14 มีนาคม 2566 - นายวิทยา อภิรักษ์วิริยะ ผู้จัดการทั่วไป ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (ฝั่งดีเวลลอปเปอร์) และ Think of Living แพลตฟอร์มชื่อดังด้านอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยปีนี้ จะได้รับประโยชน์จากปัจจัยเสริมหลายประการ ซึ่งรวมถึงการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของรถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพฯ ปัจจุบันยังไม่พบอุปทานส่วนเกินในตลาด ขณะที่สต็อกบ้านที่เหลือค้างอยู่ในระบบปัจจุบันจะค่อยๆ ทยอยระบายออก
อย่างไรก็ดี ผู้ซื้อบ้านต้องเตรียมพร้อมทางการเงินสำหรับปีนี้ไว้ด้วย เนื่องจากต้นทุนการสร้างที่อยู่อาศัยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราของดอกเบี้ย และปัจจัยอื่นๆ ที่กระทบต่อราคาของอสังหาริมทรัพย์
ตลาดชี้วัดที่น่าสนใจ ด้านความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย คนไทยประมาณ 50% ยังมีความสนใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัย แต่จากทำสำรวจ ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่าคนตั้งใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัย ลดลงจาก 57 จุด เหลือ 52 จุด ซึ่งเหตุผลของความต้องการซื้อก่อนหน้านี้ คือ ต้องการมีพื้นที่ส่วนตัว การ WFH ทำให้มีกิจกรรมทำที่บ้านมากขึ้น และใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น แต่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบวามีความต้องการซื้อเพื่อการลงทุนสูงขึ้น จาก 29 จุดเป็น 33 จุด ตรงนี้สะท้อนถึงความมั่นใจของการลงทุน เพราะเชื่อว่าการลงทุนตอนนี้เป็นโอกาสมากกว่าก่อนหน้านี้ที่ภาวะตลาดซบเซาจากสถานการณ์โควิด-19
ขณะที่ตลาดเช่า พบว่า คนมีความต้องการเช่าสัดส่วนที่สูงขึ้น แม้ว่าเหตุผลอันดับหนึ่ง ยังไม่ต่างไปจากเดิมคือคนเช่ายังไม่พร้อมจะซื้อ แต่ที่น่าสนใจพบวา คนยุคนี้เลือกที่จะเช่ามากขึ้น เพราะยังไม่ต้องการลงหลักปักฐานในที่ใดที่หนึ่ง จากผลการสำรวจในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาจาก 18 จุดเพิ่มเป็น 36 จุด เป็นการเติบโตที่มีนัยยะสำคัญ สะท้อนภาพการเปิดเมือง การโยกย้ายสถานที่ทำงาน และคนต้องการความยืดหยุ่นของเรื่องที่อยู่อาศัยมากขึ้น