thansettakij
DITTO พลิกโฉมนิคมอุตฯสู่ Digital Twin ชูจุดขายดึงนักลงทุนต่างชาติ

DITTO พลิกโฉมนิคมอุตฯสู่ Digital Twin ชูจุดขายดึงนักลงทุนต่างชาติ

18 มี.ค. 2568 | 07:29 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2568 | 07:43 น.

DTX ภายใต้กลุ่ม DITTO และ Teamg ชูเทคโนโลยี Digital Twin เปลี่ยนนิคมอุตสาหกรรมสู่ยุคดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถด้านบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานแบบเรียลไทม์ ลดต้นทุน-เพิ่มความโปร่งใสด้านสิ่งแวดล้อม ใช้เป็นจุดขายดึงต่างชาติลงทุน

ดร.สรัสไชย องค์ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายงานเทคโนโลยี บริษัท ดี ที เอ็กซ์ จำกัด (DTX) ผู้พัฒนาเทคโนโลยี Digital Twin ในกลุ่มบริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO และ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG  เปิดเผยว่า Digital Twin กำลังเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่เข้ามาพลิกโฉมการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมไทย เปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานให้กลายเป็นแบบจำลองดิจิทัล 3 มิติ ที่สามารถเฝ้าระวังและวิเคราะห์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ โดยระบบดังกล่าวได้รับการพัฒนามาแล้วกว่า 3 ปี และกำลังขยายไปยังนิคมอุตสาหกรรม 14 แห่งทั่วประเทศ

DITTO พลิกโฉมนิคมอุตฯสู่ Digital Twin ชูจุดขายดึงนักลงทุนต่างชาติ

Digital Twin เป็นระบบที่ช่วยจำลองโครงสร้างพื้นฐานของนิคมอุตสาหกรรมให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลแบบ สามมิติ (3D Model) ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เช่น ถนน ไฟฟ้า ระบบน้ำเสีย คุณภาพอากาศ และระบบรักษาความปลอดภัย ได้จาก เซ็นเซอร์ IoT (Internet of Things) ที่ติดตั้งทั่วนิคม เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถ บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานได้แม่นยำ ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการตรวจสอบหน้างานแบบเดิม

Digital Twin ช่วยลดเวลาในการตรวจสอบระบบโครงสร้างพื้นฐานจากเดิมที่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ แต่ปัจจุบันสามารถตรวจสอบได้ผ่านหน้าจอ ทำให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

โครงการ Digital Twin ของ DTX เริ่มต้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยนำร่องที่ นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ซึ่งเป็นหนึ่งในนิคมขนาดใหญ่ของประเทศ โดยมีการใช้เทคโนโลยีโดรนและเรดาร์สแกนพื้นที่ 1,400 ไร่ เพื่อเก็บข้อมูลโครงสร้างพื้นฐาน ควบคู่ไปกับการติดตั้ง เซ็นเซอร์ IoT เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำเสีย คุณภาพอากาศ และระบบไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้สามารถเฝ้าระวังโครงสร้างพื้นฐานของนิคมได้แบบเรียลไทม์ 

DITTO พลิกโฉมนิคมอุตฯสู่ Digital Twin ชูจุดขายดึงนักลงทุนต่างชาติ  

หลังจากประสบความสำเร็จในเฟสแรก บริษัทได้ขยายไปยังนิคมอุตสาหกรรมอีก 13 แห่งทั่วประเทศ  โดยมีมูลค่าโครงการ 143 ล้านบาท  และเพิ่มขีดความสามารถของระบบด้วย AI อัจฉริยะ ที่สามารถวิเคราะห์คุณภาพอากาศ น้ำเสีย และทิศทางลมได้แบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้ง กล้องวงจรปิด เพื่อเฝ้าระวังระบบน้ำเสียและไฟถนน

ในโครงการเฟส 2 ของโครงการ DTX ยังได้ลดต้นทุนการติดตั้งเซ็นเซอร์ จากเดิมที่ต้องติดทุกต้นเสาไฟ ปัจจุบันสามารถใช้ เซ็นเซอร์จุดเดียวในการตรวจสอบทั้งซอย ซึ่งช่วยลดต้นทุนลง 10 เท่า และทำให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

โดย  Digital Twin ไม่เพียงช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถบริหารจัดการนิคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ  โดยทำให้ต่างชาติสามารถเข้าถึงข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานของนิคมผ่านระบบออนไลน์ 3D ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุน

DITTO พลิกโฉมนิคมอุตฯสู่ Digital Twin ชูจุดขายดึงนักลงทุนต่างชาติ

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Digital Twin คือสามารถช่วยให้ การบริหารจัดการมลพิษและทรัพยากรธรรมชาติมีความโปร่งใสมากขึ้น เช่น ระบบสามารถตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 และวิเคราะห์ว่าฝุ่นที่เกิดขึ้นมาจากภายในนิคมหรือสิ่งแวดล้อมภายนอก ช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

"Digital Twin ช่วยให้ประชาชนและภาครัฐสามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศและน้ำเสียได้แบบเรียลไทม์ หากนิคมมีค่ามลพิษสูง ระบบจะสามารถระบุได้ว่าสาเหตุมาจากแหล่งใด ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด”

ภาครัฐ-เอกชน สนใจ Digital Twin คาดขยายตัวสู่โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กำลังพิจารณานำ Digital Technology เช่น BIM ไปใช้กับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ

DITTO พลิกโฉมนิคมอุตฯสู่ Digital Twin ชูจุดขายดึงนักลงทุนต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญของ Digital Twin คือการเปลี่ยนแปลงแนวคิดของผู้บริหารองค์กรที่ยังคุ้นชินกับการทำงานแบบเดิม และมองว่าการใช้แรงงานคนในการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานยังเพียงพออยู่ DTX เชื่อว่าการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ Digital Twin และการสนับสนุนจากภาครัฐจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในวงกว้าง

Digital Twin จะเป็นมาตรฐานใหม่ของการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมในไทย ซึ่งจะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น”

Digital Twin เป็น เทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนโฉมการบริหารนิคมอุตสาหกรรมไทย ช่วยให้ภาครัฐและเอกชนสามารถบริหารจัดการพื้นที่ขนาดใหญ่ได้แบบเรียลไทม์ ลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัย และเพิ่มโอกาสในการลงทุน คาดว่าในอนาคต Digital Twin จะถูกนำไปใช้ในภาคส่วนอื่น เช่น โครงสร้างพื้นฐานของรัฐ สนามบิน ระบบไฟฟ้า และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ Smart Industrial Estate อย่างแท้จริง

อนึ่ง DTX เกิดจากความร่วมมือของ 2 บริษัท คือ บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO และ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG  บริษัท DITTO เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบดิจิทัล มีประสบการณ์การทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่า 10 ปี บริษัท TEAMG เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ และ ให้คำปรึกษางานวิศวกรรมและการก่อสร้างมามากกว่า 40 ปี  DTX จึงเป็นการรวมตัวกันเพื่อนำเอาความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทั้งสองบริษัทมาผสมผสานนำเสนอการให้บริการในทางธุรกิจใหม่ๆ เป็นมิติใหม่ของการทำงานในรูปแบบ Digital