วิธีคิด อรสิริน ปั้น "Mill Hill" โรงเรียนนานาชาติระดับโลกแห่งแรกในเชียงใหม่

20 เม.ย. 2567 | 06:23 น.

เจาะวิธีคิด "อรสิริน" ปั้น "Mill Hill" โรงเรียนนานาชาติระดับโลกแห่งแรกในเชียงใหม่ แม่เหล็ก ดึง กำลังซื้อที่อยู่อาศัย เนื้อที่40ไร่ บนอาณาจักร600ไร่ บริเวณ สำนักงานใหญ่อรสิริน เตรียมลงมือสร้าง เปิดการเรียนการสอน เฟสแรก ปี68 อนุบาลถึงเยียร์6 ( 3-11ปี )

 

"ความสมบูรณ์แบบแห่งการอยู่อาศัย” แนวคิดการดำเนินธุรกิจกว่า17 ปี สำหรับ บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ทางภาคเหนือ ได้สร้างผลงานเป็นที่ไว้วางใจของผู้บริโภคกว่า24โครงการ 4,878 ยูนิต มูลค่ากว่า 17,300ล้านบาททั้งแนวราบและแนวสูง โดยปีนี้ “อรสิริน” มีแผนพัฒนาโครงการต่อเนื่องอีก 6 โครงการ และสยายปีกไป ยังจังหวัดภูเก็ต

ที่เป็นไฮไลต์ อรสิริน วางแผนก่อสร้าง “มิลล์ ฮิลล์ สคูล” หรือ “Mill Hill International School Thailand”  โรงเรียนนานาชาติอังกฤษแห่งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ หลังประกาศแผนขยายธุรกิจใหม่ ด้านการศึกษา และเซ็น MOU กับ The Mill Hill Education Group ประเทศอังกฤษ 

มีหมุดหมายสร้างความมั่นคงทางธุรกิจหลากหลาย จิ๊กซอว์ตัวสำคัญเติมเต็ม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บนอาณาจักรใหญ่ กว่า 600 ไร่ ทำเลซูเปอร์ไฮเวย์ ที่ตั้ง สำนักงานใหญ่ของอรสิริน ประเมินว่าจะเปิดตัวนักเรียนคนแรกในเฟสปี 2568 อายุตั้งแต่ 3-11 ปี ก่อนขยายสู่เฟสที่ 2 ปี 2570 ถึงอายุ 18 ปี ผลผลิตที่จะก้าวไปสู่รั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก 

Mill Hill

 

เนื่องจากหลักสูตรการเรียนการสอนระดับโลก ผสานกับการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมนอกหลักสูตร เพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียน สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาไทยและสากล โดยมีวิสัยทัศน์เพื่อเป็นโรงเรียนที่ให้การเรียนรู้แบบผสมผสาน ผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนระดับนานาชาติและมุ่งเน้นกิจกรรมเพื่อสร้างความพร้อมให้นักเรียน สำหรับปัจจุบันและอนาคต ผ่านเครื่องมือในการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ อย่างครบครัน

 นายอรรคเดช อุดมศิริธำรง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “อรสิริน” และ นางเคท ไซม่อน (Mrs. Kate Simon )หัวหน้าฝ่ายบริหารโรงเรียน Grimsdell และ Mill Hill School จากประเทศอังกฤษ ฐานะหนึ่งในผู้บริหาร Mill Hill  ในไทยให้สัมภาษณ์  ถึงแนวคิดการพัฒนา “Mill Hill” โรงเรียนนานาชาติแห่งแรกนอกเขต ประเทศอังกฤษ  เริ่มจากนางเคท มองว่า ประเทศไทยมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงและเชียงใหม่มีป่าเขา มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ต่างจาก โรงเรียนที่เธอสอนที่ประเทศอังกฤษ มีพื้นที่ติดป่าสีเขียวขนาดใหญ่เช่นกัน

 

อรรคเดช อุดมศิริธำรง

นางเคท ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ จากการเป็นผู้ปกครองไปสู่การเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนฯ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี แม้ดูเก่าแก่มีอายุมากแต่เธอระบุว่า ได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน มีความทันสมัยหล่อหลอมเด็กให้มีความคิดเป็นของตนเองกล้าคิดกล้าตัดสินใจ เด็กอนุบาลนั่งทำโฟโต้ชอปเด็กเรียนเอไอ  ใช้ไอแพด อยู่กับเทคโนโลยี สามารถตัดต่อได้เอง สร้างนักเรียนให้มีความคิดสร้างสรรค์

มีอิสระดำเนินกิจกรรมด้วยตนเองที่จะสอดประสานไปกับการเรียน สร้างพื้นฐานสร้างเด็กเติบโตบนพื้นฐานที่ดี โดยวิสัยทัศน์คือทำให้เด็กมีความพร้อมทั้งจิตใจและร่างกายในฐานะที่เคยเป็นผู้ปกครอง เมื่อมาเป็นครู ทำให้เข้าใจถึงการบริหารและผลิตเด็กแต่ละคนออกมาให้มีคุณภาพที่ดีและ อยากโฟกัสวัยเด็กเพราะวัยเด็กแต่ละคนมีแค่ครั้งเดียว ซึ่งจะทำให้มีความหมายที่ดี

