นับเป็นสัญญาณที่สดใส ปลุกความคึกคักในตลาดที่อยู่อาศัยไทย เมื่ออีเว้นท์แรกของปี 2566 งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 ระยะแค่4 วัน ทำยอดขายบ้าน-คอนโดมินียม ทั้งเก่าและใหม่ รวมทะลุกว่า 4 พันล้านบาท โดยยอดดังกล่าว ถูกสะท้อนว่า นี่คือ สัญญาณบ่งบอกถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และชี้ว่า ประชาชนโดยรวม ยังต้องการ 'ที่อยู่อาศัย' เป็นหลักประกันของชีวิต
เจาะประเภทที่อยู่อาศัยที่ขายได้มากที่สุด ได้แก่ คอนโดมิเนียม คิดเป็น 36 % รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ 32 % บ้านเดี่ยว 19 % และบ้านแฝด 11 % สอดคล้อง ข้อมูลของผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ที่ทยอย อวดยอดขาย โครงการบ้าน และ คอนโดมิเนียม ณ ไตรมาสแรก ปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.) ออกมา ดูคล้าย ตลาดคอนโดฯ ในฝั่งดีมานด์ จะฟื้นแรงแซงทางโค้ง
ขณะเดียวกัน ยังเกิดภาพปรากฎการณ์เหมือนในอดีต คนแห่ต่อแถวเข้าคิวรอซื้อคอนโดฯเปิดใหม่กันแบบข้ามวัน-ข้ามคืนให้เห็นอย่างน่าประหลาดใจ รวมถึงกระแสความสนใจของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ทยอยกลับเข้ามา ทั้งในเชียงใหม่ และ ภูเก็ต ซึ่งบ้างก็ถูกกระทุ้งอีกทาง โดยการออกไปโร้ดโชว์ของดีเวลลอปเปอร์ไทย จนกลายเป็นคำถาม หรือ ตลาดคอนโดฯ จะกลับมาคัมแบคอย่างยิ่งใหญ่ ?
First Jobber กระตุกตลาด
จับกระแสรายใหญ่ในตลาด ที่ประเดิมเผยยอดเป็นรายแรก บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จากที่แจ้งว่า ช่วงไตรมาสแรก ทำยอดขายรวมได้กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ภายใต้เป้าหมายของปี ที่ตั้งไว้ราว 4 หมื่นล้านบาท ก็พบมียอดขายจากกลุ่มคอนโดฯ ถึง 79% แม้แต่ กลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขายใหม่ (New Launch) สำหรับแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับสูง ล้วนเป็นแบรนด์คอนโดฯสำหรับเจาะตลาด คนรุ่นใหม่ เช่น โครงการ ออริจิ้น เพลย์ บางขุนนนท์ ทริปเปิ้ล สเตชั่น , ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น และ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา
อีกทั้งมาจากกระแสตอบรับสูง จากการกลับมาเปิดแบรนด์ดัง 'ดิ ออริจิ้น' ในรอบ 4ปี ซึ่ง ทยอยปักหมุดทั่วประเทศ ทั้ง กทม.-ปริมณฑล ,EEC และ หัวเมืองใหญ่ ด้วยราคาเริ่มล้านต้นๆ กลายเป็นโปรดักส์ขวัญใจของคนกลุ่ม Gen Z และ First Jobber (เพิ่งเริ่มทำงาน) อย่างน่าจับตามอง
คอนโด ASW 3 พันยูนิต ยอดขายพุ่ง
เช่นเดียวกับ อสังหาฯน้องใหม่ ที่มาแรงเกินหน้ารายใหญ่ๆในตลาด บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW)ก็เพิ่งโชว์ฟอร์ม ยอดขายไตรมาสแรก ด้วย ยอดคอนโดฯล้วนๆ ทะยานแตะ 3,500 ล้านบาท เติบโต 227% ซึ่งเมื่อพิจารณาในรายละเอียด พบว่า กลยุทธ์หมัดสำคัญ ที่เดินหน้าอย่างคงเส้นคงวา คือ การเจาะ ตลาด Campus Condo (คอนโดฯใกล้สถานศึกษา) เกาะตลาดแบบเหนียวแน่น โดยนายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ระบุว่า ช่วง 3 เดือนแรกของปี เปิดคอนโดฯใหม่ไป 3 โครงการ คือ 1. เคฟ เอ็มบริโอ รังสิต 2. เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (ใกล้ม.กรุงเทพ-รังสิต) และ 3. แอทโมซ ซีซั่น ลาดกระบัง นับรวมเกือบ 3,000 ยูนิต ทั้งหมดมียอดขายถล่มทลาย
โดยโครงการที่เป็นกระแสฮือฮาในโลกโซเซียลมากสุด คือ เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ ในราคาเริ่ม 1.49 ล้านบาท เพราะเพียงการเปิดพรีเซล 2 วันงาน จาก 1,770 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,530 ล้านบาท บริษัท เก็บยอดไปได้มากถึง 1,170 ยูนิต มากกว่า 90% ส่วนโครงการ เคฟ เอ็มบริโอ รังสิต ปิดการขายไปได้มากถึง 70% เช่นกัน ท่ามกลางการแข่งขันทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ค่อนข้างสูง
แสนสิริ ลุ้นยอดต่างชาติ หลังโร้ดโชว์
ขณะในกลุ่มโครงการคอนโดฯระหว่างสร้าง หวังกอบโกยกระแสการกลับมานิยมของนักช้อปชาวต่างชาติ ก็มีความเคลื่อนไหวจากผู้เล่นรายใหญ่ อย่าง บมจ.แสนสิริ เช่นกัน โดยฝ่ายสื่อสารองค์กร เปิดเผย กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หลังจากบริษัท มีแผน รุกตลาดต่างชาติแบบเต็มที่ ภายใต้ตำแหน่งเบอร์ 1 ของตลาด ประเดิมด้วยการจัดโร้ดโชว์นอกประเทศครั้งแรก นำโครงการ “เดอะ เบส ไฮท์-เชียงใหม่” คอนโดฯ ตึกสูงแห่งแรกของเชียงใหม่ ไปนำเสนอนักลงทุน และผู้ต้องการ บ้านหลัง 2 ที่ ฮ่องกง อีกทั้งเร็วๆนี้ ยังนำโปรดักส์ไปโร้ดโชว์ ที่ประเทศเป้าหมายอย่างเมียนมาร์อีกด้วย โดยกระแสตอบรับ เป็นไปด้วยดี อยู่ระหว่างรวบรวมยอดขายที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ทั้งนี้ ปี 2565 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า กลุ่มผู้ซื้อคอนโดฯไทยสูงสุด ยังเป็นชาวจีน ขณะประเทศรัสเซีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาเริ่มมีสัดส่วนที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ที่น่าสนใจอย่างมาก คือ ตัวเลขของหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ชาวเมียนมาร์ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม รวมถึงชาวมาเลเซียด้วย
ไม่ฟันธงตลาดคอนโดฯฟื้น
อย่างไรก็ดี นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ให้มุมมองว่า คอนโดฯหลายโครงการ ที่เปิดขายใหม่ใหม่ช่วง 3 เดือนแรกของปี และสามารถ ปิดการขายทั้งโครงการหรือบางส่วนที่เปิดขายแบบออนไลน์ได้นั้น สะท้อนให้เห็นว่า ปัจจุบันยังมีคนที่มีกำลังซื้อ และมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอยู่ เพียงแต่เงื่อนไข พบว่า โครงการเหล่านั้น ล้วนเป็นเป็นโครงการที่มีความพิเศษ-แตกต่าง อีกทั้ง ตั้งอยู่ในทำเลที่ที่มีความน่าสนใจจริง หรือไม่ ก็เป็นโครงการของผู้ประกอบการที่มีโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว การันตีผลงาน เท่านั้น ไม่ใช่ตัวชี้วัดทั้งหมดของตลาด
" คอนโดฯที่ได้รับความสนใจในไตรมาสที่ 1 ไม่เป็นโครงการที่เปิดขายในราคาที่ไม่สูงมาก และอยู่ในทำเลรอบๆ มหาวิทยาลัย หรือ ในบางทำเลที่มีศักยภาพสูง ก็มักเป็นโครงการที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ และราคาไม่แพง ซึ่งแตกต่างจากหลายโครงการก่อนหน้านี้ที่ค่อนข้างแพง "
ดังนั้น หากนำความสำเร็จของบางโครงการมาเอ่ย อาจจะยังไม่สามารถ ระบุ ได้ชัดเจน ว่า ขณะนี้ ตลาดคอนโดฯ หรือ 'กำลังซื้อ' อสังหาฯ กลับมาสดใสแล้ว