“โฮมโปร” โกยกำไร 6.2 พันล้านบาท ปี 2565

24 ก.พ. 2566 | 09:58 น.
อัพเดตล่าสุด :31 มี.ค. 2566 | 08:10 น.

"โฮมโปร" ทำรายได้รวมปี 2565 ทะลุ 6.9 หมื่นล้านบาทโกยกำไร 6.2 พันล้านหลังท่องเที่ยวฟื้นตัวตลาดภาคใต้ขยายทั้งจัดงานผลักดันยอดขายตลอดทั้งปี

24 กุมภาพันธ์ 2566 นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ประจำปี 2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 69,389.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,463.64 ล้านบาท หรือ 8.55% โดยมีกำไรสุทธิ 6,217.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 776.57 ล้านบาท หรือ 14.27% 

ประกอบไปด้วย รายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 65,090.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,522.97 ล้านบาท หรือ 7.47% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 

ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการกลับมาเปิดให้บริการทุกสาขา เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและยังได้รับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการผลักดันยอดขายตลอดทั้งปี โดยมีการจัดงาน HomePro Super Expo ที่โฮมโปรทุกสาขาทั่วประเทศ และทางออนไลน์ รวมถึงงาน HomePro Expo และ HomePro Electric Expo ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี HomePro Living Expo ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และกิจกรรม Double Day ในช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าให้กับลูกค้าจากช่องทางการซื้อสินค้าและบริการที่หลากหลายขึ้น

ทั้งนี้ โฮมโปร ยังมีรายได้จากค่าเช่า 1,720.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 497.43 ล้านบาท หรือ 40.67% และมีรายได้อื่น จำนวน 2,577.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 443.24 ล้านบาท หรือ 20.76% โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าทั้งในช่องทางสาขา ช่องทางออนไลน์ โฮมโปร มีกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้า และการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 17,013.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,370.65 ล้านบาท หรือ 8.76% รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายก็เพิ่มขึ้นจาก 25.83% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26.14%  ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง รวมถึงรายได้จากการบริการที่เพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนค่าขนส่งในการกระจายสินค้าสู่สาขาจะปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันก็ตาม

นายวีรพันธ์ ยังกล่าวว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้ทางภาครัฐ มีการผ่อนคลายมาตรการโควิดต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง

โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการเริ่มฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและภาคการบริโภคซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยบวกในด้านต่างๆ อาทิ การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ และการออกมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในประเทศจากทางรัฐบาล ได้แก่ โครงการช้อปดีมีคืน โครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการคนละครึ่ง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของทางภาครัฐ สามารถช่วยบรรเทาผลกระทบในเรื่องของเงินเฟ้อได้ส่วนหนึ่ง อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ จากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยบริษัทฯ มุ่งยกระดับการนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

รวมถึงเร่งขยายสาขาเพื่อเพิ่มอัตราการขยายตัวของรายได้และกำไร ควบคู่ไปกับการวางแผนธุรกิจและกลยุทธ์ที่รัดกุมเพื่อรองรับความกดดันและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น