อสังหางัดบิ๊กแคมเปญ โรดโชว์ขายคอนโดเจาะลูกค้าต่างชาติ 3 หมื่นล้าน

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ (ปี2566) ตลบอบอวลไปด้วยการแข่งขัน สะท้อนจากการเปิดตัว โครงการใหม่ ของแต่ละค่าย มีมูลค่ารวมทั้งปีไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งสูงใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะ ค่ายใหญ่ 11บริษัท ที่ ประเมินว่ามีอำนาจยึดครองตลาดมากที่สุด กว่า 70-80% จากความน่าเชื่อถือ ประกอบกับเป็นช่วงผ่านพ้นการระบาดของโรคร้าย เศรษฐกิจประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัว และอานิสงส์การเปิดประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ

โดยเฉพาะจีน เดินทางเข้าไทย กลับมาใช้ชีวิตตามปกติและยังนิยมเลือกมองหาที่อยู่อาศัยรวมถึงการซื้อเพื่อการลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของอสังหาริมทรัพย์ไทย แม้ว่าอาจมีความท้าทายจากความผันผวนของเศรษฐโลก

ในทางกลับกันเชื่อว่า ต่างชาติกระเป๋าหนักยังชื่นชอบอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมือง ที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค่ายใหญ่ต่างชิงไหวชิงพริบ งัดกลยุทธ์ดึงกำลังซื้อกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ท่ามกลางกำลังซื้อของคนไทยที่ยังเปราะบางและถูกปฏิเสธสินเชื่อค่อนข้างมากจากหนี้ครัวเรือน

อนันดา ชู “URBAN CARAVAN”

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวล ลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปี 2566 บริษัทมีแผนนำโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่และก่อสร้างแล้วเสร็จ ในปีนี้ออกโรดโชว์เป้าหมาย 4 ประเทศที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเมียนมา  โดยพบว่า เพียงสองเดือน (มกราคม-กุมภาพันธ์) ได้รับการตอบรับที่ดีจากต่างชาติโดยมียอดขายแล้ว 1,700 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี ที่เคยตั้งไว้ 4,400-4,500 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่า ยอดทั้งปีน่าจะเกินเป้าที่ตั้งไว้อย่างมาก

ขณะโควต้าที่รองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติ มีจำนวน 15,500 ล้านบาท คิดเป็น 34% จากสต็อกคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ มูลค่า 44,500 ล้านบาท หรือ กว่า 2,000 หน่วย ที่กลายเป็นโอกาสทองของบริษัท ที่เปรียบเสมือนมีตู้ ATM ตั้งไว้บริเวณบ้าน ที่จะสร้างมูลค่าจากสต็อกที่มีอยู่โดยบริษัทไม่คิดที่จะเทกระจาดขายแบบลดแลกแจกแถม เมื่อ 1-2 ปีก่อน ซึ่งมองว่าได้เปรียบเมื่อเทียบกับค่ายอื่น

“ในภาพรวมยอดขาย ทั้งคนไทยและต่างชาติ ไตรมาสแรกปีนี้ เดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ บริษัท ทำพรีเซล ได้ 3,500 ล้านบาท ในจำนวนนี้มาจากตลาด ต่างชาติ 47% ขณะปีที่ผ่านมา ได้ยอดขายจากตลาดต่างชาติ 25% ย้อนหลังไปอีกสองปีอยู่ที่ 20%”

 

นายประเสริฐ กล่าวว่า การขับเคลื่อนครั้งนี้เป็นครั้งใหญ่ รุกกำลังซื้อในไทยและต่างชาติ ภายใต้แคมเปญ “ANANDA URBAN CARAVAN 2023” ซึ่งเป็นแคมเปญที่ใช้ขับเคลื่อนการกลับมาของ อนันดา ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมในเมือง โดยเริ่มจากงานมหกรรมบ้านและคอนโด 23 - 26 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

รวมถึงการจัดกิจกรรมการขายในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยโรดโชว์ผ่านเอเย่นต์ต่างชาติ 224 บริษัทดังกล่าว ซึ่งจะเป็นกิจกรรมต่อเนื่องทั้งปีและมั่นใจว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะกลับมาสู่ตลาดสะท้อนจากการจราจรติดขัด การกลับมาใช้ชีวิตในเมืองตามปกติ ฯลฯ

