ราคาน้ำมันดีเซลเป็นกลุ่มชนิดน้ำมันที่รัฐบาลพยายาทดูแลไม่ให้เกิน 32 บาทต่อลิตร โดยปัจจุบันใช้เงินอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วย
อย่างไรก็ดี ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น อาจจะส่งปัญหาทางด้านสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันฯ
ต่อกรณีดังกล่าวแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะบริหารจัดการโดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเช้ามาดูแลรักษาระดับดีเซลราคาขายปลีกให้คงอยู่ในระดับไม่เกิน 32 บาทต่อลิตรเพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
โดยล่าสุดทางกบน.ได้บริหารจัดการอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ล่าสุดกองทุนน้ำมันฯได้อุดหนุนราคาดีเซลวันที่ 12 สิงหาคม 2566 อยู่ที่อัตราลิตรละ 5.93 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ การประชุม กบน. เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ได้เห็นชอบให้กองทุนน้ำมันฯอุดหนุนราคาดีเซลเพิ่มเติมอีก 0.96 บาทลิตรส่งผลให้การอุดหนุนดีเซลมาอยู่ที่ 5.93 บาทต่อลิตรมีผลตั้งแต่ 12 ส.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากราคาดีเซลหมุนเร็วตลาดสิงคโปร์ปิดตลาด 10 ส.ค.เพิ่มขึ้นสูงถึง 7.17 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแตะระดับ 120.66 เหรียญฯต่อบาร์เรลเนื่องจากโรงกลั่นที่ไต้หวันปิดซ่อมบำรุง ซึ่งคาดว่าจะเป็นการปรับขึ้นแรงชั่วคราวแต่ภาพรวมราคาตลาดโลกจะยังคงทรงตัวระดับสูงจึงต้องติดตามใกล้ชิด
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิวันที่ 6 ส.ค.2566 ติดลบ 50,438 ล้านบาท แบ่งเป็น
บัญชีน้ำมันติดลบ 5,323 ล้านบาท
บัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ติดลบ 45,115 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี สภาพคล่องกองทุนฯยังสามารถดูแลราคาดีเซลได้เนื่องจากตามกรอบวงเงิน 150,000 ล้านบาทปัจจุบันได้บรรจุเป็นหนี้สาธารณะแล้ว 110,000 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ ชำระหนี้ให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ไปแล้ว 55,000 ล้านบาท คงเหลืออีก 55,000 ล้านบาท ที่สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องกู้เงินเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม การตรึงราคาดีเซลได้นานเพียงใดคงอยู่ที่ราคาดีเซลตลาดโลกเป็นสำคัญหากทรงตัวระดับสูง 100-110 เหรียญต่อบาร์เรลต่อเนื่องก็อาจต้องทบทวนเพราะการชดเชยดีเซลเฉลี่ย 5.93 บาทต่อลิตรก็คิดเป็นเงินระดับหมื่นล้านบาทต่อเดือน
"ราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกยังคงต้องติดตามใกล้ชิดเพราะยังคงมีทั้งปัจจัยบวกและลบที่มีผลต่อระดับราคาให้สวิงตัว โดยปัจจัยที่จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมาจากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่จีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด และส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันในจีนชะลอตัวลง -ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญา น้ำมันดิบจะมีมูลค่าสูงขึ้น และนักลงทุนมีการเทขายทำกำไรหลังราคาตลาดโลกที่ปรับขึ้นสูง"
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามที่จะมีผลต่อราคาดีเซลตลาดโลกปรับตัวเพิ่ม เช่น ซาอุดิอาระเบียขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. 66 ขณะที่รัสเซียจะปรับลดการส่งออกน้ำมันในเดือน ก.ย. 66 ซึ่งจะกดดันต่อสต็อกน้ำมันลดลงอย่างรุนแรงในช่วงที่เหลือของปีนี้
รวมถึงสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เมื่อเร็ววันนี้คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 103 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิ.ย.และอาจเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ที่จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัว เป็นต้น