7 ม.ค.2565 - นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดช่วง 2 ปีที่่ผ่านมา (2563-2564) ตลาดคอนโดมิเนียมของไทย หดตัวรุนแรง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 กระทบทั้งด้านกำลังซื้อ และความกังวลของลูกค้า เพราะกังวลการอยู่ร่วมกัน การใช้พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ ทำให้การเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม ลดลงไปอย่างชัดเจน ทั้งกลุ่มราคามากกว่า 3 ล้านบาท และ ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท อย่างมีนัยยะสำคัญ
แม้สถานการณ์จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 แต่ผู้ประกอบการยังชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ เนื่องจาก ขาดกำลังซื้อจากลูกค้า และนักลงทุนชาวต่างชาติ ทำให้ตัวเลขยอดขายคอนโดฯ ไม่ได้ขยายตัวสูงมากนัก
คอนโดฯราคาไม่เกิน 3 ล้าน ฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มในปี 2565 นั้น มองว่า ตลาดคอนโดฯ จะเริ่มกลับมาค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในแง่การเปิดโครงการใหม่ แม้อาจจะไม่สูงเทียบเท่ากับช่วงก่อนมีสถานการณ์โควิด
ทั้งนี้ พบผู้ประกอบการต่างกลับมาโฟกัสที่กำลังซื้อภายในประเทศ ที่เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และพร้อมจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มในปีนี้คาดการณ์ว่า ตลาดคอนโดฯ เปิดใหม่ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะกลับมามีสีสัน และขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจาก สถานการณ์โควิด โอมิครอน ที่กลับมาคลุมเครืออีกครั้ง ทำให้ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ต่างชาติ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของตลาดคอนโดฯไทย ตามมูลค่าการซื้อขาย สัดส่วนเกินกว่า 20% (ข้อมูลปี 2561) จะกลับมาได้เร็วสุดเมื่อไหร่ คาดหวังอย่างเร็วสุดอาจเป็นไตรมาส 3 ปี 2565 ด้วยซ้ำ ยิ่งประเทศจีน มีมาตรการภายใน สั่งห้ามออกนอกประเทศ โอกาสการกลับมาคึกคักของตลาดคอนโดฯ ในระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป เป็นเรื่องยาก ฉะนั้น เชื่อว่าดีเวลลอปเปอร์ไทย จะโฟกัสตลาดคนไทยในกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านมากขึ้น
" คาดทุกดีเวลลอปเปอร์จะเน้นกลุ่มต่ำกว่า 3 ล้าน แม้ทุกครั้งที่มีวิกฤติเศรษฐกิจไทย กำลังซื้อที่จะกลับมาก่อนเสมอ มักเป็นระดับราคาสูง แต่ครั้งนี้จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ต้องจับตา เพราะรายละเอียดต่างไป มีปัญหาโอเวอร์ซัพพลายคอนโดระดับบนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในทำเลต่างชาติ เอกมัย ทองหล่อ รัชดา ที่เคยเปิดรองรับคนจีนคงค้างอยู่ "