 

แสนสิริขน 1.2 หมื่นล้านขายต่างชาติ

เช่นเดียวกับ นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เชื่อว่าคอนโดมิเนียมจะกลับมา เศรษฐกิจประเทศอย่างไรเสียจะต้องเป็นบวก หากมองย้อนกลับไปเมื่อ3ปีที่ผ่านมา โควิดทำให้ผู้ประกอบการหลายโครงการไม่มีใครกล้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมหรือมีน้อยมาก ดังนั้น

• ข้อแรก ซัพพลายเริ่มลดลง แต่ไม่ได้บอกว่าทุกทำเล ซัพพลายหายหมด บางทำเลยังโอเวอร์ซัพพลายอยู่ แต่แสนสิริ ได้ทำวิจัยซัพพลายในย่านที่จะเข้าไปพัฒนา ลดลงมาเหลือ 10% เสียก่อน ปัจจุบันบางพื้นที่ไม่เหลือซัพพลายแล้ว
• ข้อสอง รถเริ่มติด คนเริ่มกลับมาอยู่ในเมือง เริ่มมองไปอยู่นอกเมือง เวลาเข้าเมืองขับรถ 2 ชั่วโมง คนทำงานที่บ้านเริ่มน้อยลง
• ข้อสาม เรื่องท่องเที่ยวกลับมาก บอกถึงต่างชาติกลับเข้ามาและซื้อคอนโดมิเนียมเป็นต้น

จากแนวโน้มดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทเพิ่มโควตาขาย 12,000 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าปีก่อน ที่ 7,000 ล้านบาท ล่าสุด บริษัทเดินหน้ารุกตลาดต่างชาติแบบเต็มตัวรับดีมานด์สะสมของชาวต่างชาติ (Pent-Up Demand) ด้วยการจัดโรดโชว์ภายนอกประเทศเป็นครั้งแรกที่ ประเทศฮ่องกง กับโครงการ “เดอะ เบส ไฮท์-เชียงใหม่” ตึกสูงแห่งแรกของเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11-12 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี พร้อมตั้งเป้า Sold Out เต็มโควตาต่างชาติ คิดเป็นยอดขายรวมกว่า 800 ล้านบาท

 

พฤกษาวางเป้ากวาดจีน90%

ด้าน นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการเปิดประเทศ ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว ต่างชาติเดินทางเข้าไทยตามปกติ มองว่าเป็นผลดี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้า ขณะเดียวกันเป็นโอกาสที่ดีของตลาดอสังหาริมทรัพย์

โดยเฉพาะตลาดต่างชาติที่บริษัท ให้ใช้ เอเย่นต์ กว่า 100 ราย ขายโครงการให้กับพฤกษา โดยตั้งเป้านำสต็อกพร้อมอยู่และโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้ รวมมูลค่า กว่า 10,000 ล้านบาท จำนวน 3,000 หน่วย หรือเฉลี่ยราคา 3 ล้านบาทต่อหน่วย ในจำนวนนี้มีโควตาต่างชาติ 20% เน้นตลาดจีน 90% โดยคอนโดมิเนียมที่จีนสนใจซื้ออยู่ที่ราคา 3-5 ล้านบาทต่อหน่วย

 

ออริจิ้นขายทั่วโลก

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI  และในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า การเปิดประเทศหรือรีโอเพนนิ่งของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ประกอบกับมาตรการและนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ ส่งผลให้ภาพรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง ผู้บริโภคและนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น

จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะดึงกำลังซื้อตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกลุ่มนักลงทุนและอยู่อาศัยเองของชาวต่างชาติให้กลับมาอีกครั้ง โดยที่ผ่านมาได้จัดงาน “Origin Agent Day” รวบรวมบริษัทตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีสำนักงานในประเทศไทยและทั่วโลกกว่า 130 บริษัท รวมกว่า 190 คนเข้าร่วมงาน

“อสังหาฯเมืองไทยยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ ทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองช่วงหลังเกษียณ และเพื่อลงทุนปล่อยเช่า เนื่องจากผู้ซื้อชาวต่างชาติมองว่ามีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศของตัวเอง”