'สินค้าซ่อมบ้าน-แต่งบ้าน' ฟื้นแรง! 'ไทวัสดุ' ลุยแผนรีโนเวทสาขา

22 กรกฎาคม 2565 - นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ไทวัสดุเดินหน้าปรับโฉม 4 สาขา ได้แก่ สาขากาญจนบุรี สาขาสุพรรณบุรี สาขาเชียงใหม่ และสาขาศรีราชา ที่มีแนวคิดหลักเน้นตอบโจทย์การใช้ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่อให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกัน โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่สร้างสรรค์ให้เป็นพื้นที่แห่งความประทับใจในการเข้ามาเลือกซื้อสินค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาใช้บริการ
 

โดยการปรับโฉมสาขาดังกล่าวได้ปรับปรุงพื้นที่ใหม่ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบทั้งรูปทรงอาคารภายนอกและภายในจากเดิมร้านที่มีรูปทรงคล้ายกล่องโกดังสินค้าปัจจุบันไทวัสดุได้ออกแบบรูปทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น เพื่อสื่อถึงความเป็นบ้านที่แสนอบอุ่น 

นอกจากนี้ยังปรับปรุงลานจอดรถบริเวณด้านหน้าอาคารและด้านข้างโดยรอบ เพื่อรองรับลูกค้าที่จะมาใช้บริการพร้อมกันจำนวนมาก มีการออกแบบแบ่งโซนประเภทสินค้าอย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้การจับจ่ายซื้อสินค้าง่ายขึ้นมาก ทั้งของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า และวัสดุก่อสร้างอย่างครบครัน รวมถึงโซนโฮมเซอร์วิส การบริการออกแบบ ติดตั้ง ซ่อมแซมและยังเน้นเรื่องการปรับอากาศอากาศภายในอาคารให้มีระบบถ่ายเทอากาศที่มีประสิทธิภาพ  เพื่อให้ลูกค้าได้เดินเลือกซื้อของกันอย่างสะดวกและเย็นสบาย

“การปรับโฉมร้านครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดสาขาที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตลอดมาและถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการดำเนินงานที่สำคัญในปีนี้โดยเรามีความเชื่อมั่นว่าการปรับโฉมร้านใหม่ครั้งนี้ จะทำให้ไทวัสดุเป็นตัวเลือกแรกสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้าง สินค้าตกแต่งบ้าน และสามารถครองใจลูกค้าได้อย่างแน่นอน”

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกสินค้าซ่อมบ้านและแต่งบ้านมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น โดยในปี 2565 คาดการณ์เติบโตถึง 4% YoY ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากผู้อยู่อาศัยบ้านที่มีอายุตั้ง 11 - 20 ปี เริ่มมีความต้องการปรับปรุงบ้าน และบ้านที่มีอายุตั้งแต่ 5 – 10 ปี เริ่มต้องการปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 42% จึงส่งผลให้ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง (ข้อมูลศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์) ส่งผลให้เราต้องปรับตัวเร่งตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น