ในขณะที่สภาพอากาศโลกมีความแปรปรวนมากขึ้น อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า “ยุคโลกร้อนได้สิ้นสุดลงแล้ว และโลกกำลังเคลื่อนเข้าสู่ยุคโลกเดือดแทน” สิ่งที่มนุษย์สัมผัสได้นั้น มีตั้งแต่สภาพอากาศแบบสุดขั้ว ทั้งร้อนจัด หนาวจัด ไปจนถึงการเกิดภัยพิบัติในที่ต่างๆ
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์บทความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ถึงสภาะอากาศที่มีความแปรปรวนรุนแรงขึ้น และปรากฏการณ์ dark surface สัญญานเตือนมนุษยชาติให้เตรียมรับมือกับภัยพิบัติ
ดร.สนธิ กล่าวถึงอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น ว่ามีสาเหตุหลักเป็นที่แน่ชัดว่ามาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สู่บรรยากาศเพิ่มมากขึ้นทำให้โลกร้อนขึ้น ก๊าซเรือนกระจกส่วนใหญ่มาจากการเผาฟอสซิล ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ ชีวมวล ได้ก๊าซอาทิคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ก๊าซไนตรัสออกไซด์ ซึ่งถือเป็นก๊าซเรือนกระจกออกมา โดยประจักษ์พยานว่าโลกร้อนขึ้นเห็นได้จากน้ำแข็งที่ขั้วโลกแถบArctic region ซึ่งเกาะอยู่ตามเทือกเขาละลายมากขึ้นในอัตรา13%ในทุก10ปี สาเหตุเกิดจากน้ำทะเลและอากาศที่โอบล้อมโดยรอบอบอุ่นขึ้น
การละลายของน้ำแข็งจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งเนื่องจากพื้นที่ที่น้ำแข็งที่ละลายซึ่งเราเรียกว่า dark surface จะดูดซับความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้มากขึ้น น้ำแข็งยิ่งละลายก็จะยิ่งเพิ่มพื้นที่ดูดซับความร้อนมากขึ้น (higher melting and more dark surface absorbing heat) เร่งให้โลกร้อนขึ้น ผลที่ตามมาคือสภาวะภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง(climate change)
dark surface คือ สภาพของก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ในทะเลที่เปลี่ยนแปลงไป จากปกติจะมีพื้นที่ผิวราบเรียบขาวใสทำให้สามารถสะท้อนแสงอาทิตย์ออกไปได้ถึงร้อยละ 80 แต่เมื่อน้ำแข็งละลายกลายเป็นก้อนและเกล็ดน้ำแข็งที่มีความขุ่นมัว เมื่อผสมกับน้ำในมหาสมุทรที่มีเกลือจะทำให้น้ำในมหาสมุทรมีสีน้ำเงินดำ (dark bule ocean หรือdark surface)
ซึ่งสามารถดูดซับความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้ถึงร้อยละ 90 ทำให้น้ำในมหาสมุทรร้อนขึ้นโดยคาดว่ามีพื้นที่ที่น้ำแข็งละลายและดูดซับความร้อนได้มีประมาณ13.45 ล้านตารางกิโลเมตรส่งความร้อนแพร่กระจายไปตามน้ำทะเลทั่วโลกจึงทำให้พื้นที่ส่วนต่างๆของโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นมาก มีการคาดการณ์ว่าหากน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างต่อเนื่องจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีก1.8 เมตรในปี 2100
เมื่อกลับมาพิจารณาสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ดร.สนธิ ระบุว่าประเทศไทยจะร้อนมากขึ้นกว่าปีก่อนๆโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนเพราะดวงอาทิตย์ส่งความร้อนมายังเส้นศูนย์สูตรที่ประเทศไทยตั้งอยู่ ประกอบกับอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศโลกสูงขึ้นเนื่องจากก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ + dark surfaceในมหาสมุทร ยิ่งทำให้อากาศร้อนหนักกว่าเดิม
จังหวัดลำปางมีภูเขาล้อมรอบทำให้อุณหภูมิในบางช่วงขึ้นไปถึง 44 องศา หากอาศัยอยู่ในเขตเมืองใหญ่ เช่นกทม.ก็จะร้อนมากขึ้นจากปกติเพราะสภาพเกาะความร้อน (Heat Island) ที่มาจากตึกและอาคารสูงฉาบปูนที่ขึ้นอยู่เต็มเมือง ซึ่งจะดูดความร้อนไว้แล้วแผ่ความร้อนออกมาสู่บรรยากาศประกอบกับอาคารสูงดังกล่าวไปขัดขวางทิศทางลมที่พัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้
รวมทั้งกรุงเทพฯมีพื้นที่สีเขียวเพียง 6.9 ตร.ม./คน (มาตรฐานขั้นต่ำของ WHO คือ 9.0 ตร.ม./คน) หากอาศัยอยู่ในพื้นที่ชน บทที่ต้นไม้ใหญ่หายไปหมดก็ทำให้อากาศร้อนมากขึ้นเช่นกัน
ภูมิอากาศในประเทศไทยเริ่มแปรปรวน ในหน้าร้อนบางช่วงจะมีมวลอากาศสูงจากประ เทศจีนแผ่เข้ามาเบียดอากาศร้อนในประเทศ ไทยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากอากาศร้อนเป็นอากาศเย็นทันที ปรากฎการณ์นี้เริ่มเกิดบ่อยขึ้นเนื่องจากการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ เช่นกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นเปลี่ยนทิศทาง กระแสลมเปลี่ยนทั้งทิศทางและความเร็ว เป็นต้น
ซึ่งมาจากโลกร้อนขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศแบบสุดขั้วโดยร้อนก็ร้อนมาก เย็นก็เย็นมาก มีฝนตกหนักมากในช่วงฤดูฝน อากาศร้อนในฤดูหนาว หรืออากาศเย็นในฤดูร้อน เกิดพายุบ่อยขึ้นอันตรายจากภัยพิบัติเพิ่มขึ้น