"เปิดเสรีนำเข้าน้ำมัน" นโยบายที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกาศออกมา โดยมุ่งหวังให้เป็นหนึ่งแนวทางในการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง
ซึ่งจากคำพูดของนายพีระพันธุ์ ก็คือ มองว่าควรจะให้โอกาสเสรีในการหาน้ำมันสำเร็จรูป ที่ไม่ใช่การนำน้ำมันดิบเข้ามากลั่นจนทำให้มีต้นทุน ค่าใช้จ่ายที่ควบคุมลำบาก แต่หากเป็นการนำน้ำมันสำเร็จรูปที่ไม่ต้องมีค่าการกลั่น หรือค่าใช้จ่ายอื่น เพราะราคาทุกอย่างคำนวณจบแล้ว หากผู้ใดที่สามารถนำพลังงานราคาถูกเข้ามาได้ ก็ควรเปิดโอกาสให้ทำได้ โดยภาครัฐควรจะเป็นผู้กำกับดูแลให้การจัดหาพลังงานเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว ไม่ใช่วางกฎกติกาจนทำไม่ได้
อย่างไรก็ดี จากประเด็นดังกล่าวพบว่า ปัจจุบันผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง 2543 สามารถนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปได้อยู่แล้ว ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องสำรองน้ำมันต่างหากด้วย มีคลังรองรับเพื่อความมั่นคง ถือเป็นต้นทุนอีกทางหนึ่ง ตามข้อมูลของแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานที่อธิบายให้ "ฐานเศรษฐกิจ" รับทราบ
สอดคล้องกับความเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจน้ำมัน ซึ่งก็ระบุว่า ปัจจุบันไทยเปิดเสรีนำเข้าน้ำมันอยู่แล้ว โดยแนวคิดของนายพีระพันธุ์อาจหมายถึงการปลดล็อกขั้นตอนการนำเข้าให้สะดวกมากขึ้น
ขณะที่การนำเข้าจะต้องมีอุปทานและอุปสงค์ที่ชัดเจน และความสามารถในการทำราคาเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ หากปลดล็อกได้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้น้ำมันแน่นอน
จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ว่าปัจจุบันมี 51 รายที่เข้าเกณฑ์นำเข้าน้ำมันเสรี ดังนี้
รายชื่อผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ประกอบด้วย
รายชื่อผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 พิเศษ ประกอบด้วย