การปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินกว่า50% มีผลพวงมาจากหนี้ครัวเรือน ประกอบกับดอกเบี้ยขยับ ต้นทุนค่าครองชีพปรับตัวสูง ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อบ้านของกลุ่มระดับกลาง-ล่างซึ่งเป็นฐานใหญ่ ของตลาดต้องชะลอออกไปผลกระทบที่เกิดขึ้นผู้ประกอบการหลายค่ายแก้เกมด้วยการหันมาบุกตลาดบ้านหรูฉีกตลาดกลุ่มแพงกันมาก และเริ่มแข่งขันรุนแรง
เนื่องจากกลุ่มตลาดบนมีขนาดเล็กกำลังซื้อกำจัดเหมือนยอดปิรามิด แต่การจะชิงกลุ่มกำลังซื้อคนกลุ่มนี้ได้ การผลิตสินค้าแต่ละค่ายต้องชัดเจนมีอัตลักษณ์เฉพาะและความชำนาญด้านนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ที่จะรู้ใจ ไฮโซ เศรษฐี นักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติได้ รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจ เศรษฐีใหม่อายุน้อย
ประกอบด้วยราคาที่ดินที่แพงระยับ มีจำกัดและหายากโดยเฉพาะย่านศูนย์กลางธุรกิจ แนวเส้นทางรถไฟฟ้าหรือเส้นทางคมนาคมที่สะดวก และต้องเป็นย่านที่ถูกจัดชั้นว่าเป็นที่อยู่อาศัยของคนสายพันธุ์ไฮเอ็นด์ ทองหล่อ เพลินจิต ชิดลม หลังสวน วิทยุ พระราม4 สีลม โซนตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ กรุงเทพกรีฑาฯลฯ จึงไม่แปลกที่การพัฒนาโครงการรูปแบบนี้จะออกมาราคาค่อนข้างสูง และวัดสุตกแต่ง แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ ต้อง มีความพิเศษไม่ใช่ของที่เห็นกันในท้องตลาด
เริ่มจาก โครงการสโคปหลังสวน ของบริษัท สโคป จำกัด หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักชัวรีในสเกลแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนเรื่องรสนิยมที่แตกต่าง ที่ผ่านมาได้เรียกเสียงฮือฮาจากคนในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาแล้ว กับราคาที่ดินที่แพงแตะระดับ 3 ล้านบาทต่อตารางวา แปลงแรกของไทย กับโครงการสโคปหลังสวน และล่าสุดราคาขายทะลุไปที่ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร ที่ปิดการขายเพนต์เฮาส์ ที่ราคา 436 ล้านบาทไป ไม่นานเรียกว่าสูงที่สุดในอุตสาหกรรมก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม สโคปพัฒนาคอนโดมิเนียม4 โครงการมูลค่ารวมกว่า 17,000 ล้านบาท ใน 4 ทำเลระดับซูเปอร์ไพรม์โลเคชั่นของไทยได้แก่ หลังสวน ทองหล่อ พร้อมศรี และประสานมิตร ซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Life at its Finest ให้ความสำคัญใน 4 ด้านของการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตได้แก่ ทำเล (Location) การออกแบบ (Design) บริการ (Service) และความเป็นส่วนตัว (Privacy) ซึ่งทำให้ สโคป เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น และมีการซื้อซํ้าอย่างต่อเนื่อง
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สโคป สะท้อนถึงเอกลักษณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแบบของสโคปว่า สโคป มีความโดดเด่นด้านการจัดหาที่ดิน ฟรีโฮลด์(Freehold) และได้สุดยอดของทำเลทองในการพัฒนาที่ดินมาตลอด เพราะคำนึงถึงความต้องการของผู้ซื้อที่จะเลือกทำเลเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญ ทั้งนี้ สโคปยังต่อยอดด้วยการนำที่ปรึกษาระดับโลกมาร่วมออกแบบอาคารให้มีความสวยงามทั้งภายนอกและภายใน เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการในระยะยาว ยิ่งไปกว่านั้น สโคปยังมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
มาที่บริษัทอสังหาฯรายใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ผู้นำอสังหาฯ ลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรีของไทยมีแผนพัฒนาโครงการ สุดหรูในอนาคต ตารางเมตรทะลุล้านทำเล สารสิน ราคาที่ดินแพงระดับต้นๆ ของเมืองไทย หลังประสบความสำเร็จโครงการ 98 WIRELESS (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส ) บนถนนวิทยุ คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี ใกล้ BTS เพลินจิต ที่มีการขายเปลี่ยนมือในเวลาต่อมาทะลุตารางเมตรละล้านบาท และยังเป็น ผู้เล่นในทำเล กรุงเทพกรีฑา ย่านคนรวยที่ปักหมุดบ้านราคากว่า100ล้านบาท
ล่าสุดประกาศต่อยอดความสำเร็จ บ้านเดี่ยวลักชัวรีแบรนด์ “เศรษฐสิริ” 5 โครงการใหม่มูลค่า 10,200 ล้านบาท ประกอบด้วย เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์- สาย 1 เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ เศรษฐสิริ เสรีไทย รวมทั้ง เศรษฐสิริ กรุงเทพ- ปทุมธานี 2 หลังประสบความสำเร็จ จากเศรษฐสิริทั้ง 2 โครงการแรกที่เปิดขายในปีนี้ ได้แก่ เศรษฐสิริ ดอนเมือง และ เศรษฐสิริ วงแหวน-จตุโชติ สะท้อนการตอบรับที่ดีของลูกค้ากลุ่ม Young Successor
นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ SIRI เปิดเผยว่า หนึ่งไฮไลท์สำคัญของกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวในปีนี้ คือ การขยายพอร์ตโปรดักส์ของกลุ่มบ้านเดี่ยวมากยิ่งขึ้นด้วยบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีแบรนด์ เศรษฐสิริ ในระดับราคา 12-30 ล้านบาท โดยแบรนด์ เศรษฐสิริ ถือว่าเป็นโปรดักส์ไฮไลท์ของปีนี้ ที่มีการยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่อายุน้อยลงและประสบความสำเร็จเร็ว
ด้าน“สัมมากร” บริษัทอสังหา ริมทรัพย์ รุ่นเก๋าประสบการณ์กว่า 53 ปี เดินเกมรุกลุยตลาดบ้านลักชัวรีกลางเมืองที่เข้าใจข้อมูลเชิงลึก( Insight) คนไทยมากที่สุด หลังเปิดเกมรุกตลาดบ้านหรูไปเมื่อปลายปี 2564 กับโครงการโพรวิเดนซ์ เลน เอกมัย-รามอินทรา ได้ผลตอบรับดีเกินคาด และปิดโครงการไปเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดเดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีโครงการ พาร์ค เฮอริเทจ พัฒนาการ และประกาศตั้งเป้าปิดโครงการกลางปี 2567
นายณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สัมมากร กล่าวว่า ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มมองหาบ้านที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ได้ บริษัทมีจุดแข็งของแบรนด์ที่สร้างบ้านจากความเข้าใจในวิถีชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริงที่ผสมผสานความโมเดิร์นเข้าไปในงานดีไซน์เพื่อการอยู่อาศัยในระยะยาว โดยจากพฤติกรรมการเลือกซื้อบ้านของผู้บริโภคในปัจจุบันนี้จะคำนึงถึงอนาคตมากขึ้นเเละให้ความสำคัญกับเรื่องทำเล
สำหรับโครงการ พาร์ค เฮอริเทจ พัฒนาการเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับ Upper-class ในกลุ่ม Young Successor ที่มีครอบครัว เป็นคนรุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 59 -98 ล้านบาทขณะค่ายเอสซีแอสเสท เจ้าตลาดบ้านหรูปักหมุดในหลายทำเล สำหรับบ้านราคากว่า100ล้านบาท รวมถึงค่ายเอพีไทยแลนด์ กระจายในหลายทำเลศักยภาพ อีกทั้งค่ายพฤกษาที่พัฒนาบ้านหรูที่ราคา 30 ล้านบาท ส่วนพี่เบิ้มบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ไม่ต้องพูดถึงแทบทุกโปรเจ็กต์ราคาบ้านกว่า 100 ล้านบาทและทุกโครงการปิดการขายในเวลาอันรวดเร็ว
ที่น่าจับตาบมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ลุยพัฒนาสินค้าบ้านหรูใกล้โรงเรียนนานาชาติ นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจของไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าโครงการบ้านระดับบน โดยลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้บริหารระดับสูง เจ้าของกิจการ และกลุ่ม Expat เพิ่มเติมคือนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ล่าสุด โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพ หรือ SISB ซึ่งซื้อที่ดินบนถนนหอการค้าไทย จากบริษัท ได้เปิด โรงเรียนนานาชาติเอสไอเอสบี นนทบุรี
ล่าสุดที่ประกาศบุกตลาดบ้านหรูมากขึ้นในปีหน้า คือ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด แบรนด์อสังหาฯชั้นนำของไทย กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย 1 ใน 3 ธุรกิจหลักของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” โดยราคาขายอยู่ที่ 100-200 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพมหานคร ทำเลเกษตร-นวมินทร์ รองรับกำลังซื้อของเศรษฐีคนรุ่นใหม่ และจะเน้นขยายโครงการในหลายทำเล เนื่องจากต้องการก้าวข้ามการปฏิเสธสินเชื่อนั่นเอง
ต้องจับตากลุ่มที่อยู่อาศัยลักชัวรี นับจากนี้คาดว่าจะมีผู้เล่น หลบฉากกลุ่มลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อ หันมาผลิตสินค้าแพงประชันโฉมกันมากในปีหน้า !!!