"ฮิตาชิ" ปั้น Smart Building Solution รุกตลาดอาคารสำนักงาน

นายประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างฮิตาชิประเทศญี่ปุ่นกับกลุ่มสยามกลการ เปิดตัวธุรกิจใหม่ Smart Building Solution นำเข้าเจ้าแรกในประเทศไทยและในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขยายธุรกิจเพิ่มเติมจากธุรกิจลิฟต์ บันไดเลื่อนและทางเลื่อน หวังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาคารด้วยเทคโนโลยี ไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) ในการรักษาความปลอดภัยแบบลดการสัมผัส (Touchless Security) และ loT Digital Platform ของ Lumada ตอบโจทย์การแก้ปัญหาในยุคเศรษฐกิจแบบ New Normal

 ทั้งนี้ในปัจจุบันพฤติกรรมของคนในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ทำให้ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนมีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การช้อปปิ้ง online , การชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ผ่าน E-Banking ,การสนทนาผ่าน Digital Platform , การนำระบบ Security Technology มาใช้กับอาคารและสถานที่ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมและสถานการณ์เหล่านี้ ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ฯ จึงได้นำธุรกิจ Smart Building Solution เข้าสู่ตลาดประเทศไทยและเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเทคโนโลยีนี้จะเข้ามาสนับสนุนและช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอาคารสำนักงานเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดูแลจัดการหลายๆอาคารได้พร้อมกันและผู้ดูแลอาคารสามารถบริหารอาคารได้หลายๆระบบ เช่น ระบบการเข้าออกอาคาร (Visitor Management System) หรือ Access Control System ซึ่งพนักงานหรือผู้มาติดต่อสามารถใช้บริการภายในอาคารผ่านระบบแอปพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟนด้วยระบบดิจิตอลแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นโซลูชั่นส์ดิจิทัลล้ำสมัยจากทางฮิตาชิ

" การเปิดตัว Smart Building Solution คาดว่าจะช่วยให้เกิด Synergy กับธุรกิจลิฟต์เดิมของ ฃบริษัทฯ ถึงแม้ปัจจุบัน ธุรกิจนี้เพิ่งเริ่มเปิดตัว แต่ทางบริษัทฯ ได้ทำ Market study อย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าธุรกิจ Smart Building Solution จะเป็นโซลูชั่นการบริการแบบครบวงจรที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเลือกใช้งานในอาคารสำนักงาน เพราะมีทั้งระบบลิฟต์ การรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ และบริการทางดิจิทัล คาดว่าธุรกิจ Smart Building Solution ในตลาดจะมีการเติบโตขึ้นอีกในอนาคต"

 สำหรับธุรกิจนี้ปัจจุบันมีลูกค้าให้ความสนใจและติดตั้งระบบ Smart Building Solutions กับบริษัทราว 3-4 ราย ซึ่ง 1 ในนั้นมีอาคารสำนักงานของสยามกลการ บริเวณปทุมวัน บนพื้นที่ 5 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) จำนวน 32 ชั้น ซึ่งเป็นสำนักงานเกรดเอ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโดยใช้ระบบดังกล่าว คาดว่าดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรก ปี 2566

นายกิติสร ปุณณะหิตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Smart Building Solution ของฮิตาชิสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่อาคาร ทำให้โดดเด่นไม่เหมือนอาคารอื่นๆ สามารถช่วยให้การจัดการอาคารมีประสิทธิภาพและช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการ สำหรับผู้ใช้งานในอาคารส่งผลดีที่ช่วยทำให้รู้สึกปลอดภัย เกิดความไว้วางใจและความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี ฮิตาชิได้นำเสนอโซลูชั่นล้ำสมัยสำหรับ Smart City และ Smart Building มาหลายปีในบางประเทศรวมถึงประเทศญี่ปุ่นโดยคาดการณ์ว่าจะมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นในตลาดภูมิภาคเอเชีย จึงนำธุรกิจ Smart Building Solution นี้ เข้ามายังประเทศไทย เพราะเล็งเห็นว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพความพร้อมในหลายด้าน ประกอบกับมีตลาดอสังหาริมทรัพย์ และความต้องการด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายกิตติสร กล่าวต่อว่า ส่วนภาพรวมตลาด Smart Building Solutions ในปี 65 คาดว่าเติบโต 15% โดยธุรกิจนี้มีกลุ่มเป้าหมายหลักมุ่งเน้นที่อาคารสำนักงานเนื่องจากในปัจจุบันพบว่าผู้คนส่วนใหญ่มักใช้เวลาอยู่ที่ทำงานมากกว่าที่บ้านหรือคอนโด ซึ่งสอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19ในไทย และยุค New Normal ส่วนตลาดคอนโดยังไม่ตอบโจทย์มากนัก เพราะปัจจุบันยังมีโอเวอร์ซัพพลายอยู่มาก

"ที่ผ่านมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 ปีนั้น พบว่าปี 2563ภาพรวมในตลาดของบริษัทได้รับผลกระทบเล็กน้อย ทำให้การก่อสร้างมีความล่าช้าบ้าง พอเริ่มเข้าปี 2564 พบว่าจะตลาดลิฟท์และบันไดเลื่อนในปัจจุบันมีการพัฒนาลดลง ทำให้เหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งเราก็พยายามที่จะหาตลาดใหม่นอกจากตลาดแนวราบ เช่น ตลาดแนวดิ่ง,สนามบิน ,รถไฟฟ้า และจะมีการขยายตลาดกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะที่สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนและราคาน้ำมันแพง เราก็ได้รับผลกระทบเหมือนกับประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบแพง ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องช่วยลูกค้าโดยการคุมต้นทุนของสินค้าให้สอดรับกับต้นทุนงบประมาณของลูกค้าด้วย"

สำหรับจุดเด่นของ Smart Building Solution ของฮิตาชิ คือ 1. มีโซลูชั่นความปลอดภัยทางด้านกายภาพ ระบบไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) เช่น การตรวจสอบใบหน้า และ QR Code บนมือถือ ช่วยลดการสัมผัสระหว่างบุคคลทำให้การใช้บริการภายในอาคารเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ตั้งแต่เริ่มเข้าที่จอดรถในอาคารต่อเนื่องไปจนถึงการโดยสารลิฟต์ไปยังชั้นปลายทาง และสามารถจัดการสิทธิ์และข้อมูลของ ผู้เช่าภายในอาคารและผู้มาเยือนได้อย่างน่าเชื่อถือ

2. การบริการแบบดิจิทัล (Digital Service) เป็นการให้บริการในรูปแบบดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่นสมาร์ทโฟนเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้อาคาร โดยที่เจ้าของอาคารสามารถบริหารจัดการในหลายๆอาคาร และหลายๆระบบภายในตึกผ่านระบบเดียวได้พร้อมกัน ขณะเดียวกันสำหรับผู้ใช้อาคาร สามารถจอง Facility ต่างๆ เพื่อใช้งานภายในอาคาร เช่น การจองห้องประชุมส่วนกลางหรือ Co-Working Space , การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นในอาคาร, การสั่งอาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ โดยสามารถชำระค่าบริการผ่านแอปพลิเคชั่นนี้ได้

ทั้งนี้ ทางฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ฯ จะเริ่มขยาย Smart Building Solution กับธุรกิจอาคารสำนักงานก่อน โดยฟังก์ชันต่างๆจะได้รับการปรับแต่งผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างฮิตาชิและเจ้าของอาคารอย่างเหมาะสม จากนั้น จึงวางแผนที่จะขยายขายบริการไปยังอาคารอื่นๆในอนาคต เช่น คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ โรงแรม และโรงพยาบาล เป็นต้น

 นายเซอิจิโร่ อิชิซึ ผู้จัดการทั่วไป แผนก Social Innovation Business บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เนื่องจาก Hitachi Group มีประวัติยาวนานกว่า 110 ปี และดูแลธุรกิจ IT หรือ Information Technology มานานกว่า 60 ปี ซึ่งความชำนาญจากประวัติยาวนานและประสบการณ์ ประกอบกับการทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรที่หลากหลาย ฮิตาชิฯ เชื่อว่าสามารถดำเนินการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลร่วมกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี