เปิดความจริงจากปั๊มน้ำมัน ยันเบนซินไม่มีขายเพราะรัฐบาล หลังลดราคา 2.50 บ.

10 พ.ย. 2566 | 02:28 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ย. 2566 | 02:28 น.

เปิดความจริงจากปั๊มน้ำมัน ยันเบนซินไม่มีขายเพราะรัฐบาล หลังลดราคา 2.50 บ. ผู้ค้าเผยไม่มีการกักตุน เผยขอให้คิดค่าชดเชยตั้งแต่ครั้งที่มีการปรับราคาน้ำมันดีเซลลง 2 บาท แต่กลับให้ลดสต๊อกเพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด

"ลดราคาน้ำมัน 2.50 บาท" สำหรับน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์เป็นนโยบายช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนจากรัฐบาล เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 66 เป็นต้นมา ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งอนุมัติเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ

อย่างไรก็ดี จากนโยบายดังกล่าวได้เกิดกรณีที่สถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มน้ำมัน) หลายแห่งไม่มีน้ำมันให้บริการ โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 รวมถึงน้ำมันประเภทอื่นที่ลดราคาตามมาตรการรัฐบาลและกระทรวงพลังงานที่ลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน จนมีกระแสข่าวว่าสถานีบริการน้ำมันกักตุนน้ำมันไม่ยอมจำหน่าย

ขณะที่รัฐบาลเองโดยกระทรวงพลังงานได้ออกมาตรการล่าสุดลงนามคำสั่งกระทรวงพลังงานที่ ๔๗/๒๕๖๕๖ แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน ติดตามและ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการไม่จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศขึ้นทันที

ส่วนผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มน้ำมัน) ก็ออกมายืนยันว่าไม่มีการกักตุนน้ำมันแต่อย่างใด พร้อมชี้แจงเหตุผลตามที่ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี ล่าสุดสานีบริการน้ำมันได้ออกมาระบุสาเหตุเพิ่มเติม โดยระบุว่า การที่น้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ขาดสต็อกไม่มีจำหน่าย เพราะนโยบายของรัฐบาล พร้อมหลักฐาน

โดยบอกว่า ก่อนหน้านี้กรมธุรกิจพลังงานได้ทำหนังสือถึงนายกสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย ซึ่งลงนามโดย นางพัทธ์ธีรา สายประทุมทิพย์ รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง ขอให้ตรวจนับน้ำมันคงเหลือเพื่อชดเซยผลกระทบจากการลดราคา ตามนโยบายของรัฐบาล มีข้อความระบุว่า

อ้างถึง หนังสือสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายฯ ที่ 055/2566 ลงวันที่ 15 กันยายน 2566 ตามหนังสือที่อ้างถึง สมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทยแจ้งว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจะช่วยเหลือประชาชน โดยประกาศลดราคาน้ำมันในวันที่ 20 กันยายน 2566 ซึ่งหากมีการลดราคาทันทีจะส่งผลกระทบแก่ผู้ประกอบการทุกรายตามปริมาณน้ำมันคงเหลือที่มีอยู่ 

โดยตามแนวทางที่เคยปฏิบัติคือ ต้องมีการตรวจนับน้ำมันคงเหลือเพื่อชดเชย และเรียกเก็บเพิ่มถ้ามีการปรับขึ้นราคาจากมาตรการภาษีและกองทุน จึงขออนุเคราะห์กรมธุรกิจพลังงานพิจารณาชดเชยให้ผู้ประกอบการ ด้วยการคืนภาษีและหรือเงินกองทุนสำหรับน้ำมันคงเหลือในถังที่เหลืออยู่ ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น

ในการนี้ กรมธุรกิจพลังงานขอเรียนว่า เนื่องจากการปรับลดราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในครั้งนี้ได้มีการประกาศให้สาธารณชนรับทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 7 วัน แล้ว ดังนั้น ผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการจึงมีระยะเวลาเพียงพอสำหรับการบริหารจัดการน้ำมันคงเหลือ เพื่อให้เกิดภาระการขาดทุนน้อยที่สุด 

ประกอบกับการจ่ายเงินชดเชยในน้ำมันคงเหลือให้แก่ผู้ค้ำาน้ำมันและสถานีบริการ จะต้องพิจารณาถึงฐานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน รวมทั้งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันกำหนดวัตถุประสงค์การใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ใน
ระดับที่เหมาะสมในกรณีเกิดวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันโดยจะจ่ายให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงมาจำหน่ายในประเทศ

ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อจ่ายชดเชยผลขาดทุนจากปริมาณน้ำมันคงเหลือให้แก่สถานีบริการโดยตรงได้

เปิดความจริงจากปั๊มน้ำมัน ยันเบนซินไม่มีขายเพราะรัฐบาล หลังลดราคา 2.50 บ.

แหล่งข่าวจากสถานีบริการน้ำมัน ระบุว่า ปั๊มน้ำมันได้ขอให้คิดค่าชดเชยตั้งแต่ครั้งที่มีการปรับราคาน้ำมันดีเซลลง 2 บาท จึงได้รับคำตอบมาหนังสือดังกล่าว โดยให้ลดสต๊อกเพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด ซึ่งปั๊มน้ำมันได้ทำตามนโยบายอย่างชัดเจน คือ ลดสต๊อกให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด

นอกจากนี้ สมาคมการตัวผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เรื่องขอตรวจนับสต๊อกเพื่อชดเชยผลกระทบจากการลดราคา ตามนโยบายช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล ลงนามโดย นายพัฒนา ตั้งกิติกุล นายกสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย ซึ่งมีข้อความว่า 

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชน โดยประกาศลดราคาน้ำมัน ในวันที่ 20 กันยายนนี้ สมาคมๆ ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และพร้อมจะปฏิบัติตาม

แต่ภาษีและกองทุนน้ำมันที่เรียกเก็บไปแล้วเป็นสต๊อกของผู้ประกอบการทุกราย หากมีการลดราคาทันทีจะส่งผลกระทบแก่ผู้ประกอบการทุกรายตามปริมาณสต๊อกที่มีอยู่ แนวทางที่เคยปฏิบัติกันมาเป็นที่ยอมรับคือ ต้องมีการตรวจนับสต๊อกที่เหลือเพื่อชดเชย หากมีการลดราคาและเรียกเก็บเพิ่มถ้ามีการขึ้นราคาจากมาตรการภาษีและกองทุนน้ำมัน

สมาชิกสมาคม เป็นสถานีบริการน้ำมันซึ่งเป็นธุรกิจ5ME จึงขออนุเคราะห์ท่านโปรดพิจารณาชดเชยให้กับผู้ประกอบการ ด้วยการคืนภาษีและหรือเงินกองทุนสำหรับสต๊อกในถังที่เหลืออยู่

เปิดความจริงจากปั๊มน้ำมัน ยันเบนซินไม่มีขายเพราะรัฐบาล หลังลดราคา 2.50 บ.

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ปั๊มน้ำมันได้ทำตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นน้ำมันไม่มีจำหน่าย และยืนยันว่าไม่ได้มีการกักตุน