ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ปี2567 ลดลง มีผลกระทบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง แต่ละค่ายต่างพลิกกลยุทธ์มองหาน่านน้ำใหม่กันมากขึ้น และเน้นเจาะตลาดกลางบนและรับมือกับตลาดล่างที่ไม่ฟื้นตัว และประกาศแผนปี2568 ชิงกำลังซื้อกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะตลาดค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง และตกแต่งบ้าน
เช่นเดียวกับบริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด (ไทวัสดุ) เครือเซ็นทรัล รีเทล วางเป้าหมายในปี2568 เปิดสาขาใหม่ เพิ่ม คาดว่าไม่เกิน 10 สาขา เจาะตลาดกลาง-บน โดยแต่ละสาขามีขนาดพื้นที่ประมาณ 27-30 ไร่ เบื้องต้นงบลงทุนในการเปิดสาขาใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท
นาย สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ภาพรวมค้าปลีกกลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน มีผู้ประกอบการแบรนด์หลักในตลาด 4 ราย และไทวัสดุ เข้ามาอยู่ในตลาดประมาณ 14 ปี
มีส่วนแบ่งการตลาดในลำดับสอง โดยภาพรวมตลาดมีการแข่งขันต่อเนื่อง ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องเร่งปรับตัว รวมถึงไทวัสดุ ได้วางแนวทางปรับโฉมสาขาครั้งใหญ่ในทุก 4-5 ปีตามเทรนด์ตลาดและการแข่งขัน รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง
แนวรุกขยายตลาดและเพิ่มส่วนแบ่ง ได้มุ่งทั้งการขยายสาขาในรูปแบบ ไวท์ ฟอร์แมท (White Format) โดยเป็นโมเดลรวม "ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม" เรียกได้ว่า เป็น "ไฮบริดสโตร์" วางให้เป็นศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง เครื่องมือช่าง สินค้าโครงสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่งบ้าน มาไว้ที่เดียวกัน
โมเดลสาขารูปแบบใหม่ต้องการให้เป็น เกมเชนเจอร์ เข้ามาร่วมเปลี่ยนโฉมตลาดค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2564 ผ่านสาขาแรกคือ ไทวัสดุ สาขาศรีสมาน จังหวัดนนทบุรี และขยายต่อเนื่อง ในปัจจุบันมี 16 สาขา มีทั้งการเปิดสาขาใหม่และปรับโฉมสาขาเดิมที่มีอยู่ ซึ่งโมเดลใหม่ สร้างยอดขายสูงถึง 30% ในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2564 สาขาแรกศรีสมาน นนทบุรี ปี 2566 เปิดรวม 9 สาขา ปี 2567 เปิด 7 สาขาสำหรับไวท์ ฟอร์แมท มีความแตกต่างจากสาขาที่มีอยู่ทั้ง มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 2 หมื่น ตร.ม. เพิ่มจากสาขาเดิมที่มีอยู่ ที่มีพื้นที่ประมาณ 1.5 หมื่น ตร.ม. รวมถึงได้ปรับดีไซน์สาขาแบบใหม่ให้สวยงามขึ้น มีการนำเสนอสินค้ารวมถึง 5 หมื่นรายการ พร้อมขยายสินค้าตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ฟฟ้าให้หลากหลาย เน้นดีไซน์ในสไตล์ของ บีเอ็นบี โฮม ที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ความเป็นพรีเมียม แต่คงราคาสินค้า
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ ไวท์ ฟอร์แมท ที่เป็นไฮบริดสโตร์ บริษัทได้ทำเป็นรายแรก มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้ากลางและบนมากขึ้น (Mid to High) รวมถึงการเจาะกลุ่มลูกค้าทั้ง B2B และ B2C
นอกจากนี้วางแผนรุกตลาดทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ พร้อมบริการหลังการขาย และบริการดูแลบ้าน อีกทั้ง มีบริการส่งฟรี 40 กม. (Free Delivery), การจัดส่งสินค้าภายใน 2 ชั่วโมง (Express Delivery), บริการจัดส่งภายในวัน และวันถัดไป
อีกแนวทางด้านราคาสินค้า ได้กำหนดตรึงราคาสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันกว่า 2,000 รายการ ให้อยู่ในราคาคงที่ พร้อมคืนส่วนต่าง 120% หากพบสินค้าราคาถูกกว่าที่ร้านค้าอื่นในขนาดและยี่ห้อเดียวกัน
ในช่วงปลายปีนี้ที่เข้าสู่เทศกาลเฟสทีฟประจำปี จึงได้นำเสนอสินค้าตกแต่งบ้านสำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ รวมกว่า 2,000 รายการ พร้อมด้วยไฮไลต์นำเข้า "ต้นคริสต์มาสสด" สายพันธุ์ Balsam Fir Plants ที่ปลูกในเมือง Lunenburg County รัฐ Nova Scotia จากประเทศแคนาดา ส่งตรงมาทำตลาดในประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมในปัจจุบัน ไทวัสดุมีสาขารวมประมาณ 91 สาขาใน 81 ทำเลทั่วประเทศไทย มองระยะยาว จากการรุกตลาดและปรับตัวให้สอดคล้องกับ สถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป จะผลักดันทำให้บริษัท สร้างการเติบโตในระดับสองหลักได้ต่อเนื่อง