19 พฤษภาคม 2565 - ตลาดชาวต่างชาติ ถือเป็นสัดส่วนสำคัญในการซื้อขายคอนโดมิเนียมไทย ล่าสุดหลังสถานการณ์โควิด19 เกิดการเปลี่ยนแปลงในสัดส่วนผู้ซื้อขาย โดยเฉพาะการเข้ามามีบทบาทสำคัญของชาว CLMV (ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า) รวมถึง ชาวอินเดีย ต่อตลาดอสังหาฯไทยอย่างน่าสนใจ
ทั้งนี้ ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย ในรายงาน สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ไตรมาส 1/2565 ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของของคนต่างชาติ ช่วง 3 เดือนแรก (ม.ค.-มี.ค.) มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม (อาคารชุด) ของคนต่างชาติทั่วประเทศ จำนวน 2,107 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 10,262 ล้านบาท โดยผู้ซื้อสัญชาติจีนมีการโอนกรรสิทธิ์สูงสุดทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 949 หน่วย มูลค่า 4,570 ล้านบาท สำดับ 2 คือรัสเซีย จำนวน 134 หน่วย มูลค่า 435 ล้านบาท ลำดับ 3 สหรัฐอเมริกา จำนวน 114 หน่วย มูลค่า 344 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในแง่มูลค่าการโอนฯ พบว่า มีจุดที่น่าสนใจ คือ สัดส่วนของผู้ซื้อชาวกัมพูชา และ อินเดีย ซึ่งโผล่เข้ามาอยู่ในกลุ่มชาติที่มีการโอนฯสูงสุด 10 อันดับแรกดังนี้
TOP 10 ชาวต่างชาติ ซื้อคอนโดฯไทยมูลค่าสูงสุด
TOP 10 ชาวต่างชาติ ซื้อคอนโดฯไทยจำนวนสูงสุด
ทั้งนี้ ดร.วิชัย ระบุว่า ผู้ซื้อชาวต่างชาติในตลาดคอนโดมิเนียมไทย ซึ่งเป็นสัดส่วนราว 20% ของตลาดในแต่ละปี ยังคงน่ากังวล หากสถานการณ์ความขัดแย้งของรัสเซีย -ยูเครน เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากสัญชาติต่างๆที่เป็นผู้ซื้อหลัก ต่างมีความเกี่ยวพันกับวงล้อสงครามทั้งสิ้น เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศล อเมริกา ขณะรัสเซียผู้ซื้ออันดับ 2 ของไทย ถูกคว่ำบาตรในการใช้บัตรเครดิต รวมถึงประเทศจีน ผู้ซื้ออันดับ 1 ยังมีนโยบายการปิดประเทศอย่างเข้มงวด คาดหากตลาดจีนยังไม่กลับมา อาจกระทบต่อภาวะตลาดคอนโดฯไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
" กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เป็นกำลังซื้ออาคารชุดยังคงเข้ามาในประเทศน้อยจากผลกระทบของ COVID-19 และสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียทำให้ความต้องการซื้ออาคารชุดในภาพรวมฟื้นช้า "
ที่มา : REIC