อาร์ทีบี เสริมทัพใหญ่หูฟังเกมมิ่งเกียร์ ลุยตลาดอีสปอร์ตโค้งท้าย

11 ต.ค. 2565 | 11:05 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ต.ค. 2565 | 18:16 น.

อาร์ทีบีฯ เผยความสำเร็จธุรกิจเกมมิ่งเกียร์ 3 ปี โตขึ้น 400% ส่งหูฟังเกมมิ่งเกียร์ 5 รุ่นในตระกูล “Arctis Nova” จาก SteelSeries ลุยตลาดไตรมาส 4 เอาใจอีสปอร์ตเกมเมอร์ ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีเสียงคุณภาพ

นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้า Gadget รายใหญ่ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจเกมในประเทศไทยเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของโควิด ทำให้คนอยู่บ้านเล่มเกมเยอะขึ้น ส่งผลให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดเกมมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

อาร์ทีบี เสริมทัพใหญ่หูฟังเกมมิ่งเกียร์ ลุยตลาดอีสปอร์ตโค้งท้าย

จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ระบุว่า ปัจจุบันตลาดเกม และ E-Sport มีมูลค่ารวมประมาณ 33,695 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะเติบโตราว 15% ทำให้ อาร์ทีบีฯ มองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดเกมรุกจับมือ SteelSeries ซึ่งเป็นแบรนด์อุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับการเล่นเกม และ E-Sport ชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ในประเทศไทยมาตั้งแต่กลางปี 2562

“สาเหตุสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดเกม และ E-Sport ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะคนอยู่บ้านและหันมาเล่นเกมเพื่อคลายเหงากันมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมตลาดอุปกรณ์เกมมิ่งโตขึ้นตามไปด้วย ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ของ SteelSeries ได้รับการตอบรับจากคอเกมเป็นอย่างดี โดยเราเริ่มทำการตลาดให้กับแบรนด์ Steelseries มาตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงตอนนี้ปี 2565 ยอดขายเราโตขึ้นถึง 4 เท่า และจากการตอบรับของเหล่าเกมเมอร์ที่ดี ในปีนี้อาร์ทีบีฯ จึงมีแผนจะขยายตลาดอุปกรณ์เกมมิ่ง SteelSeries อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวหูฟังเกมมิ่งเกียร์ 5 รุ่นใหม่ในตระกูล “Arctis Nova” เพื่อเจาะกลุ่มเกมเมอร์ตั้งแต่กลุ่มเริ่มต้น ไปจนถึงระดับมืออาชีพ”

อาร์ทีบี เสริมทัพใหญ่หูฟังเกมมิ่งเกียร์ ลุยตลาดอีสปอร์ตโค้งท้าย

นายบรรพต กล่าวต่อว่า ทางบริษัทฯ มีได้ลงทุนกับการขยายตลาดและสร้างแบรนด์ Steelseries เพราะมั่นใจในคุณภาพของสินค้าซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นักแข่งเกมมืออาชีพระดับโลกเลือกใช้ และทาง Steelsiries เอง ก็วางเป้าหมายที่จะเป็นคู่ค้ากับทางอาร์ทีบีฯ ในระยะยาว สำหรับแผนการขยายตลาดอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ในช่วงไตรมาส 4 อาร์ทีบีฯ จะเน้นการจัดกิจกรรมกับคอเกมผ่านทางคู่ค้าหลักของเรามากขึ้นเพื่อให้เหล่าเกมเมอร์ได้เข้าร่วมกิจกรรมและสัมผัสกับแบรนด์มากขึ้น โดยตั้งเป้าในสิ้นปี 2565 ยอดขายจากกลุ่มเกมมิ่งของอาร์ทีบีฯ จะเติบโตขึ้น 30-40% จากปีที่แล้ว พร้อมเชื่อมั่นว่าแบรนด์ SteelSeries จะยังคงเป็นแบรนด์ในใจของคอเกมชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

ด้านนางสาว วิมลมาลย์  วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า SteelSeries เป็นแบรนด์อุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับการเล่นเกม และ E-Sport ที่พัฒนามาจากประสบการณ์และทักษะของนักเล่นเกมตัวจริง ดังนั้น นอกจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ทางแบรนด์ยังเน้นความเรียบง่าย แต่ทันสมัยและทนทาน ปัจจัยที่ทำให้อุปกรณ์เกมมิ่งของ SteelSeries ได้รับการยอมรับจนครองใจนักเล่นเกมชาวไทย มาจากความเข้าใจและความต้องการของผู้บริโภค ทำให้สามารถออกแบบอุปกรณ์เกมมิ่งให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเกมเมอร์และนักกีฬามืออาชีพได้อย่างตรงจุด ควบคู่ไปกับการมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม และมุ่งเน้นการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง

 

โดยตลอด 3 ปีผ่านมา ตั้งแต่บริษัท อาร์ทีบีฯ ได้เข้ามาเป็นตัวแทนจัดจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดกับคู่ค้าผ่านหน้าร้าน, เว็บไซต์, การทำงานกับคอมมูนิตี้เกมต่างๆ, การเป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน, การเป็นสปอนเซอร์ทีมเกม รวมไปถึงการทำไวรอลวิดีโอที่มีคนเข้าดูหลายแสนคน โดยหูฟังเกมมิ่งรุ่นล่าสุดที่พร้อมเปิดตัวสู่ตลาดในครั้งนี้ ประกอบด้วย Arctis Nova 1, Arctis Nova 3, Arctis Nova 7 Wireless, Arctis Nova Pro และ Arctis Nova Pro Wireless ซึ่งมาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่เบากว่าเดิม แต่แข็งแรงทนทาน และมาพร้อมเทคโนโลยีด้านเสียงที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อให้เหล่าเกมเมอร์ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมอย่างเต็มอิ่ม

อาร์ทีบี เสริมทัพใหญ่หูฟังเกมมิ่งเกียร์ ลุยตลาดอีสปอร์ตโค้งท้าย

สำหรับ Arctis Nova 1 เป็นหูฟังเกมมิ่งแบบครอบหูชั้นเยี่ยม ที่มาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงคุณภาพ HIGH FIDELITY ขนาด 40 มม. เพื่อให้คอเกมได้สัมผัสถึงเสียงที่คมชัดและครอบคลุมความถี่เสียงได้ถึง 22,000 Hz แถมยังสามารถปรับแต่งเสียงได้เอง โดยรองรับการใช้งานได้กับทุกแพลตฟอร์มเกมอย่าง PC, PLAYSTATION และ SWITCH ผ่านการเชื่อมต่อแบบมีสายแจ็ค 3.5 มม. ที่ถอดเข้าออกได้ ขณะเดียวกัน ยังมาพร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน CLEARCAST GEN 2 ที่ช่วยตัดเสียงรอบตัวและเสียงคีย์บอร์ดเพื่อการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง 360° ที่ใช้งานผ่าน SONAR AUDIO SOFTWARE SUITE แถมยังรองรับระบบเสียง TEMPEST 3D สำหรับ PLAYSTATION 5 และ MICROSOFT SPATIAL SOUND ช่วยให้เกมเมอร์ได้ยินทุกรายละเอียดเสียงในเกมอย่างชัดเจนทุกทิศทาง นอกจากนี้ ยังมีระบบ Parametric EQ ระดับโปร ทำให้คอเกมสามารถควบคุมองค์ประกอบเสียงในเกมอย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่ตัวหูฟังยังมีน้ำหนักเบาเพียง 236 กรัม พร้อมจุดปรับ 4 ระดับด้วยระบบ COMFORTMAX และก้านหูฟังแบบปรับความสูงต่ำได้ เสริมด้วยที่ครอบหูทำจากวัสดุผ้าคุณภาพซึ่งผลิตจาก AIRWEAVE Memory Foam ช่วยระบายอากาศได้เป็น อย่างดีแม้จะใช้งานตลอดทั้งวัน โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และ สีขาว  โดยรุ่น Arctis Nova 1 วางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท

 

ส่วน Arctis Nova 3 เป็นหูฟังเกมมิ่งครอบหูแบบมีสาย ที่ชูจุดเด่นเรื่องคุณภาพเสียงจากไดร์เวอร์ HIGH FIDELITY ขนาด 40 มม.และระบบเสียง Nova Pro Acoustic ที่สามารถปรับแต่งเสียงได้เอง เพื่อเพิ่มความสมจริงในการเล่นเกมยิ่งขึ้น โดยรองรับการใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์มเกมอย่าง PC, PLAYSTATION และ SWITCH ผ่านการเชื่อมต่อช่องเสียบ USB-C to USB-C / USB-A / หัวแจ็ค 3.5 มม. พร้อมระบบ Parametric EQ ระดับโปร และระบบเสียงแบบรอบทิศทาง ที่ใช้งานผ่าน SONAR AUDIO SOFTWARE SUITE ทำให้สามารถได้ยินเสียงภายในเกมอย่างรวดเร็วและคมชัด ไม่ว่าจะเป็นระยะไกล ระยะใกล้ หรือแม้แต่เสียงฝีเท้า และกระสุนปืน ซึ่งจะช่วยให้เหล่าเกมเมอร์สามารถวางเกมได้เหนือคู่แข่ง นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนสองทาง CLEARCAST GEN 2 ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยจะตัดเสียงรอบตัวและเสียงคีย์บอร์ด เพื่อการสนทนาที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ตัวหูฟังสามารถปรับแต่งสีแสงไฟ RGB แบบไดนามิกได้ โดยเลือกได้มากถึง 16.8 ล้านสี ทั้งยังน้ำหนักเบาเพียง 253 กรัม แต่แข็งแรงทนทาน สวมใส่สบายด้วย AirWeave Memory Foam และก้านหูฟังที่สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้ โดยรุ่น Arctis Nova 3 วางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท

 

ในขณะที่ Arctis Nova 7 Wireless เป็นหูฟังเกมมิ่งไร้สายรุ่นแรกที่มาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงคุณภาพสูง High Fidelity ที่มีระบบเสียง Nova Pro Acoustic ซึ่งได้รับการปรับปรุงจากซอฟต์แวร์ Sonar ทำให้การถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงได้อย่างคมชัดทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเสียงเท้า เสียงปืน และเสียงระเบิด ทั้งยังรองรับระบบเสียง 360° Spatial Sound และระบบ Parametric EQ เพื่อให้คอเกมได้ยินเสียงภายในเกมอย่างแม่นยำ ทั้งยังโดดเด่นด้วยไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนสองทาง CLEARCAST Gen 2 ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยจะตัดเสียงรอบตัว ซึ่งการเชื่อมต่อไร้สายเป็นแบบ Lossless 2.4 GHz Wireless และการเชื่อมต่อ Bluetooth โดยสามารถจับคู่กับมือถือเพื่อฟังเพลง แชท และรับสายโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมระบบ Chatmix ซึ่งช่วยในการปรับแต่งเสียงไมค์ของเพื่อนในแชทได้เอง แม้ไมค์ของเพื่อนจะมีเสียงเบา ในขณะที่ตัวหูฟังให้ความนุ่มสบายและระบายอากาศได้ดี ด้วย AirWeave Memory Foam เพื่อการเล่นเกมที่ยาวนาน ทั้งยังสามารถปรับระดับความสูงของแถบคาดศรีษะได้ถึง 4 ระดับ โดยแบตเตอรี่รองรับการใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 38 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว เพียงชาร์จ 15 นาที สามารถใช้งานได้ถึง 6 ชั่วโมง โดยรุ่น Arctis Nova 7 Wireless วางจำหน่ายในราคา 8,990 บาท

 

ในส่วน Arctis Nova Pro และ Arctis Nova Pro Wireless เป็นหูฟังเกมมิ่งครอบหูระดับพรีเมี่ยมที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความมันส์ในการเล่นเกมแบบจัดเต็มสุดๆ โดยมาพร้อมไดรเวอร์ High Fidelity ระดับพรีเมียมขนาด 40 มม.ที่มีระบบเสียง Nova Pro Acoustic ซึ่งได้รับการปรับปรุงจากซอฟต์แวร์ Sonar ทำให้ได้เสียงที่คมชัดในการเล่นเกมทั้งบน PC / Android และ Console ต่างๆ ทั้งยังให้เสียงที่ครบชัดทุกรายละเอียดในเกมกว่า 78% ด้วยการรับรองจาก Game DAC Gen 2 ที่สำคัญ ยังมีเทคโนโลยี Multi-System Connect ทำให้เปลี่ยน Game DAC ให้เป็นฮับเพื่อให้คอเกมสามารถสลับการเล่นเกมระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ง่ายดายเพียงแค่กดปุ่มเดียว คอเกมก็สามารถย้ายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น PC, Mac, PlayStation และ Switch นอกจากนี้ ยังมาพร้อมไมโครโฟนแบบสองทิศทาง และระบบตัดเสียงรบกวน ClearCast Gen 2 ที่ทำงานด้วย AI และซอฟต์แวร์ Sonar ทำให้เหล่าเกมเมอร์ดื่มด่ำไปกับทุกรายละเอียดของเกมได้แบบไม่มีสะดุด ทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ เพราะรองรับการ Hot-Swap โดยสามารถปรับเปลี่ยนก้อนแบตเตอรี่ได้ทันทีระหว่างการเล่นเมื่อแบตหมด สำหรับ Arctis Nova Pro Wireless จะเพิ่มการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Lossless 2.4 GHz Wireless เพื่อให้เหล่าเกมเมอร์เพลิดเพลินกับประสบการณ์ในการเล่นเกมได้อย่างสนุกสุดมันส์ โดยปราศจากการดีเลย์ ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth โดยสามารถจับคู่กับมือถือเพื่อฟังเพลง แชท และรับสายโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว โดยรุ่น Arctis Nova Pro วางจำหน่ายในราคา 11,500 บาท และ รุ่น Arctis Nova Pro Wireless วางจำหน่ายในราคา 16,500 บาท