นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายที่พักอาศัยโครงการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาด บ้านเดี่ยว ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่สามารถเดินทางสะดวก ยังเป็นที่ต้องการของผู้ซื้ออย่างมาก ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งแม้ว่าราคาที่ดินจะค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับความคุ้มค่าของคุณภาพการอยู่อาศัยและการเดินทางที่สะดวกสบาย ตลาดกลุ่มนี้ก็ยังคงมีดีมานด์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง
สะท้อนบริษัทสามารถปิดการขายโครงการบ้านเดี่ยว ด้วยราคาเฉลี่ยหลังละ 56 ล้านบาท และสูงสุดที่ 267 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของดีมานด์และกำลังซื้อของตลาดบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองที่น่าสนใจอย่างมาก
เอพีบุกหนักเปิด CENTRO กินรอบเมือง
'ฐานเศรษฐกิจ' สำรวจแนวรบของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ซึ่งประกาศแผนธุรกิจปีนี้ ผ่านโครงการแนวราบเป็นจำนวนมาก หลังประเมินทิศทางตลาดยังเติบโตสูง พบเพียงแค่ไตรมาสแรก ปี 2565 มีความเคลื่อนไหวที่คึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มบ้านราคาแพง ระดับลักชัวรี ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด
โดยนายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลังจากช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทขึ้นแท่น ผู้นำตลาด บ้านเดี่ยวด้วยส่วนแบ่งตลาด มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาด กทม.และปริมณฑล
ล่าสุด ในไตรมาสแรก ปีนี้ บริษัทพร้อมจะเปิดขายโครงการแนวราบใหม่พร้อมกันถึง 11 โครงการ มูลค่า 9 ,590 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นบ้านเดี่ยวถึง 4 โครงการ ได้แก่ 1. CENTRO ปิ่นเกล้า (ราคา 9.5-15 ล้านบาท ) 2. CENTRO ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ (ราคา 7.99-12 ล้านบาท ) 3.CENTRO บางนา-ศรีนครินทร์ (ราคา 7.79-15 ล้านบาท ) และ 4. CENTRO รามอินทรา จตุโชติ 2 ราคา 6.99 -12 ล้านบาท
" แบรนด์ CENTRO เป็นหนึ่งในท็อปแบรนด์ไฮไลต์ในพอร์ตสินค้าบ้านเดี่ยวเอพี ที่ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ ขายพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่นที่ใหญ่ขึ้น มีพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน โดยทั้ง 4 โครงการ จะเปิดขายพร้อมกันช่วงปลายเดือนนี้ "
แสนสิริหวนเปิดท็อปเซ็กเม้นท์ 'นาราสิริ'
ขณะ นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บมจ.แสนสิริ เผยว่า ปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมาก ในสินค้ากลุ่มแนวราบโดยจบปี สร้างยอดขายรวม 22,400 ล้านบาท และยอดโอนกรรมสิทธิ์ 18,300 ล้านบาท ทั้งนี้ สัดส่วนมากกว่า 70% มาจากบ้านเดี่ยว ซึ่งบทสะท้อนความสำเร็จ ยังมาจากการสามารถปิดการขาย โครงการระดับบนถึง 4 โครงการ ได้แก่ เศรษฐสิริ พัฒนาการ, บุราสิริ พัฒนาการ, บุราสิริ รังสิต , บุราสิริ วงแหวน – อ่อนนุช และ บูก้าน เอ็กซ์คลูซีฟ โมเดิร์น เรสสิเดนท์ ซึ่งมีราคาขายสูงสุดถึง 80 ล้านบาท
โดยในปีนี้ บริษัทยังมีแผนเปิด บ้านเดี่ยว 11 โครงการ ภายใต้สัดส่วนแนวราบ 75% ซึ่งจะเป็นการรุกแบรนด์ สราญสิริ กระจาย 6 โครงการใหม่ และรักษาตำแหน่งบ้านเดี่ยวระดับบน ผ่านแบรนด์ เศรษฐสิริ และ บุราสิริ ต่อเนื่อง รวมถึงการกลับมาเปิดแบรนด์ระดับไฮเอนด์ 'นาราสิริ' 2 โครงการ รวม 8,300 ล้านบาท หลังจากไม่ได้มีการเปิดตัวมานาน 7-8 ปี ซึ่งโครงการแรกจะเปิดเร็วๆนี้ เจาะราคา 25-60 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากประเมินว่า ดีมานด์บ้านเดี่ยวระดับบนยังมีอยู่ต่อเนื่อง และแนวโน้มจะเติบโตสูง จากความแข็งแกร่งของลูกค้า
"แสนสิริไม่ได้มีการเปิดตัวแบรนด์ นาราสิริ ใหม่ ออกสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา แต่ล่าสุด ได้ที่ดินที่เหมาะสม และเตรียมการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว พร้อมกับเห็นโอกาสทางการตลาด จึงหวนอีกครั้ง โดยตลาดกลุ่มนี้ ลูกค้าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจไม่มาก ยอดรีเจ็กต์น้อย และมีกำลังซื้อพร้อม การตัดสินใจอยู่ที่ความพิถีพิถัน ดีไซน์ และ ฟังก์ชั่น เท่านั้น "
ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมเปิดบ้านเดี่ยว ระดับลักซ์ชัวรี่ ใจกลางเมือง แบรนด์ใหม่ 'เดมี่ สาธุประดิษฐ์ 49 ' อีกหนึ่งโครงการในเดือนมีนาคมนี้ ราคาราว 8-20ล้านบาท
ศุภาลัยผุดบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขายดีเกินคาด
ด้านบมจ.ศุภาลัย เผยแผนธุรกิจ เปิดตัวแบรนด์บ้านใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า ซึ่งออกสตาร์ทกับโครงการแรกของปี 2565 กับแบบบ้านเดี่ยวใหม่ล่าสุด 3 แบบ 3 สไตล์ ระดับลักซ์ชูรี่ ปักหมุดทำเลแรกบนถนนบรมราชชนนี “ศุภาลัย เอเลแกนซ์ บรมราชชนนี121” โดยหวังเป็นทางเลือกแรกของบ้านเดี่ยว 3 ชั้น เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนในทำเลดังกล่าว ซึ่งเป็น 1 ในแผนปี 2565 ที่จะเจาะโครงการบ้าน 13 โครงการ ในกทม.และปริมณฑล เน้น ขนาดโครงการใหญ่ขึ้น มากกว่า 100 ไร่ ความสมบูรณ์ในเรื่องส่วนกลาง เพื่อแข่งขันในตลาดที่ดุเดือด
ทั้งนี้ นางสาวธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย บมจ.ศุภาลัย ระบุ ตลาดบ้านเดี่ยวรวม ปี 2564 เปิดตัวโครงการน้อยสุดในรอบ 10 ปี ประมาณ 6,000 ยูนิต แต่การขายคึกคัก แตะ 10,000 ยูนิต ขณะสต็อกที่อยู่ระหว่างก่อสร้างราว 30,000 ยูนิต ไม่ได้น่ากังวล โดยเฉพาะในตลาดระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป การเปิดตัวต่ำ แต่สัดส่วนของมูลค่าสูงถึง 15% ของตลาด
สำหรับทำเล ถ.บรมราชชนนี จากจุดเด่นเรื่องผังเมือง บ้านเดี่ยวต้อง 100 ตร.ว.ขึ้นไป ซึ่งบริษัทเห็นช่องว่างของตลาด ปรับไปสู่บ้านเดี่ยว 3 ชั้น บนพื้นที่ 34 ไร่ ราคาขาย 20-30 ล้านบาท รวม 86 ยูนิต หลังเปิดตัว ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด จากลูกค้านักธุรกิจ - ผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่