เคท ไซม่อน

 

ส่วนการขยายโรงเรียนไปยังพื้นที่อื่นหรือประเทศอื่นนางเคทมองว่าต้องการพัฒนาที่เชียงใหม่ให้ดีที่สุดก่อนและเดินหน้าไปกับ อรสิรินเท่านั้น ที่สำคัญไม่มีการจัดชั้นว่าโรงเรียนแบรนด์ไหนดีที่สุดแต่จะพิจารณาจากคุณภาพความสำเร็จที่เด็กและผู้ปกครองได้รับมากกว่า

นายอรรคเดชสะท้อนว่า การเปิดโรงเรียนนานาชาติ มีจุดเริ่มต้นมาจากการมองหาโรงเรียนให้บุตรชายและค้นพบว่า “Mill Hill” ประเทศอังกฤษน่าสนใจ มีความเป็นธรรมชาติป่าสีเขียว ซึ่งใกล้เคียงกับพื้นที่โครงการอรสิรินที่เชียงใหม่ ดังนั้นจึงนำมาซึ่งการตัดสินใจ ลงทุนบนพื้นที่โครงการที่มีอยู่ โดยไม่ต้องเดินทางไปเรียนไกลถึงประเทศอังกฤษ

ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนถูกกว่ามาก ซึ่งปีละเฉลี่ย 3 แสนบาท เทียบกับไปเรียนที่อังกฤษ เกือบ 1 ล้านถึง 1 ล้านบาทต่อปี ในขณะการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพเหมือนกัน ซึ่งเป็นการสนับสนุนผู้ปกครองส่งบุตรหลานมาเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนจบชั้นมัธยมปลาย และการันตีสามารถต่อในระดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกโดยเฉพาะที่ประเทศอังกฤษได้ต่อเนื่อง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากค่าเล่าเรียนได้อย่างมาก ขณะความสนใจของผู้ปกครอง ในเชียงใหม่มีค่อนข้างมาก

 นายอรรคเดชมองว่าเกินความคาดหมายกับเป้าที่ตั้งไว้ เมื่อนึกถึงรายได้ที่จะเข้ามาก็อยากได้ แต่เลือกที่จะเน้นคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณที่เป็นกลยุทธ์ ทำให้ผู้ปกครองนึกถึง Mill Hill เป็นที่แรกจะดีกว่า   

"แผนเดิม จะเน้นเฉพาะเด็กอนุบาลแต่เมื่อมีเสียงเรียกร้องจากผู้ปกครองว่าหากมีบุตรสองคน ซึ่งเป็นพี่น้องกันไม่ต้องการให้แยกโรงเรียน เพราะสะดวกต่อการมารับ-ส่งและต้องการให้พี่ได้ดูแลน้องไปด้วยเมื่ออยู่โรงเรียนเดียวกันบริษัทจึงนำเสียงสะท้อนเหล่านี้มาพิจารณาและปรับแผนให้เฟสแรกเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่อนุบาลถึงเยียร์ 6 ( 3-11ปี)  โดยเปิดชั้นละ 1 ห้อง รวม 8 ชั้นเรียน ชั้นละ 20 คน ปัจจุบันเตรียมลงมือก่อสร้างจำนวน2อาคารเนื้อที่2หมื่นตร.ม.เสร็จปลายปีนี้ เปิดการเรียนการสอนปี2568"

  เตรียมลงมือก่อสร้าง

ด้านการแข่งขันโรงเรียนนานาชาติในเชียงใหม่ต้องยอมรับว่ามีสูงซึ่งปัจจุบันมาถึง 22 แห่ง เมื่อรวมทั้งประเทศมีประมาณ 203 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งการลงทุนโรงเรียนนานาชาติ เป็นแม่เหล็กในการดึงคนซื้อโครงการที่อยู่อาศัยให้ลูกอยู่ใกล้โรงเรียนดีๆ หรือต้องการมีโรงเรียนดีๆ ใกล้บ้าน ต่างชาติส่วนใหญ่ มีจีน ไต้หวัน เมียนมา และชาติอื่นๆ ที่ทำธุรกิจในไทยหรือส่งบุตรหลานมาเรียนที่ไทยซึ่งเชียงใหม่มีระยะทางใกล้ที่สุดและเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว อยู่อาศัยและพักผ่อนทั้งคนไทยและต่างชาติ

โดยมีภูมิอากาศ ภูมิประเทศค่อนข้างดีใกล้เคียงประเทศอังกฤษ แต่ทั้งนี้ จะเน้นผสมผสาน โดยให้ความสำคัญกับปริมาณเด็กไทยให้เข้ามาเรียนมากกว่าเพราะต้องการสนับสนุนการเรียนการสอนที่ดีมีคุณภาพสามารถนำติดตัวไปใช้ได้ตลอดชีวิตส่วนการขยายการลงทุนโรงเรียนนานาชาติไปยังจังหวัดอื่นหรือไม่นั้น นายอรรคเดชยํ้าว่าต้องการพัฒนาที่เชียงใหม่ให้ดีที่สุด แต่ สำหรับ  “Mill Hill” สัญชาติอังกฤษ แล้ว จะไปทุกที่ที่อรสิรินไปอย่างแน่นอน!!!