นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า ครึ่งปีแรก เอพีสามารถสร้างยอดขายบ้านแนวรายได้เติบโตกว่า 20,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 25% ทำให้เอพีครองส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี พ.ศ. 2558 - 2564) ควบคู่กับการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งในมิติจำนวนและมูลค่าการพัฒนาโครงการใหม่โดยปี 2565 ถือเป็นปีที่บ้านเดี่ยวเปิดตัวโครงการมากสุดถึง 23 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 32,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ถ้าเทียบจากปีก่อนหน้า
รวมถึงสัดส่วนการกระจายโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าปีนี้บ้านเดี่ยวเอพี จะมีโครงการปูพรมในทุกพื้นที่มากกว่า 50 โครงการ ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลือกที่มากพอที่จะให้ลูกค้าสามารถมีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้
“คีย์ไดรฟ์ที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง มาจากทิศทางการพัฒนาสินค้าที่ชัดเจนในการสร้างความต่างในเรื่องของ Product Offering และ Price Package เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาตัวบ้าน จะต้องตอบได้ในเรื่องความคุ้มค่าทั้งในมิติด้านพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรมภายนอกที่ต้องส่งผลต่อพื้นที่ภายใน ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บ้านเดี่ยวเอพีจะต้องส่งมอบความรู้สึกที่มากกว่า ควบคู่ไปกับแพ็กเกจราคาขายที่ลูกค้ารับได้ เมื่อเทียบกับซัพพลายที่เสนอขายอยู่ในทำเลเดียวกัน” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลที่ชำนาญ ทั้งทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายลง หรือการขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ความท้าทายใหม่ของปีนี้คือการนำบ้านเดี่ยวเอพีบุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ Market Penetration เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยการบุกตลาดใหม่ครั้งนี้จะเป็นการเข้าไปในทำเลใหม่ๆ ที่ยังไม่มีสินค้าในพอร์ตเอพี ด้วยแบรนด์สินค้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า MODEN (โมเดน) ภายใต้มาตรฐานที่ไม่ต่างจากบ้านเดี่ยวเอพีในแบรนด์อื่นๆ
“ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ถือเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ ด้วยจำนวนซัพพลายที่เกิดขึ้นจากดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ยังมีไม่มาก เราจึงอยากใช้ความชำนาญและความเชี่ยวชาญที่เรามีสร้างโอกาสในการเติบโต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับพอร์ตสินค้าบ้านเดี่ยวเอพีเรา ควบคู่ไปกับการส่งมอบตัวเลือกใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกชีวีตดีๆ ที่ต้องการ ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัวแบรนด์ MODEN ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ไม่ต่างจากแบรนด์บ้านเดี่ยวอื่นๆ ของเราที่ประสบความสำเร็จ” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว
นางพิมพรรณ ปรีชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ในปัจจุบันความท้าทายของการพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยวมาถึงจุดที่ยกระดับไปมากกว่า เรื่องของทำเลที่ตั้ง และเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ปัจจุบันรูปแบบการใช้พื้นที่ของคนกับฟังก์ชันการใช้งาน ได้เปลี่ยนแปลงไป COVID-19 กระตุ้นให้เกิดเทรนด์ Home Nesting ขึ้น คือการเนรมิตให้บ้านต้องเป็นทุกอย่างได้ คำว่าที่ทำงาน ก็ลงดีเทลไปได้อีก ที่อาจจะไม่ไช่แค่โต๊ะนั่งประชุมทำงานอย่างเดียว สามารถปรับเป็นสตูดิโอ มุมพักผ่อนในบ้าน ตลอดจนเป็นคาเฟ่เล็กๆ ส่งผลให้การออกแบบบ้านต้องให้ความสำคัญในเรื่อง Flexible Space มากขึ้น ปรับเปลี่ยนได้ ใช้งานได้จริง ไม่อึดอัด
ครึ่งปีหลังนี้กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพีจึงพร้อมเปิดตัว 17 แบบบ้านใหม่ เพื่อส่งมอบความรู้สึกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น กับ 18 โครงการที่เตรียมพร้อมเปิดตัว ประกอบด้วย แบรนด์ THE CITY บ้านเดี่ยวเซกเมนต์ไฮเอนด์ ขนาดที่ดิน 100-127 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 386-560 ตารางเมตร ราคา 12-20 ล้านบาท แบรนด์ CENTRO บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซกเมนต์กลางบน ขนาดที่ดิน 50-62 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 203-305 ตารางเมตร ราคา 5-12 ล้านบาท และแบรนด์น้องใหม่ “MODEN” บ้านเดี่ยวสำหรับคน Gen Z ที่มาพร้อมกับ 5 แบบบ้านที่ให้ความรู้สึกใหม่ ขนาดที่ดิน 50-54 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 163-227 ตารางเมตร โหมดราคา 3-5 ล้านบาท
“หัวใจของการออกแบบพัฒนาโครงการในวันนี้และในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์ต้องกลับมาทำการบ้านในการออกแบบพื้นที่มากขึ้น รวมถึงการเข้าใจอินไซต์ของการใช้พื้นที่ที่แตกต่างกันของทุกสมาชิกในครอบครัว เพราะถ้าเราถอดรหัสความต้องการในการใช้พื้นที่จริงๆ ของบ้านหลังหนึ่งแล้วนั้น เราจะพบว่าทั้งเพศ วัย ไลฟ์สไตล์ ความต้องการพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้านหนึ่งหลัง มีรายละเอียดที่การออกแบบจะต้องเข้าไปตอบโจทย์ ที่สำคัญวันนี้ลูกค้ากำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใหม่ๆ ให้ความรู้สึกที่ไม่น่าเบื่อ พื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยในมุมมองใหม่ที่ต่างไปจากเดิม” นางพิมพรรณ กล่าว
ทั้งนี้ ปรัชญา FUNCTIONAL IS BEAUTIFUL ยังคงเป็นจุดยืนสำคัญในการพัฒนาบ้านเดี่ยวเครือเอพีทุกแบรนด์ เพื่อให้บ้านเดี่ยวเอพีเป็นบ้านที่เข้าใจทุกชีวิต ภายใต้ 3 แนวคิดสำคัญที่เป็นกรอบการทำงานที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเครือเอพีประสบความสำเร็จเสมอมา ประกอบด้วย
Harmonious Living for All สร้างพื้นที่ส่วนตัว กับพื้นที่ของทุกคนให้เกิดขึ้น แนวคิดที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านเอพีที่ไม่ใช่แค่คำว่า “พื้นที่ใช้สอย” แต่เป็น “พื้นที่ที่ตอบทุกคนในบ้าน” ยกตัวอย่าง การสร้างพื้นที่ส่วนตัวไม่ใช่แค่การมีห้องนอนส่วนตัว แต่หมายถึงการออกแบบมุมต่างๆ ภานในบ้าน ให้สามารถใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวมได้
อย่าง THE CITY ดีไซน์ใหม่ นอกจากการออกแบบพื้นที่ชั้น 1 ให้มี Double Volume เชื่อมต่อพื้นที่แนวตั้งแล้ว บ้านหน้ากว้างยังสะท้อนให้ทุกพื้นที่ภายในเกิดการเชื่อมต่อเข้าหากัน เป็นได้ทั้งพื้นที่อ่านหนังสือ พื้นที่ทำงาน พื้นที่รับแขก หรือโต๊ะอาหารสำหรับทุกสมาชิก บนความโล่ง โปร่ง สบาย และรับแสงจากธรรมชาติ รวมถึงการรองรับเทรนด์ผู้สูงอายุ กับการจัดวางพื้นที่ห้องนอนชั้น 1 ให้ใกล้กับจุดจอดรถ หรือครั้งแรกกับการออกแบบห้องใต้หลังคาในโครงการ THE CITY จรัญฯ - ปิ่นเกล้า ถือเป็นแนวคิดในการสร้างพื้นที่ใหม่ๆ ให้การอยู่อาศัยในบ้านมีสีสันมากยิ่งขึ้น
Spaces with Function-led Aesthetic มากกว่าความสวยงาม แต่ทุกพื้นที่คือการใช้งานได้จริง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทีมออกแบบ ด้วยการคำนึงถึงการใช้งานได้จริง ที่เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการจัดวางผังโครงการ เพื่อให้เกิดเป็น Smart Space Smart Layout เช่น การจัดวางพื้นที่ในบ้านแบรนด์ CENTRO ดีไซน์ใหม่ ที่เปลี่ยนวิธีคิดในการจัดวาง 3 ฟังก์ชันหลักในชั้น 1 อย่างพื้นที่จอดรถ พื้นที่เก็บของนอกบ้าน และมุมมองทางเข้าบ้านใหม่ จนเกิดพื้นที่ใช้สอยในมิติใหม่จากพื้นที่ที่ทับซ้อนอยู่ หรืออย่างแบบบ้านแบรนด์ MODEN พื้นที่ภายในบ้านมีการออกแบบพื้นที่ส่วน ชั้น 2 ให้เป็น Pocket Space เชื่อมต่อกับ Family Area ซึ่งลูกค้าสามารถปรับพื้นที่ในมิติใหม่ๆ เพื่อรองรับกิจกรรมอื่นๆ ได้อย่างไม่จำกัด
Meaningful Innovations for Life การผสานเทคโนโลยีเข้ากับการอยู่อาศัย เพื่อสร้างคุณค่าและความหมายให้กับชีวิต แนวคิดนี้อยู่บนความเชื่อที่ว่านวัตกรรม คือการเพิ่มความลงตัวให้การใช้ชีวิต จนนำมาสู่คอนเซ็ปต์ HYBRID LIVING ที่ถูกผสมผสานเข้าไปในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวเอพี ทั้งเรื่องของ Security นวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน Comfort นวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายกับระบบสั่งการอัจฉริยะ Cost-saving นวัตกรรมเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง Community นวัตกรรมที่ดูแลคอมมูนิตี้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับในไตรมาส 3 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 8,770 ล้านบาท เป็นแบรนด์ THE CITY จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ THE CITY บางนา จำนวน 167 ยูนิต มูลค่า 2,150 ล้านบาท และโครงการภายใต้แบรนด์ CENTRO จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 6,620 ล้านบาท
พร้อมสร้างสีสันการตลาดไตรมาส 3 ผ่านแคมเปญ THE NEIGHBOR ชวนคุณมาอยู่ด้วยกัน เป็นการต่อยอด จาก MINI SERIES YOUTUBER ที่ทำปีที่แล้ว และได้รับกระแสที่ดี คือการที่เราเชิญคนดัง และเหล่า YouTube ที่เป็นลูกบ้านเอพี เป็นคนที่ตัดสินใจซื้อ และใช้ชีวิตอยู่จริงมาถ่ายทอดเรื่องราวการใช้สเปซในบ้านเอพี
ทั้งนี้ โครงการภายใต้แบรนด์ MODEN บริษัทฯ เตรียมจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 จำนวน 3 โครงการ มูลค่า 3,550 ล้านบาท ได้แก่ MODEN บางนา-ศรีนครินทร์, MODEN พระราม 2 และ MODEN บางนา-เทพารักษ์ ซึ่งอยู่ในโหมดราคา 3-5 ล้านบาท