เจาะลึกการเปิดตัว โครงการคอนโดฯ ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล พบความเปลี่ยนแปลงตลาดคอนโดฯ ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทอย่างชัดเจน ซึ่งเคยมีสัดส่วนการเปิดตัว ลดลงในช่วงปี 2560 - 2562 จากการมีบทบาทของลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีน ทำให้ผู้พัฒนาฯ หันไปเปิดคอนโดฯราคามากกว่า 3 ล้านบาท รองรับชาวต่างชาติในทำเลยอดนิยมแทน พบในช่วงสถานการณ์โควิด คอนโดฯต่ำกว่า 3 ล้านบาท เริ่มกลับมามีการเปิดตัวเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนถึงการปรับตัว และการกลับมาให้ความสนใจกับกำลังซื้อคนไทยอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นตลาดเรียลดีมานด์ แม้จำนวนซัพพลายจะหายไปมากกว่าครึ่งก็ตาม
ทั้งนี้ ยังประเมินว่าการซื้อขายคอนโดฯที่ชะลอตัวลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากสาเหตุ กลุ่มลูกค้าต่างชาติกลุ่มใหญ่หายไปแล้ว ส่วนหนึ่งยังมาจาก การไม่มีซัพพลายใหม่ๆ เข้าตลาด ทำให้ไม่สามารถดึงดีมานด์ความต้องการแฝงที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในทำเลนั้นๆออกมาได้ ฉะนั้น เมื่อไม่มีการเปิดตัวโครงการ ก็จะไม่พบดีมานด์กลุ่มนี้เช่นกัน
ฝ่าโจทย์ยาก คอนโดฯราคาต่ำกว่า 3 ล้าน
นายไตรเตชะ ระบุว่า สำหรับกลุ่มลูกค้าตลาดนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ที่พร้อมจะซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกเป็นของตัวเอง ส่วนความยาก กลับเป็นต้นทุนแง่ราคาที่ดิน แรงงาน ที่ต้องบริหารจัดการให้ได้ เนื่องจากปัจจุบัน ที่ดินยังมีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ลูกค้าในช่วงโควิด มากถึง 56% มีความต้องการด้านขนาดพื้นที่ห้อง 30-40 ตร.ม. เพื่อใช้ชีวิตและทำงาน ซึ่งนับเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับดีเวลลอปเปอร์ ในการเคาะราคา ให้อยู่ในช่วงต่ำกว่า 3 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา มักมีโครงการราคานี้อยู่บ้าง แต่เป็นไปในรูปแบบขนาดห้องที่ไม่ตอบโจทย์คนซื้อ คือ มีขนาดราว 20 ตร.ม.เท่านั้น จึงเป็นความท้าทาย ที่จะทำให้ 2 ส่วนสอดคล้องกันได้
" ความยากของคอนโดฯราคา 1-3 ล้าน คือ พบลูกค้าต้องการพื้นที่ มากกว่า 30 ตร.ม. เพื่อใช้ชีวิตในช่วงโควิด แต่ผู้พัฒนาฯ เผชิญกับราคาที่ดินสูงขึ้นเรื่อยๆ 10 ปีที่แล้ว ที่ดินย่านทองหล่อ 2.4 แสนต่อตร.ว. เรายังกังวลไม่กล้าซื้อ วันนี้ ราคาขึ้น 10 เท่า 2.4 ล้านต่อตร.ว. ยังแทบซื้อไม่ได้ ทำให้การเปิดคอนโดฯ ในช่วงหลังๆ เกิดขึ้นน้อยมาก เพราะจะทำให้ดี ให้โดนฯมันยาก แต่ถ้าคิดจะเปิด ก็ต้องขนโปรดักส์ที่คิดว่าจะขายได้ออกมา ลูกค้าซื้อแล้วมีแวลู ที่ดินก็ต้องมีให้พร้อม ภายใต้โจทย์ใหญ่ ความต้องการของลูกค้า "
ทั้งนี้ แม้ตลาดราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท มีอัตราการปฎิเสธสินเชื่อสูง หรือ การกู้ไม่ผ่าน ค่อนข้างน่ากังวลในช่วงปีที่ผ่านมา แต่พบว่าหลังจาก ธปท. ปลดล็อก LTV การอนุมัติสินเชื่อ ขยับตัวดีขึ้นมาก ประเมินเริ่มปี 2565 ภาคธนาคารจะกลับมาปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่อีกครั้ง นับเป็นโอกาสทองอย่างมากสำหรับลูกค้าเรียลดีมานด์ โดยภาพรวมการปฎิเสธสินเชื่อที่อยู่ในสัดส่วนสูงของปี 2564 มาจากกลุ่มลูกค้ามนุษย์เงินเดือน ที่มีความกดดันจากโควิด รายจ่ายเพิ่มมากขึ้น และกลุ่มเปราะบาง เจ้าของกิจการ เป็นต้น
ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง เจาะNEW GEN
