วิธีคิด ซีอีโอ  CP LAND   ปั้นแบรนด์บ้านหรู เจาะกลุ่มกำลังซื้อสูง เมืองใหญ่

ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว  มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยหดตัว สวนทางซัพพลายในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่มีความเชื่ออยู่ว่า บ้านที่สร้าง บนทำเลที่ใช่ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์  หากมีดีเอ็นเอตรงกันกับผู้ซื้อแล้วการขายก็ไม่น่ามีปัญหา ในทางกลับกันจะขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว

เช่นเดียวกับ บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยในเครือ เจริญโภคภัณฑ์ ที่ประกาศบุกหนักบ้านลักชัวรี ภายใต้แบรนด์ใหม่ ซึ่งเป็นโครงการเรือธงของ  CP LAND ทั้งแนวราบ –แนวสูง  บนทำเลศักยภาพจังหวัดหัวเมืองใหญ่ รวมถึงกรุงเทพมหานคร  น่านน้ำใหม่ที่เต็มไปด้วยความต้องการ โดย โฟกัสไปที่กลุ่มกำลังซื้อสูง และได้กำหนดแผนชัดเจน  2ปี (2567-2568) 

โดยปีนี้มีเป้าหมายเติบโต 60% เมื่อเทียบจากปี ที่ผ่านมาอยู่ที่40% หรือ รายได้ปี 2566  อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโตเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี2565 และปี2567 ขยับเป้ารายได้สู่ 5,500 ล้านบาท และปี2568 คาดการณ์ว่าจะไปที่10,000ล้านบาท และมีเป้าหมายเข้าตลาดหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม ที่ได้เปรียบคือการมีแลนด์แบงก์สะสมในมือโดยเฉพาะโครงการ ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส นครศรีธรรมราช บนถนน พัฒนาการคูขวาง ทำเลศักยภาพ ปัจจุบันรายล้อมไปด้วย กลุ่มอาคารของบริษัทและธุรกิจในเครือ  อย่างโรงแรม อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียมและ โลตัส   รวมถึงสถานที่สำคัญใกล้โครงการอย่างโรงพยาบาล ทั้งรัฐและเอกชน 5แห่ง  แม่เหล็กดึงกำลังซื้อที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

การแข่งขันในนครศรีธรรมราช

 นายกีรติ ศตะสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CP LAND  ให้สัมภาษณ์”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า  การแข่งขันใน จังหวัดนครศรีธรรมราช สิ่งที่เชื่อ คือสินค้าในตลาดที่เรียกว่า ซัพพลายกับดีมานด์ ไม่สอดคล้องกัน ความต้องการอาจหดตัวลงซัพพลายคงเหลือในอดีตค่อนข้างมาก

โดยยกตัวอย่าง ให้เห็นเป็นภาพสะท้อน โดยเปรียบถึง ร้านขนมหน้าโรงเรียนว่า ในวันนี้เด็กนักเรียน1,000คนออกมาหน้าโรงเรียนมีร้านขายขนม 10ร้านค้า ซึ่งขายหมด แต่ในวันที่ปิดเทอมและ คลาสซัมเมอร์มีเด็กมาเรียน300คน ดังนั้นเด็ก300คน มีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อขนมร้านไหน นั่นหมายความว่าขนมที่ดีที่สุด จะขายหมดใน3ร้านและอีก7ร้านจะขายไม่ได้

ทั้งนี้ตลาดไม่ได้บอกว่า วันนี้คนเหลือ300คนแล้วจะแบ่งสัดส่วนกันเท่าๆกันในตลาดแต่ในทางกลับกันตลาดจะเลือกสินค้าที่ดีที่สุดและขายหมดโดยไม่มีผลกระทบและอีก7ร้านค้า ที่ไม่สามารถทำขนมที่ดีที่สุดในราคาที่ดีที่สุดกลับขายไม่ได้เลย  โดยโครงการ ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส นครศรีธรรมราช ต้องการเป็นร้านขายของที่ดีที่สุด ให้ลูกค้าเลือกเป็นช้อยที่หนึ่ง หรือที่สองไม่เกินนี้นั่นแสดงให้เห็นว่าเรา

เช่นเดียวกับ โครงการ ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส นครศรีธรรมราช ต้องการเป็นร้านขายของที่ดีที่สุด ให้ลูกค้าเลือกเป็นช้อยที่หนึ่ง หรือที่สองไม่เกินนี้นั่นแสดงให้เห็นว่าเราจะไม่มีปัญหากระทบ  ขณะกลุ่มลูกค้าเกรดพรีเมียมที่เข้ามาซื้อโครงการมองว่าไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่อาจดีเอ็นเอตรงกันเชื่อว่าสิ่งที่ใส่ใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ มีความเป็นอยู่ที่ดี การเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างครอบครัวที่ดีในอนาคต มันตรงกับ คนที่มีรายได้สูงทำให้กลุ่มนี้ตอบสนองและซื้อสินค้าของ CP LAND   ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ ที่รับรายงานเป็นนักธุรกิจ นักวิชาชีพชั้นสูง และแพทย์ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นคนพื้นที่หรือมาทำงานที่นครศรีธรรมราช

ฉายภาพ ทำเล 

สำหรับถนนพัฒนาการคูขวาง  อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งถนนเส้นนี้มีศักยภาพดีอยู่แล้ว และสามารถวิ่งไปเชื่อมกับกับพื้นที่โดยรอบ  แต่สิ่งที่มั่นใจกว่า คือการทำโปรเจ็กต์นี้ไม่ใช่โปรเจ็กต์ เดียว แต่เป็นการทำเป็นมิกซ์ยูส  ทั้งโลตัส รวมถึงโรงแรม ที่มั่นใจว่าแบรนด์ฟอร์จูนเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์สร้างภาพลักษณ์ให้กับนครศรีธรรมราช สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้ที่ดินบริเวณนี้น่าจะมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ เชื่อวันหนึ่งถนนเส้นนี้จะเป็นถนนเศรษฐกิจที่สำคัญ

ขณะที่ดินที่พัฒนาโครงการได้มากเกิน10ปี ซึ่งซื้อในช่วงที่มีโลตัสและแบ่งจัดสรร โดยมองว่าจะไปทุกที่ที่โลตัสไปทั้งนี้ ช่วงที่มาครั้งแรกน่าจะประมาณ100ไร่ และค่อยๆพัฒนาจนเหลือแปลงสุดท้ายคือโครงการ เมื่อถามถึงถนนเส้นนี้มี บริษัทเซ็นทรัลพัฒนาจำกัด (มหาชน) หรือCPN ปักหมุดโครงการอยู่ด้วย   นายกีรติ มองว่า เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็น ecosystem จึงส่งผลดีต่อการลงทุนและการอยู่อาศัย

“วันนี้เราก็อยากให้มีเซ็นทรัลมาอยู่ใกล้เราและอยากมีโครงการบ้านจัดสรรอื่นๆ เพราะจะกลายเป็นฮับว่าทุกคนมาที่นี่ที่เดียว เลือกซื้อได้ แต่ขณะเดียวกันเราต้องมีบลูโอเชี่ยน หรือน่านน้ำ ของเราเอง เน้นการแข่งขันในด้านความต้องการ การที่จะเกิดย่านนี้เป็นช้อปปิ้งมอลล์ หมู่บ้านหลายเซ็กเมนต์ โรงแรมหลายเซ็กเมนต์มันจะกลายเป็น ecosystem เชื่อมโยงเอื้อต่อกันดังนั้นเราไม่มองเป็นคู่แข่งขัน “

สำหรับแผนพัฒนาในจังหวัดภูมิภาค  มองว่าเราไม่ได้กลัวการแข่งขันในกรุงเทพฯ แต่เรามี ธง และมีที่ดินในหลายจังหวัด อย่างภาคอีสาน โดยมีโปรเจ็กต์เดิมอยู่ก่อนแล้ว  เช่นบุรีรัมย์แต่จะไปปักหมุดเพิ่มเติมที่ขอนแก่น ภาคกลางตอนบนนครสวรรค์ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่อยู่แล้ว ภาคเหนือยังไม่ระบุได้ แม้จะดีแต่ความนิยมลดลง ภาคใต้ต้องยอมรับว่าได้รับความนิยมสูงและคาดว่าจะมีโครงการปักหมุดที่ภาคใต้ให้เห็น อาทิสุราษฎร์ธานี ที่มีโครงการอยู่แล้วจะมีโครงการต่อเนื่อง ขณะภูเก็ตไม่ไปไม่ได้ และหากโครงการที่ดำเนินการอยู่จบเร็ว ปลายปีนี้อาจเห็นบริษัทไปภูเก็ต

 บุกภูมิภาคเพราะโอกาส

อย่างไรก็ตาม การมาบุกต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะมีโอกาส บริษัทอยู่ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์มีสินค้า กระจายทั่วประเทศดังนั้นต้องกระจายธุรกิจให้ครบถ้วน ต้องศึกษาและสร้างโหนด ต้องมีโหนดของภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และจะค่อยๆเริ่มกระจายออกไป โดยวางแผนระยะยาวแต่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถล็อกกันได้ 5ปีก่อนไม่มีใครพูดถึงเรื่องเอไอ

ดังนั้นการจัดทำแผนจะกำหนดไว้คร่าวๆหากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนก็ปรับได้ ดังนั้นจึงวางแผนไว้สั้นๆที่ปฎิบัติได้จริงๆเพียง2ปี  ส่วนทำเลกรุงเทพฯตอนเหนือที่จะพัฒนาในปี2568 บริษัทมีที่ดินอยู่แล้ว  แต่มองว่ากรุงเทพฯที่มีดีมานด์ที่ดี คือโซนกรุงเทพฯโตอนเหนือ โซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเฉียงใต้  โซนฝั่งธนบุรี มีการซึมซับตลาดได้ดีดังนั้น ยัง มองหาโอกาส ที่ดีต่อไป  ส่วนการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ต้องมองที่ความพร้อมทั้งทางเศรษฐกิจและเป้าหมายรายได้ที่เข้ามา