ไรมอน แลนด์ ดัน Branded Residences ผนึกพันธมิตร ยึดเจ้าตลาดลักซ์ชัวรี่

13 พ.ค. 2565 | 06:41 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ค. 2565 | 14:02 น.

ไรมอน แลนด์ งัดกลยุทธ์ Branded Residences ผนึกแบรนด์ต่างชาติ เสริมภาพลักษณ์และบริการ สร้างความแตกต่าง ยึดตลาดลักซ์ชัวรี่ เบื้องต้นตั้งเป้า 70-80% โครงการใหม่ พร้อมลุยลงทุนบ้านและวิลล่า และทำเจวีกับเจ้าของที่ ปิดปัญหาการรับรู้รายได้แบบฟันหรอ

นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดเผยว่า จากการรีแบรนด์ไรมอน แลนด์ ที่ผ่านมา บริษัทได้ผลักดันกลยุทธ์การเป็น Branded Residences จับมือกับแบรนด์โรงแรมระดับโลก สร้างความแกร่งด้านบริการ และการตลาด ยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เข้าถึงง่ายทันสมัย มีสไตล์มากยิ่งขึ้น 

 

สอดคล้องกับการปรับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ใหม่ ขยายกลุ่มเป้าหมายให้เข้ากลุ่มเจเนอเรชั่นใหม่ โดยปีนี้ใช้งบลงทุนอีกกว่า 2,000 ล้านบาท กับอีก 2 โครงการใหม่ และออฟฟิศบิ้วดิ้งอีกหนึ่งโครงการ และคาดการณ์รายได้สิ้นปีที่ 2,200 ล้านบาท  

"แน่นอน คอนโดยังเป็น Core Business ของเรา แต่เราก็ไปตามไดเร็คชั่น การเป็น Branded Residence ให้มากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าไว้ ที่จะร่วมกับพันธมิตร 70-80% และอาจจะมีแบรนด์ของเราบ้างบางส่วน แล้วแต่ทำเล" นายกรณ์กล่าว

 

สำหรับแผนธุรกิจหลักที่จะเดินหน้าไป นอกเหนือจาก Branded Residences ซึ่งถือเป็นนิวอีร่าของธุรกิจอสังหาที่มีโอกาสการเติบโตสูง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่คงคุณค่าตัวเองได้ สามารถส่งต่อลูกหลาน ด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นได้ การร่วมมือกับพันธมิตร ยังเป็นการยกระดับสร้างความพรีเมี่ยมให้กับโครงการ และยังเสริมเรื่องฐานลูกค้าจากพันธมิตรเพิ่มเติม 

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ ในการสร้างรายได้ให้แข็งแกร่ง คือ การ Joint Venture ร่วมกับเจ้าของที่ดิน ซึ่งจะช่วยในการลดต้นทุน ลดดอกเบี้ย ขณะรอเวลาในการพัฒนาโครงการ  

 

พร้อมกันนี้ ไรมอน แลนด์ ยังเน้นการวางแผนเปิดโครงการให้สอดคล้องกับการรับรู้รายได้ เพื่อตัดปัญหาการับรู้รายได้ที่ฟันหรอ เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมใช้เวลาในการก่อสร้างนาน การขยายตลาดสู่ โครงการบ้านและวิลล่า ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างน้อยกว่า จะเข้ามาช่วยเสริม ด้วยการวางแผนระยะยาว 5-10 ปีที่จะมีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง

 

และจากทิศทางของโลกยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ ไรมอน แลนด์ ได้ขยายพอร์ตลงทุนสู่ดาต้า เซ็นเตอร์ ซึ่งจะเปิดประมาณปีหน้า และจะเริ่มรับรู้รายได้ประมาณ ไตรมาส 1-2 ธุรกิจนี้บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัทจากสหรัฐอเมริกา ที่ทำธุรกิจ Green Data Center ใช้ น้ำ ในการ cool down คอมพิวเตอร์ ประหยัดพื้นที่ ประหยัดต้นทุนประมาณ 20% และน้ำที่ปล่อยออกมาก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

 

Data Center ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 18 เดือน ธุรกิจนี้ จะเข้ามาช่วยเสริมให้รายได้ของไรมอน แลนด์ มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น โดยแผนการก่อสร้างจะสรุปได้ปลายปี 2565 และเริ่มก่อสร้างต้นปีหน้า 

 

ส่วนโครงการอสังหาริมทรัพย์ทที่ลงทุนในปี 2565 มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท จะมีโครงการโรสวูด เรสซิเด้นส์ ที่กมลา ภูเก็ต ซึ่งร่วมกับ โรสวูด เป็นสแตนอโลนเรสซิเด้นท์แห่งแรกในอเเชียแปซิฟิคของโรสวู้ด เป็นลักชัวรี่ วิลล่า มี 14 หลัง ขนาด 4 ห้องขึ้นไป จะเปิดปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ปีหน้า ตอนนี้กำลังทำแบบ มูลค่าโครงการประมาณ 7,800 ล้านบาท และยังมีอีก 2 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ มูลค่า 5,500 ล้านบาท โดย Joint Venture กับพันธมิตร เป็นโครงการที่เป็น Branded Residences ส่วนอีกโครงการเป็นแนวราบ อยู่กรุงเทพฯ กำลังทำแบบ จะลอนซ์ภายในปีนี้

 

คาดการณ์สิ้นปี 2565 บริษัทฯ จะมีรายได้ 2,200 ล้านบาท จากการโอนโครงการ The Estelle Phrom Phong สุขุมวิท 26 ซึ่งจะเกิดขึ้นไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนคาดการณ์ยอดขายอยู่ที่ 7,200 ล้านบาท มาจากสต๊อกที่เหลือ