"คอนโดแอชตัน อโศก" เฮ ไม่ต้องทุบ กฤษฎีกาตอบ กทม.ขอใบอนุญาตใหม่ได้

27 ส.ค. 2567 | 10:04 น.
อัพเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2567 | 04:48 น.

ลูกบ้านเฮ คอนโดหรู “แอซตันอโศก” บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ไม่ต้องทุบทิ้ง กฤษฎีกาตอบกลับกทม. ชี้ขอใบอนุญาตใหม่ หลังศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอน

การบังคับคดี  คอนโดมิเนียมหรู“แอชตัน อโศก” ของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งมีผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยฉพาะลูกบ้านที่กังวลว่าห้องที่ซื้อไปจะถูกทุบหรือไม่

คอนโดหรู แอซตันอโศก

 

ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครในฐานะผู้ออกใบอนุญาตได้มีหนังสือ ที่ กท.0907/1333 ลงวันที่ 10 เม.ย.67 ถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎี หารือถึงแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดให้เพิกถอนใบรับแจ้งการก่อสร้าง

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯกทม.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับโดยสรุปสาระสำคัญ ตามที่กทม.ได้สอบถามไป ประกอบด้วย

1.การเพิกถอนใบรับแจ้งการก่อสร้าง กทม.จะต้องออกใบใหม่หรือไม่ คณะกรรมการกฤษฎีกาให้เห็นว่าเมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนถือว่าคำสั่งออกใบอนุญาตเดิมสิ้นสุดลง

ทำให้โครงการแอชตันฯ ก่อสร้างโดยไม่มีใบอนุญาต กทม.มีหน้าที่ทำให้ชอบด้วยกฎหมาย ให้เอกชนยื่นคำขอใหม่อีกครั้งโดยให้มีผลย้อนหลังได้ไม่ต้องรื้อ หรือทุบ

2.การใช้อำนาจในการออกคำสั่ง ตามมาตรา 40 แห่ง พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร

ผู้ควบคุมงาน ผู้ดําเนินการฯ ระงับการกระทําดังกล่าว หรือห้ามมิให้บุคคลใดใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆของอาคาร แล้วแต่ละกรณี เห็นว่า กทม.ไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งทำพร้อมกันในคราวเดียวกัน

โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจตามความเหมาะสม และการออกคำสั่งเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขอาคารให้ถูกต้องให้ออกกับเจ้าอาคาร ได้แก่ เจ้าของห้องในอาคารชุดทุกห้อง และนิติบุคคลอาคารชุดเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขอาคาร

ทั้งนี้ นอกจากนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อนุญาตให้โครงการแอชตันฯ ใช้พื้นที่ตั้งสำนักงาน

ถือว่าผิดวัตถุประสงค์การเวนคืนที่ดิน ภายหลังได้มีการรื้อถอนและใช้เป็นลานจอดรถของผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและประชาชนทั่วไป โดยเสียค่าบริการตามที่ รฟม. กำหนดรวมทั้งสามารถใช้ทางเข้าออกกว้าง 13 เมตร ถือว่าข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปไม่กระทบวัตถุประสงค์การเวนคืนที่ดิน

ส่วนกรณี รฟม.รับค่าทดแทนจำนวน 97,671,707.45 บาท โดยเอกชนก่อสร้างอาคารจอดรถให้นั้น พบว่า รฟม.ไม่ได้เสนอ ครม.เห็นชอบเนื่องจากวงเงินเกิน 90 ล้านบาท อาจขอให้ ครม.เห็นชอบภายหลังได้

สำหรับขั้นตอนต่อไปคณะทำงานฯ มีนายณรงค์ เรืองศรี รองปลัด กทม.เป็นประธาน จะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมโยธาธิการและผังเมือง

สำนักงานควบคุมอาคาร สำนักการโยธา สำนักงานเขตวัฒนา และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อกำหนดรายละเอียดการปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยยึดแนวทางที่ได้มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป