นายพีระกานต์ มานะกิจ ประธานอำนวยการ บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ จำกัด (ION Energy) เปิดเผยว่า แนวโน้มของปี 65 ที่จะมาแรงอย่างแน่นอนคือเรื่องของค่าไฟ ซึ่งตามความเป็นจริงก็คือมาตั้งแต่ปีนี้ โดยแพงขึ้นทีเดียว 30% ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เห็นทั้งภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจสนใจติดโซลาร์เซลล์มากขึ้น
อย่างไรก็ดี การจะผลัดดันให้ภาคประชาชน หรือภาคเอกชนลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อผฃิตไฟฟ้ามากขึ้นนั้น รัฐบาลจะต้องมีส่วนสำคัญในการช่วยสนับสนุน แม้ปัจจุบันจะมีมาตรการบางส่วนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เช่น ให้นำการลงทุนจากโซลาร์มาหักภาษีสำหรับผู้ประกอบการ แต่ก็ยังต้องลุ้นปีต่อปีว่าในปีถัดไปจะต่ออายุมาตรการหรือไม่
ขณะที่ภาคประชาชนยังไม่มีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือหรือสนับสนุนทางด้านภาษี แต่ในต่างประเทศจะใช้มาตรการสำคัญที่ช่วยดึงดูดให้ประชาชนกันมาใช้โซลาร์ฯมากขึ้น
นอกจากนี้ การสนับสนุนทางด้านสินเชื่อจากเอกชนก็เป้นสิ่งที่จำเป็น โดยปัจจุบันราคาในการติดตั้งจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนบาท ซึ่งภาคประชาชนยังไม่มีวิธีที่เข้ามาช่วยในการผ่อนชำระ โดยจะมีสินเชื่อส่วนบุคคลดอกเบี้ยก็สูงถึง 20% มองอย่างไรก็ไม่คุ้มค่า หรือสถาบันการเงินให้นำบ้านมาค้ำก็คงไม่มีผู้ใดต้องการทำแบบนั้น ซึ่งมองว่าสถาบันการเงินน่าจะมีสินเชื่อสำหรับโซลาร์โดยเฉพาะมาสนับสนุน
"ประเด็นที่สำคัญก็คือการสนับสนุนทางด้านนโยบายจากภาครัฐ เช่นนโยบายการขายไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์ โดยปัจจจุบันแม้ว่าจะมีอยู่แล้ว แต่ก็มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก อีกทั้งยังไม่ได้มีการประกาศที่เป็นแบบระยะยาว รวมถึงหากภาครัฐรับซื้อไฟในอัตราที่เพิ่มขึ้นก็จะเป็นการช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับภาคประชาชนมากขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนทางด้านสินเชื่อก็จะช่วยได้อย่างมากเช่นเดียวกัน"
นายพีระกานต์ กล่าวต่อไปอีกว่า การติดตั้งโซลาร์จะตอบโจทย์ทั้งเรื่องของการลดค่าไฟฟ้า และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งการติดโซลาร์ฯจะเปรียบเสมือนโรงงานผลิตไฟฟ้าที่ไม่ต้องเสียเงินให้กับผู้ใด โดยที่ผ่านมาค่าไฟอาจจะไม่ได้แพงมาก การติดตั้งโซลาร์อาจจะดูว่าต้นทุนสูง แต่ปัจจุบันต้นทุนลงมามากกว่า 90% เพราะฉะนั้นจุดคุ้มทุนก้จะเหลือประมาณ 4-5 ปีเท่านั้น เรียกว่าเป็นการร่นระยะเวลาในการประหยัดค่าไฟฟ้าลง
อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานสกปรก โดยแม้ว่าผู้บริโภคจะหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) แต่เมื่อเสียบไฟชาร์ตจากที่บ้านก็เป็นการใช้พลังงานจากคาร์บอนมาผลิตอยู่ดี
"หากเราติดตั้งโซลาร์ฯกับบ้านเรือน 5 กิโลกวัตต์จะเปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ 185 ต้น โดยปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้พลังงานจากโซลาร์ฯเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งมากจากกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เป็นหลัก แต่หากดูการคาดการณ์จากทั่วโลกจะเห็นว่าภ่ยในอีก 5 ปี หรือปี 2570 โซลาร์จะกลายเป็นแหล่งผลิตพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก"