เมื่อวันที่21ธันวาคม 2564รัฐบาลต่ออายุมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิ(ค่าธรรมเนียมการโอน)และนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยจาก2%เหลือ0.01% และค่าจดจำนองจาก1%เหลือ0.01% ที่จะหมดอายุลงวันที่31ธันวาคมนี้อออกไปอีก1ปีหรือจนถึงวันที่31ธันวาคม2565 คาดว่าจะช่วยให้บรรยากาศในการซื้อขายอสังหาฯสดใสช่วยระบายสต็อกในมือของผู้ประกอบการได้อีกหลังจากที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้คลายล็อกมาตรการLTVสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าที่อยู่อาศัย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการ มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่ไม่สูงมาก และเหมาะสมกับศักยภาพของประชาชนแต่ละกลุ่ม โดยผู้ซื้อที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่ต้องการมีที่อยู่ อาศัยเป็นของตนเอง และผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ ในราคาซื้อขายและราคา ประเมินทุนทรัพย์ไม่เกินมูลค่า 3 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ทั้งนี้ ครม. เห็นชอบ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย รวม 2 ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ จากเดิม 2% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ในคราวเดียวกัน
จากเดิม 1% เหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ประเภท อาคารที่อยู่อาศัย ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคาร หรือ ห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด โดยราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท
“คาดการณ์ว่า มาตรการนี้จะช่วยสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการ มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ส่งเสริมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี อาจทำให้ อปท. สูญเสียรายได้ ครม. จึงให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบฯ เพื่อชดเชยรายได้ ให้แก่ อปท. ตามความเหมาะสมต่อไป” นายธนกรกล่าว