28 ธ.ค.2565 - กระแสข่าวที่ระบุว่า จีนเตรียมเปิดประเทศ โดย ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีน ไม่ต้องกักตัวหลังเดินทางถึงจีนอีกต่อไป จากเดิมที่ต้องกักตัวเป็นเวลาถึง 8 วัน (แบ่งเป็น 5 วันในโรงแรมที่ทางการจีนกำหนดไว้ให้หรือที่ศูนย์กักตัวกลาง และอีก 3 วันที่เหลือ ณ ที่บ้านหรือที่พัก) ซึ่งผู้เดินทางที่ประสงค์เดินทางเข้าประเทศจีนเพียงแต่ต้องแสดงหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิด(แบบ PCR) เป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบินจากประเทศต้นทางมายังจีนภายในเวลา 48 ชั่วโมง
อีกทั้งมาตรการดังกล่าว มีผลครอบคลุมถึงชาวจีนที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศเข้าจีนด้วย ซึ่งหมายความว่าชาวจีนที่ออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ จะสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่าจะเป็นอานิสงส์บวกต่อการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ชาวจีน ยังมีบทบาทต่อทิศทางอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่ต่างกัน โดยเฉพาะ ตลาดคอนโดมิเนียม เนื่องจาก ชาวจีน ยืนหนึ่งแชมป์ ช้อปคอนโดฯไทยมากที่สุดในทุกๆปี แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 และ การปิดประเทศของจีนเป็นเวลาเนิ่นนาน ทำให้คอนโดฯไทย ทั้งการซื้อ ,ขาย ,และเปิดตัวโครงการใหม่ ซบเซาลงอย่างมีนัย กลายเป็นคำถาม หลังจาก ดีเดย์จีนเปิดประเทศ ชาวจีนจะเดินทางเข้า-ออก ประเทศได้สะดวกขึ้น จะทำให้การซื้อขายคอนโดฯไทย ในกลุ่มลูกค้าต่างชาติกลับมาเฟื่องฟูหรือไม่
ประเด็นนี้ เจาะในมุมมองกูรูอสังหาฯ นายภัทรชัย ทวีวงศ์ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ตอบข้อซักถาม ในปี 2566 ลูกค้าต่างชาติจะกลับมาไหม เพราะอะไร ?
ว่า แม้ในช่วงครึ่งหลังของปีพ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยต้องเผชิญกับข่าวของกลุ่มทุนจีนสีเทาซึ่งส่งผลให้มีการทิ้งดาวน์และไม่เข้าโอนกรรมสิทธิ์ของนักลงทุนชาวจีนเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะตลาดบ้านจัดสรรระดับบน
แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย มองว่า ทิศทางของลูกค้าต่างชาติอาจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่กลับไปเหมือนหรือใกล้เคียงกับในช่วงก่อนการแพร่ระของไวรัสโควิ-19 ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา เนื่องจาก ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว ไม่เพียงแต่ทำลายระบบทางเศรษฐกิจไทยเท่านั้น แต่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
แต่ในปี 2566 จากปัจจัยบวกมาตรการเปิดประเทศจากทางภาครัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น และการเปิดประเทศและมาตราการผ่อนคลายของจีน จะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญให้กำลังซื้อต่างชาติที่ยังคงมองเห็นโอกาสการลงทุนในประเทศไทย สามารถเดินทางเข้ามาซื้อ ทำสัญญา และโอนกรรมสิทธิ์ได้สะดวกมากขึ้นในปีหน้า
ซึ่งแผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย มองว่าผู้พัฒนาควรเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยให้มากขึ้นในปีพ.ศ. 2566 และสำหรับกำลังซื้อต่างชาติควรเพิ่มช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มเอเจนท์ต่างๆ หรือช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสการขายอีกช่องทางในภาวะที่กำลังซื้อต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้อย่างปกติ
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยล่าสุด การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสะสมในช่วง 9 เดือน ปี 2565 พบว่ามีจำนวน 7,290 หน่วย เพิ่มขึ้น 19.0% มูลค่า 36,986 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% โดยมีพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ 337,914 ตร.ม.เพิ่มขึ้น 28.3% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในปี 2565 ที่ผ่านมา 3 ไตรมาสแล้วนั้นน่าจะแสดงให้เห็นได้ว่า ตลาดห้องชุดคนต่างชาติในภาพรวมน่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นแล้ว และการซื้อห้องชุดของคนต่างชาติในช่วงก่อนหน้าได้มีการรับโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแรงซื้อใหม่จากชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้ซื้อชาวจีนเข้ามาทดแทนแรงซื้อห้องชุดของชาวจีนที่หายไปจากข้อจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศในช่วงที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน