ที่ดินแปลงใหญ่ใจกลางเมือง ทำเลย่านธุรกิจสำคัญ หลายแปลงเริ่มมีความเคลื่อนไหว บิ๊กทุนนำออกปัดฝุ่นพัฒนาเชิงพาณิชย์ รูปแบบมิกซ์ยูส เติมเต็ม ความเป็นมหานครระดับโลก จุดหมายปลายทางนักลงทุน นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึง นักธุรกิจชาวไทยกันอย่างคึกคัก
เริ่มจากที่ดินแปลงงาม แยกเพลินจิต-วิทยุ เนื้อที่ 25 ไร่ ที่ดินสถานทูตเก่ามูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งตั้งบริเวณอยู่ด้านหลังศูนย์การค้าเอ็มบาสซี่ ที่กลุ่มเซ็นทรัลประมูลมาได้ไม่ต่ำกว่า 10 ปี ก่อนเริ่มมีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง
หลังจากได้ล้อมรั้วรื้อถอนซากอาคารภายในสถานฑูตอังกฤษเก่าออกจนโดยไม่เหลือเค้าโครงเดิม พร้อมปรับพื้นที่ให้เรียบเตียน พัฒนาระบบถนนท่อระบายน้ำแล้วเสร็จ และเริ่ม ลงมือขุดเจาะตอกเสาเข็มสร้างฐานราก ให้เป็นโครงการขนาดใหญ่ ภายใต้ชื่อ เอ็มบาสซี่ 2 ที่ กลุ่มเซ็นทรัล ลงทุนร่วมกับกลุ่มฮองกงแลนด์
ตอกเข็ม“เอ็มบาสซี่ 2”
“ฐานเศรษฐกิจ” ลงพื้นที่สำรวจบริเวณที่ตั้งโครงการ สอบถามรายละเอียด จากผู้ควบคุมงาน โครงการ เซ็นทรัลเอ็มบาสซี 2 หรือโครงการ “CENTRAL EMBASSY EXTENSION Wireless Road Patumwan”ได้รับคำตอบว่า ภายในเดือนเมษายน นี้ บริษัทผู้รับเหมาจะเริ่มลงเสาเข็มก่อสร้างฐานรากใต้ดิน
ออกแบบให้เป็นพื้นที่จอดรถเชื่อมต่อกับ อาคารเอ็มบาสซี่ 1 ซึ่งสามารถจอดรถ รวมกันได้วันละหลายพันคัน ขณะการพัฒนาจะเป็นอาคารสูง 44 ชั้น ซึ่งมีชั้นใต้ดิน5ชั้น จำนวน 1อาคาร โดยก่อนหน้านี้ ได้ทำสัญญารื้อถอนปรับที่ดิน ทำสาธารรูปโภคภายในโครงการ ที่ผ่านมาเริ่มสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่1ตุลาคม 2565 ใช้เวลา1 ปี หลังจากนั้นจะเป็นส่วนของการก่อสร้างฐานราก คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการในปี 2569
สำหรับที่ดินสถานทูตอังกฤษเป็นที่ดินระดับตำนานมีประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหาและกลายเป็นอาณาจักรมิกซ์ยูส ของกลุ่มเซ็นทรัล บนถนนเพลินจิตจุดหมายปลายทางที่น่าจับตาโดยกลุ่มเซ็นทรัลคว้าที่ดินที่สถานทูตฯเปิดประมูลได้ทั้ง2แปลงในราคาขณะนั้นตารางวาละไม่ถึง1ล้านบาทต่อตารางวาสำหรับแปลงแรก
ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึงกว่า3ล้านบาทต่อตารางวา สร้างมูลค่ามหาศาลให้กับพื้นที่ โดยที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลมีเป้าหมาย ต้องการจะต่อยอดธุรกิจลักชัวรี่ รีเทล ที่เซ็นทรัลไปสร้างอาณาจักรไว้รอแล้ว ทั้ง เซ็นทรัล ชิดลม และ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เพื่อต่อจิ๊กซอว์การพัฒนาย่าน ชิดลม-เพลินจิต-วิทยุเป็นย่านลักชัวรี่ของมหานครกรุงเทพฯ
วิทยุ-สารสินเดือด
ทำเลไม่ห่างกันที่ดินแปลงงามบนถนนวิทยุตรงข้ามสวนลุมพินี พื้นที่ 3,166 ตารางวา หรือ 7.915ไร่ มูลค่า 2,400 ล้านบาท ที่ดินผืนใหญ่กลางเมือง ฟรีโฮลด์ ทำเลที่สุดของกรุงเทพฯ ที่หายากยิ่งในปัจจุบัน โดยทุนยักษ์ฮองกง บริษัท สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์
ร่วมกับ บริษัท ซิตี้เรียลตี้ จำกัด ของธนาคารกรุงเทพ ประกาศพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรี่ รองรับกลุ่มนักธุรกิจไทยและต่างชาติ โดยที่ดินผืนดังกล่าวได้ซื้อต่อมาจาก บริษัท เอชเคอาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
ขณะเดียวกันที่ดินที่บมจ.แสนสิริ มีแผนนำที่ดิน ราคาสูงที่สุดสร้างนิวไฮ ที่ 3.9 ล้านบาทต่อตารางวา ทำเลหัวมุม ถนนสารสิน ใกล้สวนขนาดใหญ่ ลุมพินี ย่านปทุมวัน ถูกบันทึกประวัติ ศาสตร์หน้าใหม่ ว่าเป็นที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย เตรียมพัฒนา คอนโดมิเนียมชุปเปอร์ลักชัวรี จับกลุ่มต่างชาติ ราคาต่อตารางเมตร ต้อง อยู่ใกล้ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร หรือที่ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร
หลังจากเคยเปิดขายโครงการ คอนโดมิเนียมหรู “98 Wirelsss” บนถนนวิทยุ ซึ่งมีราคาขายสูงสุดที่ 9 แสนบาทต่อตารางเมตรมาแล้ว ด้วยศักยภาพทำเลหัวมุมถนนสารสิน ติดกับสวนลุมพินีปอดขนาดใหญ่ของคนเมือง
กลายเป็นจุดขายที่ใครต่อใครต้องการขึ้นโครงการ ไล่ตั้งแต่โครงการสยามสินธร หลังสวนวิลเลจ สินธรต้นสน โครงการยักษ์วันแบงค็อก เชื่อมการสัญจรไปยังถนนวิทยุ เพลินจิต พระราม 4 ราชดำริ ที่ดินสำนักทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำเลกลางเมืองผืนใหญ่ไร้รอยต่อที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล
บิ๊กทุนจ้องทึ้งที่ดินชิดลม
ย้อนมาที่ดินทำเลทองคำ ติกสถานี บีทีเอส ชิดลม รถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือที่ดินแปลงเก่า ทีโอที ชิดลม เนื้อที่ 12ไร่ เศษ ซึ่งเป็นที่ดินลีสโฮลด์ สิทธิการเช่า ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่ปัจจุบันปรับพื้นที่แล้วเสร็จ พร้อมเปิดประมูลในไม่ช้านี้ ซึ่งหากคำนวณ มูลค่าจากราคาประเมินบัญชีรอบใหม่ของกรมธนารักษ์ ที่ราคา 1 ล้านบาทต่อตารางวา มูลค่ารวมจะอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท
ส่วนราคาตลาดอยู่ที่ 3.3 ล้านบาทต่อตารางวา เนื่องจากเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ แปลงที่ดินตั้งอยู่กลางวงล้อมของ โครงการคอนโดมิเนียมหรู ศูนย์การค้าชั้นนำ รวมถึงโรงแรมขนาดใหญ่
เช่นเดียวกับ ทำเลทองแยกประตูน้ำ เนื้อที่ 7 ไร่เศษ ที่ดินทรัพย์สินพระมหากษัตริย์อีกแปลง ที่กลุ่มแพลทินัม คว้าที่ดินไปครองและปีนี้มีแผนพัฒนามิกซ์ยูส เชื่อมต่อแยกราชประสงค์ถนนราชดำริ และเมืองมักกะสัน หลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด จีนเปิดประเทศและจบเรื่องคดีฟ้องร้องของผู้เช่าเก่า ซึ่งทำเลนี้น่าจับตายิ่ง
เนื่องจากเป็นย่านการค้าเก่าแก่ผสมผสานความทันสมัยที่รายล้อมไปด้วยศูนย์การค้า โรงแรมขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน อีกทั้งในอนาคตอันใกล้จะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มพาดผ่านพื้นที่ ส่วนราคาที่ดินอยู่ที่ 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา
รัชดา-พหลฯ “นิวซีบีดีใหม่”
ที่ดินที่น่าจับตาและพูดถึงกันมากที่สุดเวลานี้จะเป็นทำเล แยกพระราม 9 -รัชดาภิเษก นิวซีบีดีหรือย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ ที่ปัจจุบันเป็นย่านแหล่งงานมีอาคารทันสมัย ผสามผสานการอยู่อาศัย ศูนย์การค้าแหล่งช็อปปิ้ง ย่านบันเทิง รวมอยู่ในที่ดิน อย่างไรก็ตาม ทำเลนี้ มีที่ดินแปลงใหญ่เริ่มปัดฝุ่น พัฒนาโครงการ อย่างบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) CPN มีแผนพัฒนาเป็นเมืองที่น่าจับตา
อีกทั้งที่ดินบนถนนรัชดาฯอีกหลายแปลง ที่เริ่มเคลื่อนไหว เช่น เอไอเอพัฒนาโครงการ เอไอเอรัชดา 2 อาคารสำนักงานและมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ รวมถึงที่ดินแปลงใหญ่ของ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค เตรียมนำที่ดินผืนใหญ่ ติดบิ๊กซีรัชดาฯออกปัดฝุ่นพัฒนาเป็นเมืองมิกซ์ยูส ที่พร้อมบูมโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า
ข้ามฝั่งไปที่โซนเหนือของกรุงเทพฯ อย่างย่านพหลโยธิน มีที่ดินแปลงใหญ่หลายแปลง ล้วนเป็นที่ดินผืนใหญ่ พร้อมใจกันขึ้นโครงการไล่ตั้งแต่ ที่ดินพหลโยธินตรงข้ามแดนเนรมิตเก่า (สถานีรถไฟฟ้าพหลโยธิน 24) CPN ลงมือพัฒนามิกซ์ยูสเฟสแรก 1.1 หมื่นล้านบาท บนที่ดิน 49 ไร่
ไม่ห่างกันมากนัก ยังมีที่ดินอีก 2 แปลง บริเวณแยกรัชโยธินบนถนนพหลโยธินตัดกับถนนรัชดาฯ เนื้อที่ กว่า 20 ไร่ เตรียมแปลงโฉมจากที่ดินว่างเปล่าเป็นย่านช็อปปิ้ง ตลาดนัดทันสมัย เตรียมเปิดใช้พื้นที่ในราวเดือนเมษายน นี้
ลาดพร้าว-บางกะปิร้อน
อีกทำเลที่น่าจับตาและกำลังถูกพลิกโฉมเป็นเมืองอยู่อาศัย แหล่งงาน ช็อปปิ้ง รองรับการมาของรถไฟฟ้าสายใหม่ โดยเฉพาะทำเลใกล้สถานีบางกะปิจะมี โครงการคอนโดมิเนียมของ บมจ.ออริจิ้นที่ประกาศว่าจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดบนถนนลาดพร้าว โดยเฉพาะบริเวณแยกบางกะปิ ขุมทอง ยักษ์ ค้าปลีก
ที่มีแผนร่วมมือกันพัฒนาให้บริเวณแยกบางกะปิเป็นย่านช็อปปิ้งชั้นนำ ทั้งค่ายเดอะมอลล์ กลุ่มซีพี และกลุ่ม ทีซีซี ที่เตรียมพลิกโฉมภายในปีนี้ และที่ดินอีกแปลง ไม่พูดถึงไม่ได้คือที่ดินแปลงแฮปปี้แลนด์เนื้อที่ 11 ไร่ ทำเลทองอีกย่านบางกะปิเหมาะพัฒนาเมืองอยู่อาศัย ที่น่าจับตายิ่ง