ.ย.2564 - บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ก้าวสู่ธุรกิจ Blockchain เต็มรูปแบบ โดยล่าสุด ได้ จับมือ บิทคับ เปิดตัว ZillaSpace Protocol ที่สร้างขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาทรัพยากรเหลือใช้แบบไร้ตัวกลาง (Decentralized Real Estate Sharing Platform) ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมาย แชร์สถานที่และพื้นที่ว่างให้กับสังคมได้เข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอนันดาฯ ถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ริเริ่มโปรเจกต์นี้ และต้องการที่จะมอบสิ่งดีๆ คืนกลับแก่สังคม ทั้งช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมของโลกอีกด้วย โดย ZillaSpace พร้อมให้บริการแล้วในขณะนี้
สอดคล้อง ก่อนหน้า ในวงการอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีการนำคอนโดฯ และอาคารมาแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบ Fractional Ownership แบ่งกรรมสิทธิ์ห้องพักให้มีเจ้าของร่วมกันได้หลายคน แล้วปันผลประโยชน์จากค่าเช่าตามสัดส่วนการลงทุน ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนเป็นเจ้าของห้องพักได้โดยไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวนมูลค่าสินทรัพย์นั้นๆ
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างในภาคอสังหาริมทรัพย์มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คิดเป็นร้อยละ 21 ของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก(1) ในขณะเดียวกันการขยายตัวของเมืองและการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรก็ส่งผลให้ปัญหานี้ทวีคูณขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้เทรนด์ของการทำงานทางไกลและกลุ่มคนที่สามารถทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตได้ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่หรือที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง กลุ่มคนเหล่านี้มีจำนวนพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมากจากผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดการแบ่งปันพื้นที่ (space sharing) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังเช่นในประเทศสหรัฐอเมริกาตัวเลขของกลุ่มคนที่สามารถทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตได้จากที่ต่างๆ มีจำนวนสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจาก 4.8 ล้านคนในปี 2561 เป็น 10.9 ล้านคนในปี 2563 และคาดการณ์ว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะมีจำนวนมากกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วโลกในปี 2578(2)
แนวโน้มสำคัญอีกประการหนึ่งที่มีบทบาท คือ การเพิ่มขึ้นของคนรุ่นมิลเลนเนียลและคนรุ่นใหม่ รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญของการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจแบ่งปันพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่า คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrencies) จะเป็นรูปแบบการชำระเงินที่แพร่หลายและโทเคน (tokenization) จะถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งแนวโน้มนี้ได้เกิดขึ้นแล้วบนแพลตฟอร์มการเดินทางที่ใช้บล็อกเชนในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ร้อยละ70 ของการจองใน Travala.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์การจองที่พักระดับโลกทั้งหมดถูกจ่ายด้วยสกุลเงินดิจิตอล และแพลตฟอร์มนี้ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยอนันดาฯ มองเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงพร้อมที่จะก้าวสู่ธุรกิจ Blockchain เต็มรูปแบบ ล่าสุดเปิดตัว “ZillaSpace” แพลตฟอร์มนำร่องที่อนันดาฯ ตั้งเป้าให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ 4.0 สำหรับการแบ่งปันพื้นที่สำนักงานที่เจ้าของอสังหาฯ ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้และไม่จำกัดแค่อสังหาฯ ในเครืออนันดาฯ เท่านั้น
ทั้งยังสร้างประโยชน์ให้กับกลุ่มคนที่มีพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และกลุ่มคนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่เหล่านั้น โดยอนันดาฯ ได้เริ่มโปรเจกต์ด้วยการเปิดให้ใช้พื้นที่ Co-working Space ของ อนันดาฯ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับบล็อกเชนคอมมูนิตี้ และในอนาคตมุ่งหวังที่จะขยายผลไปสู่คอมมูนิตี้อื่นด้วยเช่นกัน
สำหรับการพัฒนา ZillaSpace เกิดจากแนวคิดที่มองว่าการเร่งพัฒนาหรือการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นในทุกวัน เราควรหันมาใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่แล้วเพื่อลดมลพิษจากการก่อสร้างใหม่ๆ และนำทรัพยากรกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อสังคม
สำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบเดิม ซึ่ง ZillaSpace เรียกได้ว่าเป็นการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ของอนันดาฯ ที่มีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) มาใช้ควบคู่กับแพลตฟอร์มทำให้มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าแพลตฟอร์มการจองพื้นที่แบบดั้งเดิมและจะช่วยให้เจ้าของพื้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ เพราะเทคโนโลยีบล็อกเชนไม่ได้มีไว้เพื่อการสร้างเหรียญเท่านั้น แต่ยังสามารถปลดล็อกข้อจำกัดของธุรกิจได้อีกด้วย ซึ่งอนันดาฯ ได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของการทำเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมและสร้างความยั่งยืนต่อไปในอนาคต
“สำหรับโปรเจกต์ ZillaSpace นี้ อนันดาฯ ต้องการที่จะมอบสิ่งดีๆ กลับคืนแก่สังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมของโลก รวมถึงการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เนื่องจากอนันดาฯ ให้ความสนใจในการพัฒนาทางเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งโปรเจกต์ต่างๆ ที่ผ่านมามีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของโปรเจกต์ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อที่จะผลักดันเทคโนโลยีในประเทศไทยให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพเทียบเท่าสากล “ นายชานนท์ กล่าวทิ้งท้าย