5 เมษายน 2566 - นางสาวจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ Token X บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับบริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด ผู้ออกโทเคนดิจิทัล สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญกับการพัฒนาโทเคนดิจิทัลที่มีคอนโดมิเนียมเป็นสินทรัพย์อ้างอิง (Condo-Backed Token) ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่นักลงทุน คนรุ่นใหม่ ใช้เป็นสื่อกลางในการลงทุนคอนโดฯคุณภาพบนทำเลทองในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ที่หาได้ยาก โดยเตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ("โทเคนดิจิทัลฯ”) ที่เป็น Condo-Backed Token ภายใต้ชื่อ “เรียลเอ็กซ์” (RealX Investment Token)
ก.ล.ต.ไฟเขียว จ่อเสนอขาย "เรียลเอ็กซ์"
ทั้งนี้ หลังจากได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายโทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอ็กซ์ ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ICO) ปัจจุบันได้รับการพิจารณาอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว ล่าสุด อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเสนอขายโทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอ็กซ์ จำนวนไม่เกิน 19,230,769 โทเคน ที่ราคา 182 บาทต่อโทเคน รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 3,500 ล้านบาท
โดยมีอายุโครงการ 10 ปี เพื่อนำเงินไปลงทุนในสัญญา RSTA (Revenue Sale and Transfer Agreement) ให้ได้กระแสรายรับจากทรัพย์สินของโครงการจากบริษัท เรียล เอสเตท อินทิเกรชั่น จำกัด ซึ่งจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์คอนโดฯ 3 แห่งที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการทำธุรกรรม ชำระเงินกู้ยืมจากการระดมทุน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของผู้ออกโทเคนดิจิทัล โดยผู้ลงทุนที่ชำระเงินก่อนจะได้รับสิทธิจัดสรรก่อน (First come, First served)
นำร่องลงทุนในโครงการคอนโดฯ ออริจิ้น
ผู้ถือโทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอ็กซ์ จะได้รับผลตอบแทนการลงทุน 2 ส่วน ได้แก่ (1) ผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิของคอนโดฯ ทั้ง 3 โครงการที่เป็นสินทรัพย์อ้างอิง เป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากเริ่มต้นโครงการ โดยในปีที่ 1-5 บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ในเครือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI จะรับประกันรายรับสุทธิของโครงการที่ 4% 4.25% 4.50% 4.75% และ 5% ต่อปีของมูลค่าเสนอขายโทเคนดิจิทัลฯ ตามลำดับ และ (2) ได้รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสจากการทยอยจำหน่ายคอนโดฯ ทั้ง 3 โครงการในปีที่ 6-10 (รวมกรณีขยายอายุโครงการ) รวมกับผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิ โดยคอนโดมิเนียมทั้ง 3 โครงการ ได้รับการพิจารณาแล้วว่าเป็นโครงการระดับลักชัวรีที่น่าเชื่อถือ ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ และมีความเหมาะสมสำหรับการลงทุนระยะยาว
“นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในโทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอกซ์ รายละไม่เกิน 300,000 บาท โดยผู้ลงทุนสามารถมั่นใจในความปลอดภัยของการทำธุรกรรมผ่านสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) บนเครือข่ายบล็อกเชน TKX Chain ซึ่งเป็นเชนที่อยู่ในรูปแบบ Ethereum-Based Blockchain และเป็น Public Permissioned Blockchain ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก โดยมีบริษัท อินสเปค จำกัด เป็นผู้ตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นทรัสตี นอกจากนี้ ในปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำโทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอ็กซ์ เข้าจดทะเบียนซื้อขายในศูนย์ขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากกระทรวงการคลัง ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อรองรับการซื้อขายในตลาดรองอีกด้วย”
แปลงคอนโดให้เป็นโทเคน
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด ในฐานะผู้ออกโทเคนดิจิทัล กล่าวว่า “อันที่จริงความคิดเริ่มต้นมาจากการที่เราต้องการลงทุนในลักซ์ชัวรีคอนโดฯ และมีความต้องการจะกระจายการลงทุนให้กับคนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไป จึงเกิดแนวความคิดว่า ต้องการ ‘แปลงคอนโดให้เป็นโทเคน’ และให้ ‘1 โทเคนประมาณเท่ากับ 1 ตารางนิ้ว’ แนวคิดของการออกโทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอ็กซ์จึงเกิดขึ้น และเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และบุคคลทั่วไปที่สนใจ สามารถเข้าถึงการลงทุนในคอนโดฯ บนทำเลไพร์มโลเคชั่นที่นับวันจะหาที่ดินได้ยากขึ้น
โดยเฉพาะที่ดินแบบ Freehold Land ซึ่งเปรียบเสมือนของที่หายากยิ่ง (Rare Item) โดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อลงทุนซื้อคอนโดฯ ทั้งยูนิต และไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในช่วงที่ไม่มีผู้เช่าต่อเนื่อง โดยการลงทุนใน 1 โทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอ็กซ์ จะมีความใกล้เคียงกับการลงทุนในพื้นที่คอนโดฯ 1 ตารางนิ้ว ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลฯ เรียลเอ็กซ์ ยังนับได้ว่าเป็นโทเคนดิจิทัลฯ ที่ค้ำประกันด้วยคอนโดมิเนียม ‘Condominium-backed Token’ ตัวแรกของประเทศไทยที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. อีกด้วย”
บริษัทฯ ได้เลือกคอนโดมิเนียม 3 โครงการที่ดีที่สุดและเป็นแบรนด์ระดับท็อปจากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรชั้นนำในประเทศไทย มาเป็นสินทรัพย์อ้างอิง ได้แก่ โครงการพาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ (ไม่เกิน 138 ยูนิต) ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 12 ไร่ ระหว่างซอยสุขุมวิท 22-24 มีพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ จึงมีดีมานด์จากผู้เช่าที่เป็นคนทำงานในย่าน CBD และชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยระยะยาวในประเทศไทย โครงการพาร์ค ออริจิ้น พญาไท (ไม่เกิน 123 ยูนิต) ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 2 ไร่ติดถนนพญาไทขาเข้า มีจุดเด่นด้านทำเลที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสและแอร์พอร์ตเรลลิงก์ โรงพยาบาลและสถาบันการศึกษา
โครงการพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ (ไม่เกิน 100 ยูนิต) บนเนื้อที่ 5 ไร่ในซอยทองหล่อ 10 ซึ่งไม่เหลือที่ดินแปลงใหญ่อีกแล้ว และเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ฯลฯ จึงเป็นนิยมจากผู้เช่าโดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยระยะยาว ซึ่งทุกโครงการออกแบบและใช้วัสดุคุณภาพสูง อาคารอยู่ในสภาพใหม่ และจะบริหารจัดการโดยบริษัท แฮมตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ในเครือ ORI
เชื่อตลาดคอนโดฯไปต่อ
ปัจจุบันทำเลดังกล่าวมีที่ดินและซัพพลายใหม่ในตลาดค่อนข้างจำกัด ซึ่งส่งผลดีต่อราคาขายคอนโดฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยภาพรวมตลาดคอนโดฯ ระดับลักชัวรี่ในย่านพร้อมพงษ์ มีการเติบโตราคาขายเฉลี่ย ณ เดือนมีนาคม 2565 เมื่อเทียบกับปีที่เปิดตัวโครงการอยู่ที่ 8.6% ส่วนภาพรวมตลาดคอนโดฯ ระดับลักชัวรี่ ในย่านทองหล่อ มีราคาขายเฉลี่ย ณ เดือนมีนาคม 2565 เพิ่มขึ้น 9.2% เทียบกับปีที่เปิดตัวโครงการ ขณะที่ภาพรวมตลาดคอนโดฯ ระดับลักชัวรี่ในย่านพญาไท มีราคาขายเฉลี่ยในปี 2565 เพิ่มขึ้น 7% จากปีที่เปิดตัวโครงการ (ข้อมูลจากฝ่ายวิจัยเอ็ดมันต์)
“ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน ได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทำให้มีดีมานด์จากผู้เช่าที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางกลับเข้ามาทำงานหรืออยู่อาศัยในระยะยาว โดยเฉพาะทำเล CBD ที่อยู่ใกล้แหล่งงาน แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า จึงมีความต้องการซัพพลายอีกเป็นจำนวนมากและเป็นโอกาสของการลงทุนคอนโดฯ ในระยะยาว”