ที่ดินทีโอที (เก่า) แปลงชิดลม เนื้อที่ 12 ไร่เศษ กำลังเป็นที่จับตามองของกลุ่มทุนว่าหากได้ที่ดินแปลงนี้ไป จะสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้อย่างมหาศาลเนื่องจากเป็นที่ดินลิสโฮลด์ (สิทธิการเช่า) แปลงใหญ่
ขุมทองกลางใจเมืองผืนสุดท้าย ของสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งตั้งอยู่กลางวงล้อมของกลุ่มอาคารระดับเวิลด์คลาส ติดกับสถานีบีทีเอสชิดลม เชื่อมโยงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและโครงข่ายของถนน สามารถทะลุถึงกันได้หลายทิศทาง
อย่างไรก็ตาม หากใครเดินทางผ่านไปมาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของที่ดินแปลงนี้ มีความเคลื่อนไหว ที่ปัจจุบันได้ถูกรื้อถอนปรับพื้นที่เป็นที่ว่างรอเพียงนายทุนรายใหม่เข้าพัฒนา โดยประเมินว่าจะเป็นอาคารทันสมัยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมูลค่าไม่ตํ่ากว่าหมื่นล้านบาท
รายงานข่าวจากสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เตรียมนำที่ดินแปลงเก่าทีโอทีชิดลม ออกประมูล หาเอกชนรายใหม่พัฒนาพื้นที่ หลังจาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือทีโอทีผู้เช่ารายเดิมหมดสัญญา และรื้อถอนอาคารหลังเก่าออกไป
คาดว่าไม่เกิน ต้นปีนี้จะเริ่มเปิดประมูล รูปแบบจะเป็นมิกซ์ยูส พัฒนาได้หลากหลายรูปแบบอาทิ โรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน ฯลฯ เนื่องจากอยู่ในทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจมีรถไฟฟ้าเชื่อมผ่าน
ล่าสุดอยู่ระหว่างจ้างบริษัทประเมินมูลค่าแปลงที่ดินก่อนประกาศให้เอกชนยื่นข้อเสนอ รูปแบบการพัฒนาข้อเสนอผลตอบแทน อย่างไรก็ตามสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์มักมองในแง่รูปแบบที่จะตอบโจทย์การพัฒนา
ที่สามารถรอบรับนักท่องเที่ยวคนทำงานในย่านนั้น มากกว่าผลตอบแทนทางการเงินซึ่งการพัฒนาต้องเป็นลักษณะสมาร์ซิตี้ เมืองนวัตกรรม เน้นพื้นที่สีเขียวรักษ์โลกร้อนเพื่อให้มีมูลค่าสูงสุด เป็นต้น
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ช่วงที่ ทีโอทีจะหมดสัญญาในช่วงปลายปี 2565 ราว 1ปี ได้มีบริษัทอสังหาฯ ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกับนักการเมืองคนดัง ได้แอบเจรจากับเจ้าหน้าที่ในสำนักฯ และให้ผลตอบแทนเพื่อแลกกับที่ดินแปลงนี้กระทั่งมีการฟ้องร้องตามมา
อย่างไรก็ตามการประมูลรอบใหม่ เชื่อว่าจะคึกคักมากขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจมีสัญญาณบวกกลับมาพลิกฟื้นสถานการณ์โควิดคลี่คลายการเปิดประเทศ ทั่วทุกมุมโลกต่างชาติเดินทางทำให้ การพัฒนาเริ่มกลับมามีสีสัน
ที่สำคัญที่ดินอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพการพัฒนาสูง ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครกำหนดเป็นพื้นที่สีแดง(พ.5) ที่ดินประเภทพาณิชยกรรมพัฒนาได้ 10 เท่าของแปลงที่ดินฟันธงได้ว่าเป็นทำเลใจกลางเมืองที่นักลงทุนหลายรายต้องการ
แหล่งข่าวจากกลุ่มทีซีซีสะท้อนว่าที่ดินแปลงใหญ่ในเมืองค่อนข้างหายาก และมีมูลค่าสูงไม่ว่าจะเป็นลิสโฮลด์หรือฟรีโฮลด์ ราคาอยู่ที่กว่า 3 ล้านบาทต่อตารางวามองว่าเช่าระยะยาวคุ้มกว่าซื้อที่ดินเพื่อลงทุนเองซึ่งปัจจุบันบริษัทรายใหญ่นิยมในรูปแบบการเช่า เช่น บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กลุ่มทีซีซี เครือซีพี ฯลฯ
มุมสะท้อน นายสุรเชษฐ์ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด เปิดเผยว่า ที่ดินขนาด 12 ไร่ที่เคยเป็นสำนักงานทีโอทีติดสถานีรถไฟฟ้าชิดลม และหัวมุมถนนชิดลม ได้กลายเป็นที่สนใจของค่ายอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง
สำหรับราคาที่ดินหาก เป็นราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาทต่อตารางวา โดยเมื่อปี 2559 ทางบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซื้อที่ดินในซอยบริเวณด้านหลังที่ดินทรัพย์สิน ที่ตั้งสำนักงานทีโอทีเดิมในราคา 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา ขณะราคาประเมินของกรมธนารักษ์(ปี2566-2569) ราคาอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อตารางวา
ส่วนรูปแบบการพัฒนา ที่ดินคาดว่าจะเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ เช่น ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเม้นต์ เพราะไม่เพียงสอดคล้องกับข้อกำหนดบนที่ดินแล้วยังเหมาะสมกับทำเลของที่ดินแปลงนี้ด้วย
โดยตามผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปัจจุบัน ที่ดินทีโอทีอยู่ในพื้นที่สีแดง (พาณิชยกรรม) สามารถพัฒนาอาคารขนาดใหญ่ได้ทั้งที่อยู่อาศัยให้เช่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ โรงแรม ศูนย์การค้าฯลฯ
นอกจากนี้ทำเลชิดลมบนถนนเพลินจิตยังเชื่อมโยงไปยัง กลุ่มอาคารสำคัญ อย่างเซ็นทรัลเวิลด์ โรงแรมระดับ4-5ดาว อาคารสำนักงาน รวมถึงที่ดินวชิราวุธ วิทยาลัย เนื้อที่ 63 ไร่ ที่ได้รับโอนจากสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์อยู่ระหว่างรื้อถอน พร้อมกันถึงสองอาคารทำเลติดสถานีบีทีเอสราชดำริได้แก่
อาคารเดอะเพนนินซูล่าพลาซ่า ซอยมหาดเล็กหลวง1 พลิกโฉมเป็นโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ ราชดำริ 2 อีกแปลงซอยมหาดเล็ก หลวง 3 อาคารโอบายาชิที่จะพัฒนาใหม่ เป็นต้น