“ภาษีที่ดิน”ทุบน่วมสต็อกคอนโด 3สมาคม "อสังหา "ชงบิ๊กตู่ผ่อนปรน

25 เม.ย. 2565 | 05:01 น.
อัปเดตล่าสุด :25 เม.ย. 2565 | 13:07 น.

“ภาษีที่ดิน”ปี2565 ทุบน่วมสต็อกคอนโด 3สมาคมอสังหา-คอนโด -บ้านจัดสรร เตรียมเข้าเจรจา ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล บิ๊กตู่ ขอ ผ่อนปรน เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จาก100% เหลือ10% หรือขั้นบันได

 

คำสั่งกระทรวงการคลัง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)เรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี2565 ในอัตราเต็ม100% ส่งผลกระทบทันที ต่อสต็อกบ้านและคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการที่มีรวมกันกว่า2แสนหน่วยเกือบ1ล้านล้านบาทต้องถูกทุบซ้ำ สถานการณ์โควิด เศรษฐกิจถดถอย  นอกจากขายลำบากปิดการขายยากแล้ว

 

 

ยังต้องชำระภาษีที่ดินในสต็อกเหลือขาย เต็ม100 % อัตราพาณิชย์ ที่ 0.3% หรือ ล้านละ 3,000บาท ตามมูลค่า ทรัพย์สิน (ราคาประเมินของกรมธนารักษ์) ผู้ประกอบการรายใดเหลือมากเจ็บตัวมาก นอกเหนือไปจากภาษีตัวอื่นและต้นทุนค่าก่อสร้าง

 

 

“ภาษีที่ดิน”ทุบน่วมสต็อกคอนโด 3สมาคม \"อสังหา \"ชงบิ๊กตู่ผ่อนปรน

 

 

 แม้ที่ผ่านมา 3สมาคมบ้านซึ่งประกอบไปด้วย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ได้ขอผ่อนปรน ผ่านสภาหอการค้าไทย ไปยังกระทรวงการคลังมาแล้วครั้งหนึ่งแต่กระทรวงการคลังยืนยันจะต้องเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2565 ในอัตราเต็ม100 %เริ่มตั้งแต่วันที่1เมษายน2565

 

หากโครงการตั้งอยู่ภูมิภาคต้องเสียภายในเดือนเมษายน ไม่ชำระหรือเลยกำหนดมีโทษปรับ ส่วนกรุงเทพมหานคร (กทม.)ขยายเวลาได้ถึงวันที่30มิถุนายน(ประเมินราคาทรัพย์สินไม่เรียบร้อย)  แน่นอนว่าโครงการอสังหาฯรายเล็กในต่างจังหวัดย่อมเจ็บปวดมากอาจถึงขั้นล้มหายตายจาก

 

อย่างไรก็ตาม 3สมาคมนำโดยสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยจะเร่งเจรจาทีมเศรษฐกิจรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อขอลดหย่อนการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เหลือ10% เท่ากับปี2563-2564หรือจัดเก็บตามขันบันได ไปจนกว่าจะครบ100%

 

 

 

 

“ภาษีที่ดิน”ทุบน่วมสต็อกคอนโด 3สมาคม \"อสังหา \"ชงบิ๊กตู่ผ่อนปรน

 

มองว่า ช่วง การระบาดโควิด เศรษฐกิจทั่วโลกล่มสลาย เศรษฐกิจภายในประเทศชะงักงัน โดยเริ่มระบาดตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2562เป็นต้นมา  โครงการคอนโดมิเนียมดาวรุ่งที่ทำท่าจะไปได้ดี เปิดโครงการ รอกำลังซื้อจากต่างชาติอย่างจีน มีอัน ต้อง เลหลังขายในราคาถูก

 

ลดเผือกร้อนในมือจากภาระดอกเบี้ย และหันหัวรบกลับมา พึงพา กำลังซื้อในประเทศ แต่เนื่องจาก กำลังซื้อภายในประเทศได้ ถูกทุบจากการระบาดจากเชื้อโรคร้าย

 

ความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อสถาบันการเงินมีสูง ทำให้การถูกปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัย  จึงมีมากขึ้นเช่นกัน รวมถึงการทิ้งดาวน์เพราะไปต่อไม่ไหว การนำสินค้ากลับมาวนขายใหม่เริ่มมีมากขึ้น

 

 

ขณะคนเงินเย็น คนรุ่นใหม่ที่เคยเตรียมความพร้อมจะซื้อคอนโดมิเนียม กลับไม่กล้านำเงินออกมาโดยขอตั้งหลักรอดูสถานการณ์ จึง เป็นสาเหตุให้ ที่อยู่อาศัยบ้าน-คอนโดฯ กลายเป็นสต็อก กองมหึมา ไม่ต่างจากสินค้าอื่น แม้ที่ผ่านมาผู้ประกอบการต่างแข่งขันสาดแคมเปญทั้งอยู่ฟรี ตั้งแต่สองปีขึ้นไป ลดให้สุงสุดเกือบ50-70%ก็มีในบางโครงการ

 

เพราะเกณฑ์ของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อนุโลม ผู้ประกอบการ ต้องปิดการขายให้จบภายใน3ปี นับตั้งแต่ ได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง หากเลยกำหนดการผ่อนผันจะเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราประเภทอื่นๆหรือพาณิชยกรรม

 

ทั้งนี้ในวงรอบการของก่อสร้าง คอนโดมิเนียม ต้องดำเนินการทั้งตึกและเปิดพร้อมกัน ต่างจาก บ้านจัดสรร ทำให้ เฉลี่ยแต่ละโครงการการก่อสร้างกินเวลาไปเกือบ3ปี ดังนั้น การปิดขายโครงการในเวลากำหนด ตามเกณฑ์ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภายใน3ปีย่อมยากมาก

 

ผลกระทบดังกล่าว นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า สมาคมจะเป็นผู้แทน  เข้าเจรจากับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ชะลอการเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี2565 เต็มอัตรา 100% อีกครั้ง

 

นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ไทยอธิบายว่า  ยอมรับว่า ในหลายกรณี ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาษีตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ได้  และไม่ต้องการปล่อยปัญหาทิ้งไว้ภายหลัง เพื่อให้รัฐแก้ปัญหาภายหลัง ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในภาพรวม

 

สำหรับข้อเสนอที่จะหารือกับ ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลพิจารณาเป็นรายกรณีรายกลุ่มธุรกิจ ใครจ่ายไหว-ไม่ไหว  ได้แก่  

  • ภาษีประเภททรัพย์สิน ในกลุ่มโรงแรม หลายรายอยู่ในภาวะที่ไม่มีกำลังพอในการจ่าย
  • ขอให้ท้องถิ่น/รัฐไม่ควรบีบเพื่อเรียกเก็บ ตามอัตรา เพราะอาจเกิดปัญหาตามมา

 

สต็อกเหลือขายที่อยู่อาศัย

  • กลุ่มโครงการบ้าน-คอนโดฯ เกิน 3 ปี
  • กลุ่มไม่เกิน3ปี
  • รัฐต้องเก็บตัวเลขสต็อกเหลือขายอย่างชัดเจน
  • ทบทวนการเก็บภาษีที่ดินเต็ม100%

 

แม้กระทรวงการคลัง ไม่สามารถเลื่อนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้เพราะ ความจำเป็นในเรื่องของงบประมาณที่สนับสนุนท้องถิ่นแต่ในทางกลับกันหากหลายโครงการล้ม ท้องถิ่นกระทบ รัฐบาลสะเทือนได้เช่นกัน!!!