'บุญถาวร' มาดใหม่ - รื้อใหญ่ สร้างกลุ่มธุรกิจ 'พื้นที่ไลฟ์สไตล์'

11 ธ.ค.2565 - การพลิกโฉมรีแบรนด์ และเปิดกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ขยายไลน์ บริการรีโนเวท จนมาถึง การกระโดดเข้ามา เป็น 1 ในผู้เล่นตลาดพื้นที่ค้าปลีก เชิงไลฟ์สไตล์ ของ 'บุญถาวร กรุ๊ป 'ผู้นำในธุรกิจวัสดุและ สินค้าตกแต่งบ้านชั้นนำของไทย ผ่านการเดินหน้า ยึดทำเลสวย ทุกมุมเมือง ปั้น 'Design Village' สวมบทบาท เป็นทั้งเจ้าของโครงการ เปิดพื้นที่ขนาดใหญ่ หยิบฉวยประโยชน์ ให้กับธุรกิจหลักของตัวเอง และเรียกแขก เสริมทัพ ด้วยผู้เช่า ประเภท สินค้าแฟชั่น และ ร้านอาหาร หลังประเมิน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ แนบชิดติดบ้าน 

ขณะโครงการอสังหาฯ ขยายตัวหลายทิศ  เป็นอานิสงส์กับทั้งธุรกิจหลักและรอง โดยบริษัท ตั้งเป้ารายได้รวมไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท ในปี 2566 พร้อมลุยขยาย 'Design Village' รื้อที่ตั้งเดิม บางนา - รัชดา สร้างอาณาจักรใหม่ ก่อนมองหาโอกาสสู่ทำเลหัวเมืองต่างจังหวัด นับเป็นก้าวจังหวะที่น่าจับตามอง สำหรับ โอกาสหลังเศรษฐกิจพลิกฟื้น ท่องเที่ยวคึก และ ผู้บริโภคยุคดิจิทัลมาแรง 

'บุญถาวร' ภายใต้วิกฤติ

โอกาสนี้ 'ฐานเศรษฐกิจ' เจาะมุมมอง เปิดแผนธุรกิจ ของ นายสิทธิศักดิ์ ทยานุวัฒน์ แม่ทัพใหญ่ 'บุญถาวร กรุ๊ป ' โดยระบุ ปัจจุบัน บริษัท มีแหล่งค้าวัสดุ ประเภท กระเบื้อง เซรามิค เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าประเภท ตกแต่งบ้าน ขนาดใหญ่ทั่วประเทศ 14 สาขา รวมพื้นที่ 2.5 แสนตารางเมตร ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2565 ที่ 14,000 ล้านบาท ซึ่งฟื้นตัวดีขึ้นจาก 2 ปีก่อนหน้า และเคยต้องปิดโชว์รูมหลักๆ นานถึง 3 เดือน ในช่วงประกาศล็อกดาวน์ การแพร่ระบาดของโควิด19 ในไทยรุนแรง กระทบยอดขายอย่างมาก โดยมีการซื้อ-ขายผ่านออนไลน์ ที่เติบโต เข้ามาทดแทน 

ทั้งนี้ เทรนด์การ Work From Home ของหลายบริษัทที่ยังดำเนินต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน กลายเป็นอานิสงส์ กระตุ้นเซกเตอร์ตกแต่งบ้านอย่างร้อนแรง เพราะผู้คนหันมาปรับปรุงห้องทำงาน ,ซื้อหาสิ่งของตกแต่งบ้าน เนื่องจากใช้เวลาอยู่ในบ้านพักมากขึ้น ทำให้ อุปกรณ์เครื่องครัว  เช่น หม้อทอดไร้น้ำมัน หรือ  ตู้แช่ไวน์ ก็เป็น 1 ใน สินค้า ที่มียอดขายเติบโตดี 

Post COVID จุดเปลี่ยนกลยุทธ์ 

อย่างไรก็ดี  นายสิทธิศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย หลังการแพร่ระบาดของโควิด 19  ภายใต้ 'กำลังซื้อ'ของครัวเรือนโดยรวม ยังมีความเปราะบางจากภาระค่าครองชีพและหนี้ที่สูงอยู่นั้น ไม่อาจวางใจได้ เพราะล้วนแล้วแต่เป็นความท้าทายของผู้ประกอบการ ที่ต้องเร่งปรับตัวให้สอดรับกับปัจจัยต่างๆ เหล่านี้   'บุญถาวร' เอง ดำเนินธุรกิจมานาน 45 ปี แม้จะมีการปรับตัว ปรับสินค้า ตามเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง แต่ยุคนี้มีความต่างออกไป เรียกว่า ยุค Post- COVID 

ฉะนั้น การวางตำแหน่งของธุรกิจ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนอย่างมากมายด้วย ด้านหนึ่ง บริษัท ให้ความสำคัญกับธุรกิจหลัก แต่ก็มองหาโอกาสใหม่ๆด้วย โดยนำร่องมาตั้งแต่ ปี 2561 ผ่านการขยายโชว์รูม และ พื้นที่ ในเชิงไลฟ์ไตล์ 'Design Village' เจาะพฤติกรรมการช้อปปิ้งที่ผู้คนมองหาสถานที่ในการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ในรูปแบบใหม่ ใกล้บ้านมากขึ้น ผ่านทั้งการปรับปรุงสาขาเดิม และ เปิดใหม่ โดยปัจจุบันนำร่องแล้วใน 3 ทำเล ได้แก่ ราชพฤกษ์, พุทธมณฑล และเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งผลตอบรับเกินคาด รวมผู้ใช้บริการ 20,000 คน ต่อวัน มีแบรนด์ชั้นนำกว่า 200 แบรนด์ และสร้างรายได้รวมทั้ง 3 สาขา กว่า 4,500 ล้านบาท  

บุญถาวร รื้อใหญ่ 'บางนา-รัชดา' ปั้นอาณาจักร

ผู้บริหารคนเดิม ขยายความว่า 'Design Village'  ไม่ได้หยุดแค่ที่ แห่งที่ 3 แต่ปัจจุบัน บริษัทกำลังเพิ่มอีก 2 สาขา โดยทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ในทำเล บางนา ซึ่งจะเป็นการรีโนเวทสาขาเดิมที่เปิดมานานกว่า 10 ปี และมีฐานลูกค้าชั้นดีแน่นหนา 1 แสนบัญชี บนพื้นที่ 30ไร่ ขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 60% คาดเปิดบริการได้ เม.ย.ปี 2566 ปิดพื้นที่เช่าได้แล้ว 80% และมียักษ์ใหญ่ อย่าง Gourmet Market ,Uniqlo และ Starbucks ร่วมเป็นพันธมิตร เป็นทำเลแห่งอนาคต ที่กำลังเจริญเติบโตอย่างน่าสนใจ 

ส่วนอีกสาขา คือ รัชดา อีกพื้นที่ยุทธศาสตร์ 14 ไร่ ที่มีฐานลูกค้ากว่า 3 แสนบัญชี เน้นตอบโจทย์ลูกค้าพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล จากศักยภาพของพื้นที่ในเชิงเศรษฐกิจและเกี่ยวพันกับไลฟ์สไตล์ชัดเจน จะเป็นศูนย์กลาง ช้อป ทำงาน ทานอาหาร และ สัมนา คาดเปิดบริการไตรมาส 3 ปี 2566 

"ครั้งนี้ ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งใหญ่ของบริษัท นอกจากมีการรีแบรนด์ ในเชิงโมเดลธุรกิจก็เปลี่ยนไปด้วย เพื่อให้ทันกับโกลบอลเทรนด์ พร้อมๆกับการขยายธุรกิจเดิม ที่เรายังเน้นขายกระเบื้อง เซรามิค ห้องครัว หรือ สุขภัณฑ์ และ สินค้าตกแต่งบ้าน แต่มิติใหม่ในเชิงไลฟ์สไตล์ เราชวนเพื่อนพันธมิตร ร้านค้า แฟชั่น เพิ่มทางเลือกให้กับคนยุคใหม่ "

นอกจากนี้ บุญถาวร ตั้งเป้า  ภายในปี2566   'Design Village' ทั้ง 5 สาขา จะทำยอดขายรวม 11,000 ล้านบาท ขณะภายในปี 2569 จะขยายพื้นที่รวม 8-9 สาขา โดยมองหาโอกาสไปยังพื้นที่ ต่างจังหวัด ที่บริษัทมีแลนแบงก์รองรับ เช่น เชียงใหม่ อุดรธานี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พัทยา และ หัวหิน เป็นต้น ทั้งในรูปแบบร่วมลงทุน ,รีโนเวท หรือ เปิดใหม่ 

เชื่อมั่น ศก. ปูทางธุรกิจไปต่อ

ทั้งนี้ แม่ทัพใหญ่บุญถาวร ปิดท้าย ว่า ภายใต้ความท้าทายทางเศรษฐกิจปีหน้า ที่ต่างมีการคาดการณ์กันว่า 'เศรษฐกิจโลก'จะถดถอยนั้น เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยคงสามารถเอาตัวรอดได้ และสำหรับธุรกิจวัสดุตกแต่ง ซึ่งมีฐานลูกค้าหลากหลายจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากประเมิน การท่องเที่ยวจะฟื้นแรง ลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ที่มีสัดส่วนราว 20% ของยอดขาย จะกลับมาซื้อหาสินค้าในการรีโนเวทคึกคัก ขณะลูกค้ารายย่อย เชื่อ กลุ่มกลาง-บน จะทนทานต่อเศรษฐกิจ เช่นเดียว กับกลุ่มลูกค้าเจ้าของโครงการ สถาปนิก วิศวกรออกแบบ - ตกแต่ง ยังขยายตัว 

โดย วิกฤติพลังงาน และ การแข่งค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งกระทบต่อการนำเข้าสินค้านั้น ยังเป็นความท้าทายของบริษัท เพราะส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาสินค้า โดยที่ผ่านมา สินค้า - วัสดุก่อสร้าง - กลุ่มตกแต่ง ปรับขึ้นมาแล้ว 5-20% แต่เชื่อว่า ปีหน้าสถานการณ์ต่างๆ น่าจะไม่ได้รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา