“ธนารักษ์” ผ่าทางตัน ที่ดิน“หมอชิต”2.7หมื่นล้านติดล่ม

15 ม.ค. 2565 | 12:58 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ม.ค. 2565 | 20:08 น.

อธิบดีกรมธนารักษ์คนใหม่เครื่องร้อน เดินหน้าลุย มิกซ์ยูส 2.7หมื่นล้าน ที่ดินหมอชิตเก่า  63ไร่ เก็บค่าเช่า 6.1ล้านบาทต่อปีหารายได้  หลัง ล่าช้าเกือบ30ปี เอกชนยังเข้าพื้นที่ไม่ได้เหตุ ติดข้อกฎหมาย คาดจบภายในเดือนมกราคมพร้อมดันครม.ไฟเขียว   ขณะบิ๊กทุนขึ้นโครงการพรึบ

 

ล่าช้ามาเกือบ30ปี สำหรับโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณหมอชิตเก่า บนที่ดินที่ราชพัสดุกรมธนารักษ์ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต สายสีเขียว ที่บริษัทบางกอกเทอร์มินอล(BKT) ชนะประมูล แต่ไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ เนื่องจาก ยังติดขัดข้อกฎหมาย  ส่งผลทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ การย้ายสถานีขนส่งหมอชิต2 ถนนกำแพงเพชร กลับมาที่เดิมยังไร้ทางออก

 

นายประภาศ  คงเอียด  อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ"ถึง ความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณหมอชิตของบริษัทบางกอกเทอร์มินอล จำกัด (BKT) ผู้ได้รับสัมปทาน ว่าปัจจุบันยังติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายระหว่างพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ.2562 หรือPPP และพรบ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 

เนื่องจากมีการเปลี่ยนข้อกฎหมาย ที่ผ่านมาโครงการฯ  เคยอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2518 และกฎหมายPPP แต่ปัจจุบันกฎหมายPPP พ.ศ.2562 มีการออกบทบัญญัติเฉพาะกาลเพิ่มเติม ทำให้กรมฯต้องดำเนินการเรื่องข้อกฎหมายให้ได้ข้อยุติก่อน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2565 และเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป 

  “หลังจากได้ข้อสรุปแล้ว ต้องสำรวจพื้นที่ภายในโครงการฯอีกครั้ง ควบคู่กับการดูข้อกฎหมายร่วมกัน หากมีการดำเนินการโครงการฯแล้วอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 จะเดินหน้าต่ออย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดและโครงการฯ ล่าช้ากว่าเดิม ส่วนของการทางยกระดับสำหรับเข้าออกโครงการ เพื่อเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิต โดยต้องมีการเวรคืนที่ดินตามพระราชกฤษฎีกาบริเวณวิภาวดีซอย5 นั้น ปัจจุบันกรมฯขอศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนว่าเป็นอย่างไร”

สำหรับรูปแบบโครงการ BKT  อายุสัมปทาน 30 ปี มีพื้นที่ใช้สอบรวม 888,046  แสนตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่ชดเชย (มอบให้กับกรมขนส่งทางบก) 1.12 แสนตารางเมตร เพื่อใช้เป็นอาคารสถานีขนส่ง พื้นที่ใช้สอยในราชการ และพื้นที่เชิงพาณิชย์ของบริษัท BKT จำนวน 776,046 แสนตารางเมตร เพื่อสร้างเป็นอาคารสำนักงาน ,พื้นที่ศูนย์การค้า,  เชอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และที่จอดรถ 

ส่วนการจ่ายผลประโยชน์ในค่าเช่าที่ดินให้กับกรมธนารักษ์ของโครงการนี้นั้น ตามสัญญาสัมปทาน กำหนดให้ผู้รับสัมปทานจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้ประโยชน์ที่ดิน 550 ล้านบาท และค่าเช่าพื้นที่ในระหว่างการก่อสร้าง 6.1 ล้านบาทต่อปี และค่าเช่าหลังจากก่อสร้างโครงการเสร็จแล้ว จะต้องจ่ายตลอดอายุสัญญาสัมปทาน  5 ล้านบาทต่อปี

ด้าน แหล่งข่าวจาก BKTระบุว่า ที่ผ่านมาบริษัทรอลงนามในสัญญากับกรมธนารักษ์แต่ ยอมรับยังติดปัญหาในข้อกฎหมาย ทำให้ เกิดความล่าช้าขณะต้นทุนปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมองว่ากรมธนารักษ์น่าจะหาทางออกได้โดยเร็ว

“ฐานเศรษฐกิจ”สำรวจที่ดินบริเวณถนนพหลโยธิน (จตุจักร) มีโครงการขนาดใหญ่ภาคเอกชนเกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งโครงการหมอชิตคอมเพล็กซ์ ตึกแฝดของ ของ  บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS สูง 36 ชั้น และ ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น  เนื้อที่11 ไร่ 

ภายในโครงการจะมีทั้งอาคารสำนักงาน พาณิชยกรรม สถานศึกษา ภัตตาคาร และที่จอดรถ อีกทั้งมี สกายวอล์ค(skywalk) เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอสหมอชิตซึ่งมีมูลค่างานกว่า 9 พันล้านบาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 50 เดือนคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี2567

นอกจากนี้ยังมี พื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ โครงการเอส โอเอซิส อาคารสำนักงาน มูลค่า 3,695 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดี รังสิต ทะลุ พหลโยธิน  พื้นที่ 6 ไร่เศษของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) อีกทั้งสถานีกลางบางซื่อศูนย์กลางทางรางในแห่งใหม่ในประเทศไทยยังไม่รวมโครงการคอนโดมิเนียม มีรถไฟฟ้า2เส้นทาง บีทีเอสสายสีเขียวและMRTสีน้ำเงิน

“ธนารักษ์” ผ่าทางตัน ที่ดิน“หมอชิต”2.7หมื่นล้านติดล่ม