" เศรษฐา " นำแสนสิริ ประกาศสู่ Net-Zero อสังหาฯรายแรก

02 ธ.ค. 2564 | 05:40 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ธ.ค. 2564 | 15:24 น.

" เศรษฐา ทวีสิน " เข็น แสนสิริ สู่ เป้าหมาย Net-zero อสังหาฯรายแรกของไทย กู้ปัญหา Climate Change ตั้งเป้า ติด Solar Roof และที่ชาร์จรถ EV บ้านทุกหลัง พร้อมใช้พลังงานสะอาด 100% ภายในปี 2573 ขณะวอนรัฐ เร่งเดินหน้านโยบาย ข้อตกลง COP 26 จูงใจเอกชน เข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ง่ายขึ้น

2 ธ.ค.2564 - โลกกำลังก้าวจาก Climate Change สู่ Climate Crisis ที่กำลังเป็นวิกฤตขั้นสุดต่อมวลมนุษยชาติ  ขณะ การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 หรือ COP26 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 64 ที่ผ่านมา 

 

โดยมีการบรรลุข้อตกลงทางประวัติศาสตร์เพื่อควบคุมปัญหาการเปลี่ยงแปลงสภาพแวดล้อม ด้วยเป้าหมายให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 หรือ พ.ศ. 2593 เพื่อจัดการกับภาวะโลกร้อน นับเป็นอีกสัญญาณ ที่บ่งชี้ว่า ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้อย่างมาก 

ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ประกาศว่า แสนสิริ จะเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกในเมืองไทยที่ตั้งเป้าหมาย Net-Zero เพื่อเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ กู้วิกฤตสิ่งแวดล้อมโลก

 

โดยระบุ แสนสิริ เป็น บริษัทจดทะเบียนหลักทรัพย์ อีกทั้งอยู่ในอุตสาหกรรมที่ใหญ่มาก และเป็นกลไกสำคัญของภาคเศรษฐกิจไทย ที่ผ่านมา มี 4 แกนหลัก ที่ต้องใส่ใจดูแล ได้แก่ ลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น และ สังคม ตลอดเวลา บริษัทต่างๆ มักให้ความสำคัญกับรายได้ ยอดขาย และกำไร แต่ละเลยต่อประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับอนาคตของโลก อย่าง สิ่งแวดล้อม

\" เศรษฐา \" นำแสนสิริ  ประกาศสู่ Net-Zero อสังหาฯรายแรก

จนปัจจุบัน กลายเป็นเป็นวิกฤติเร่งด่วนที่ต้องหยุดยั้ง เพราะโลกร้อนขึ้น อุณหภูมิสูงขึ้น ก่อเกิดภัยพิบัติ ที่มีระดับความรุนแรงทวีมากขึ้นและบ่อยขึ้น ดังจะเห็นได้จากสัญญาณต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับโลกของเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งธารน้ำแข็งขั้วโลกละลาย คลื่นความร้อนในยุโรป ไฟป่าที่ออสเตรเลีย รวมถึงน้ำท่วมอย่างรุนแรงจากภาวะฝนที่ตกหนักอย่างผิดปกติในหลายประเทศ 

 

ทั้งนี้ หลังจากมองว่า ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกขณะ และตระหนักดีว่าเป็นปัญหาหลักของมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง ทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชนต้องร่วมมือกันเพื่อการดูแลโลกให้ยั่งยืนอย่างเร่งด่วน 

 

แสนสิริในฐานะผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์และมีผลต่อภาคเศรษฐกิจ จำเป็นต้องลุกขึ้นมา ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น  ซึ่งที่ผ่านมาได้กำหนดเป้าหมายในการทำธุรกิจเพื่อสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอยู่ก่อนแล้ว แต่ วันนี้ แสนสิริขอประกาศภารกิจสำคัญอีกครั้ง ในการนำองค์กรเข้าสู่การเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ร่วมแก้วิกฤตสิ่งแวดล้อม ด้วยการประกาศเป้าหมายสู่การเป็น Net-zero องค์กรอสังหาริมทรัพย์แรกในประเทศไทยที่วางพันธกิจในการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้

