ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความว่า
โควิด-19 (Covid-19) การกระตุ้นเข็ม 3 ด้วย วัคซีนต่างชนิดกัน
การกระตุ้นเข็ม 3 ในปัจจุบันมีความจำเป็นที่จะต้องให้ครบหลักการ ตามให้วัคซีนที่มี primary วัคซีน 2 โดส แล้วตามด้วยกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อให้ภูมิคุ้มกันได้สูงและอยู่นานขึ้น ตามหลักของการให้วัคซีน
วันนี้ขอพูดตามหลักวิชาการมากหน่อย อาจจะเข้าใจยากกว่าทุกวัน
ขณะนี้เริ่มเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า การให้วัคซีนเบื้องต้นที่เป็นวัคซีนเชื้อตาย แล้วกระตุ้นด้วยไวรัสเวกเตอร์ หรือ mRNA กระตุ้นภูมิได้สูงมาก
มีการศึกษาสนับสนุนออกมามากมาย มาสนับสนุนงานวิจัยที่เราทำมาโดยตลอด เช่น ทีมมหาวิทยาลัย oxford ร่วมกับบราซิล ได้ลงพิมพ์ในวารสาร lancet (https://www.thelancet.com/action/showPdf...)
รายงานนี้ก็อ้างอิงผลงานของเรา และยังมีการศึกษาในสวีเดน อินโดนีเซีย ได้ผลกระตุ้นภูมิต้านทานได้สูงเช่นเดียวกัน
ที่น่าสนใจการศึกษาในประเทศชิลี ถึงประสิทธิภาพการกระตุ้นเข็มสาม หลังจากได้รับวัคซีนเชื้อตาย (CoronaVac) มาแล้ว 2 เข็ม
โดยให้เข็มที่ 3 เป็น เชื้อตาย (CoronaVac) virus Vector (AZ) และ mRNA (Pfizer) มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดโรคแบบมีอาการ 78.8% ,93.2% และ 96.5% ตามลำดับ
และป้องกันการเสียชีวิตได้สูงถึง 86.7% ,98.1% และ 96.8% ตามลำดับ
รายงานนี้เสนอใน preprint ที่กำลังพิจารณาในวารสาร Lancet https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=4005130
ข้อมูลดังกล่าวได้สนับสนุนผลงานวิจัยที่ศูนย์ได้ทำมาตลอด โดยผลงานของเราลงพิมพ์ในวารสาร https://www.mdpi.com/2076-393X/10/1/86 ได้ผลในรูปแบบเดียวกัน
ขณะนี้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และกำลังจะส่งผลงาน ที่มีภูมิต้านทานต่อสายพันธุ์ omicron (โอมิครอน) ไปเผยแพร่ในวารสาร ในอาทิตย์นี้อีกหนึ่งเรื่อง
และจะมีการเปรียบเทียบให้เห็นว่าการกระตุ้นที่ 3 เดือนและ 6 เดือน ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นในการกระตุ้นห่าง 6 เดือนจะได้สูงกว่าภูมิกระตุ้นที่ 3 เดือนหลังเข็ม 2 ของการให้วัคซีนเชื้อตาย
แต่ข้อเสียของการกระตุ้นช้า คืออาจจะเกิดการติดเชื้อโรค covid-19 เสียก่อน
ส่วนเมื่อกระตุ้นเข็ม 3 แล้ว ภูมิต้านทานต่อสายพันธุ์ omicron สูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มของ AZ และ mRNA
โดยสรุปการให้วัคซีนต่างชนิดกัน จะได้ผลในการกระตุ้นภูมิต้านทานที่สูงมาก ดังจะเห็นได้จากข้อมูลที่กำลังออกมามากมายในระดับนานาชาติทั่วไป และน่าจะลดอัตราการเสียชีวิตลงได้อย่างแน่นอน
สำหรับการฉีดวัคซีนโควิดในประเทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64-25 ม.ค.65 มีการฉีดสะสมแล้วทั้งหมด 112,759,859 โดส แบ่งเป็น