นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า กองทุนฯ อยู่ระหว่างติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด (FED) วันที่ 2 พ.ค.2566
ซึ่งหลายสำนักคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% ต่อปี โดยจะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง รวมทั้งกำลังการผลิตของสมาชิกประเทศผู้ผลิตน้ำมันโลก(โอเปกพลัส) ที่ประกาศลดกำลังการผลิตในเดือนพ.ค.นี้ ตามภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ
และเศรษฐกิจจีนขยายตัว โดยเป็นปัจจัยที่คณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จะนำมาประกอบการพิจารณาแนวทางดูแลราคาขายปลีกดีเซลในประเทศ ที่จะมีการประชุมวันที่ 3 พ.ค.2566 ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มลดลง
นายวิศักดิ์ กล่าวอีกว่า กองทุนมีสภาพคล่องดีขึ้น หลังสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย และมีการเปิดประเทศ ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลและเบนซินในประเทศมีการปรับลดลงไปในระดับหนึ่ง
และมีโอกาสที่จะลดลงได้อีก เพื่อบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า โดยขึ้นอยู่กับทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกเป็นหลัก
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.2565-มี.ค.2566) อยู่ในเกณฑ์ดี เห็นได้จากฐานะเงินกองทุนติดลบน้อยลงจากช่วงที่เคยติดลบสูงสุดเมื่อเดือนพ.ย.2565 ที่ 130,671 ล้านบาท
ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ เหลือติดลบ 85,586 ล้านบาท ณ วันที่ 23 เม.ย.2566 แบ่งเป็น