\" เศรษฐา \" นำแสนสิริ  ประกาศสู่ Net-Zero อสังหาฯรายแรก

ขณะเดียวกัน เห็นว่า การที่รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำข้อตกลงระดับนานาชาติ COP26 ตั้งเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 หรือ พ.ศ. 2593 เพื่อจัดการกับภาวะโลกร้อนนั้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อประเทศไทย โดยต้องการให้รัฐบาลเร่งออกนโยบายสำคัญ พร้อมแนวทางที่เป็นโรดแมปเพื่อให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะภาคเอกชนได้เข้าไปมีส่วนตัว  เพราะข้อตกลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้จริง ต้องมาจากพลังบวกของทุกภาคส่วนในการร่วมมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง 

 

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ยังระบุว่า โลกเราได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นในทุกปี มีเพียง ปี 2563 ที่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง เนื่องจากเป็นช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก แต่ IEA ได้คาดการณ์ว่าใน พ.ศ. 2564 การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กลับมาเพิ่มขึ้นเกือบเท่าระดับของ พ.ศ. 2562

 

" รหัสแดงเตือนภัยมนุษยชาติ เป็นไฮไลท์สำคัญ กระตุกให้เราได้คิด หากไม่เร่งแก้ไข โลกอาจจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ผ่านมา แสนสิริให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมาโดยตลอด เกี่ยวพันกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ "


นายเศรษฐา ยังระบุอีกว่า การคนไทยหันมาใช้รถไฟฟ้า EV , พลังงานสะอาด หรือ นิยมติดตั้งโซลาร์รูฟมากขึ้น ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน อย่างไรก็ตาม ต้องการให้รัฐบาล สนับสนุน หรือ เพิ่มโอกาสให้กับคนเหล่านั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน 

 

" ในรูปธรรม เป็นไปได้หรือไม่ ที่รัฐจะสนับสนุน ผ่านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ กู้สินเชื่อได้ถูกลง สำหรับกลุ่มคน Go Green จูงใจให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการรักษ์โลก ขณะเดียวกัน ในภาพใหญ่ รัฐต้องเร่งออกนโยบายเรื่องนี้ เพราะหากประเทศไหนไม่ให้ความร่วมมือ อาจโดนกีดกั้นการค้าจากกำแพงภาษี ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถการแข่งขันของไทยด้วย "

 

"อยากเสนอให้รัฐพิจารณา หากองค์กรไหน ริเริ่ม Net-zero มียุทธศาสตร์ตั้งใจทำเพื่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ในทางสนับสนุน ควรมีข้อยกเว้นในการเข้าถึงเงินทุน หรือ กฎระเบียบให้ง่ายขึ้น เพื่อให้เพิ่มเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มธุรกิจเหล่านั้น จูงใจให้ทุกคนเข้ามาช่วยกัน "

 

กระบวนการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ 4 ด้านหลัก สู่ Net-zero 

 

  • Process: แสนสิริจะมีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นและได้มาตรฐาน สร้างเป้าหมายที่จะบรรลุได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทยซึ่งเป็นเครือข่ายที่จัดตั้งโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก จากนั้นจะเข้าร่วมโครงการขยายผลกิจกรรมชดเชยคาร์บอน เพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศปีที่ 9 หรือ TCOP9 ซึ่งจะช่วยให้สามารถจำแนกแหล่งปล่อย และประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับโครงการและทุกกระบวนการทำงานของแสนสิริ ให้เกิดการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม และวัดผลได้อย่างชัดเจน

\" เศรษฐา \" นำแสนสิริ  ประกาศสู่ Net-Zero อสังหาฯรายแรก

  • Product: แสนสิริมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาด ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า และลดขยะให้ได้มากที่สุด ประกอบไปด้วย ทุกโครงการของแสนสิริต้องใช้พลังงานสะอาด โดยในปี 2021 (พ.ศ.2565)เป็นต้นไป ส่วนกลางของทุกโครงการใหม่จะเป็นโซลาร์ รูฟ ตลอดจนบ้านของแสนสิริที่เปิดตัวใหม่จะเป็นโซลาร์ รูฟ รวมกว่า 50% และ 100% ทุกหลัง ในปี 2030 (พ.ศ. 2573) 

\" เศรษฐา \" นำแสนสิริ  ประกาศสู่ Net-Zero อสังหาฯรายแรก

รวมถึงไฟถนนในโครงการแสนสิริทุกโครงการใหม่จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100% ในปี 2030 (พ.ศ. 2573) เช่นกัน (ปัจจุบันไฟส่องสว่างในสวนส่วนกลางในทุกโครงการใหม่เป็นไฟที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100%) ถัดมาคือการใช้รถยนต์พลังงานสะอาดด้วยการเปลี่ยนรถผู้บริหารทุกคันของบริษัทเป็นรถ EV ในต้นปี 2021 (พ.ศ. 2564) และได้ติดตั้ง EV Charger ในทุกโครงการในปี 2025 (พ.ศ. 2568) รวมถึงจะติดตั้งในบ้านทุกหลังภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) ถัดมาคือการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

 

โดยจะเริ่มใช้ในสัดส่วน 50% ในปี 2022 (พ.ศ.2565) และเพิ่มเป็น 70% ในปี 2025 (พ.ศ.2568) ของวัสดุที่แสนสิริจัดซื้อ รวมถึงการมุ่งสู่บ้านประหยัดพลังงาน  โดยภายในปี 2025 (พ.ศ.2568) บ้านโครงการใหม่ของแสนสิริ 50% จะเป็นบ้านเย็นและประหยัดพลังงาน (Cooliving Designed Home) และเพิ่มขึ้นเป็น 70% ใน 2030 (พ.ศ. 2573) ตลอดจนบ้านแสนสิริทุกหลังต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 ทุกชิ้น และใช้หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงานทุกดวง นอกจากนี้การก่อสร้างในทุกโครงการต้องลดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

\" เศรษฐา \" นำแสนสิริ  ประกาศสู่ Net-Zero อสังหาฯรายแรก

โดยขยะจากการก่อสร้างจะนำมารีไซเคิลและรียูสได้ 70% ภายใน 2025 (พ.ศ. 2568) รวมถึงกระบวนการผลิตของโรงงานพรีคาสต์ จะก่อให้เกิดขยะไม่เกิน 2% ภายใน 2022 (พ.ศ. 2565) และที่สำคัญทุกโครงการแสนสิริต้องมีระบบ Waste Management เพื่อลดคาร์บอนและขยะสู่โลก โดยทุกโครงการต้องมีถังแยกขยะ (Waste to Worth) และมีเป้าหมายจับมือพันธมิตรเพื่อให้การแยกขยะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

  • Partners: พันธมิตรพลังบวก โดยแสนสิริได้ร่วมมือกับพันธมิตรได้รู้จักการตั้งเป้าหมายลดการผลิตก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจังเพื่อตั้งเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งขณะนี้มีคู่ค้าที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรจากองค์กรขนาดใหญ่มากมาย อาทิ      ทีโอเอ, คอตโต้, ไดกิ้น,เอสบี เฟอร์นิเจอร์, ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย, โคคา-โคลา (ประเทศไทย), บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด, บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน), GC เป็นต้น และอยู่ระหว่างการหารือกับสถาบันการเงิน เพื่อร่วมจัดทำสินเชื่อพิเศษ (Pre & Post Finance) ที่ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และในอนาคตจะมีการสนับสนุนให้ทุกพันธมิตรใน Ecosystem ของแสนสิริลงนามความร่วมมือว่าด้วย Net-zero ร่วมกัน

 

  • Investment: การลงทุนในทุกมิติ จะมุ่งเน้นในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลดคาร์บอนโดยตรงและทางอ้อม โดยในเบื้องต้นได้กำหนดงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท สำหรับระยะเวลา 3 ปี โดยจะเน้นลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อพลังงานสะอาด เทคโนโลยีสุขภาพ เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีด้านอาหาร ซึ่งทุกธุรกิจจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นมิตรต่อสังคม

 

" โมเดลของแสนสิริจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนการมุ่งสู่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุถึงเป้าหมาย Net Zero ที่ได้ให้ไว้กับประชาคมโลก ซึ่งแสนสิริเองเราขออาสาที่จะทำภารกิจนี้อย่างจริงจังและเร่งด่วนใน 4 มิติ Process- Product – Partners – Investment  เพื่อเข้าสู่เป้าหมาย Thailand’s First Real-Estate Company to Set Target for Net-zero หรือรายแรกของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยที่กล้าประกาศตั้งเป้า Net-zero อย่างเป็นรูปธรรม "