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่ม NEW GEN สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ และราคาให้ตอบโจทย์กลุ่มคนเหล่านี้มากยิ่งขึ้นประเดิมในปี 2565 นี้ บริษัทฯ ลุยต่อเนื่องเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ใหม่ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ - วงศ์สว่าง คอนโดฯ High Rise 18 ชั้น มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลระหว่างกรุงเทพ ฯ – นนทบุรี
ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและเป็นพื้นที่แหล่งทำงาน เชื่อมต่อถนนหลายสาย สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีวงศ์สว่าง สถานีกลางบางซื่อ ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ด่านประชาชื่น และด่านรัชดาภิเษก ถัดมาจะเป็นโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ซึ่งห่างจากโครงการเพียง 600 เมตร อีกทั้งยังใกล้แหล่งสถานศึกษา อาทิ โรงเรียนหอวัง, โรงเรียนโยธินบูรณะ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พร้อมเชื่อมต่อคอมมูนิตี้มอลล์ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เพียง 10 นาทีถึงเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
รายละเอียดโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดา-วงศ์สว่าง ราคาเริ่ม 1.7 ล้าน
ด้านนายชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่หลงไหลสไตล์ลอฟท์ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ โดยมีการปรับโฉมการออกแบบและงานตกแต่งภายใน
- ภายนอกให้เข้ากับกลุ่มคน NEW GEN มากยิ่งขึ้น สู่โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ - วงศ์สว่าง คอนโดฯ High Rise 18 ชั้น ประกอบด้วย 3 อาคาร จำนวน 1,302 ยูนิต
ออกแบบอาคารภายใต้แนวคิด LIVE high in LOFT mosphere โดยเน้นเส้นสายแนวตั้งที่ดูมั่นคง เป็นองค์ประกอบหลักของเส้นสายอาคาร และไล่เฉดสีจากโทนสีเข้มไปจนถึงโทนสีอ่อน ซึ่งให้ความรู้สึกเสมือนระดับพื้นดิน หรือชั้นหินค่อย ๆ ไล่ระดับสีสูงขึ้นเป็นชั้นเหนือพื้นดิน จนถึงชั้นบนสุดของอาคาร โดยใช้โทนสีอ่อนเปรียบเสมือนท้องฟ้า และก้อนเมฆ ในบรรยากาศ Loft ที่มีประตู หน้าต่าง ฝ้าเพดานสูงโปร่ง
โดยมีรูปแบบห้องที่หลากหลาย ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.7 ล้านบาท เริ่มจากห้อง Studio ขนาด 28.0 ตร.ม. จนถึงห้องใหญ่สุด 2 Bedrooms ขนาด 64.5 ตร.ม. และอีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการนี้ คือ ห้องลอฟท์ พื้นที่ 2 ชั้น ขนาด 47.0 - 48.0 ตร.ม. ซึ่งมีเพียง 24 ยูนิตเท่านั้น
สัมผัสประสบการณ์ใช้ชีวิตที่เหนือระดับ พร้อมสูดอากาศได้เต็มปอด กับ Sky Facilities แห่งแรกภายใต้แบรนด์ ศุภาลัย ลอฟท์ ที่เนรมิตทุกกิจกรรมไว้บนชั้นสูงสุด เปิดมุมมอง 360 องศา แตกต่างตามไลฟ์สไตล์ แบ่งเป็น Tower A (Infinity Edge Pool ยาว 30 เมตร, Kid’s zone, Relaxing Pavilion) Tower B (Fitness, Co-Living Space, Backyard Garden) และ Tower C (Co-Working Space, Jogging Track เชื่อมต่อ 3 อาคาร ในระยะทางกว่า 340 ม.)
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.supalai.com