"พีระพันธุ์"รื้อโครงสร้างก๊าซธรรมชาติครั้งใหญ่กดค่าไฟถาวร 11.50 สตางค์

03 ม.ค. 2567 | 11:11 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ม.ค. 2567 | 13:23 น.

"พีระพันธุ์"รื้อโครงสร้างก๊าซธรรมชาติครั้งใหญ่กดค่าไฟถาวร 11.50 สตางค์ หลังที่ผ่านมาบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีสิทธิการใช้ก๊าซธรรมชาติราคาถูกจากอ่าวไทยในราคาที่ไม่หารเฉลี่ยกับราคา LNG นำเข้าจากต่างประเทศ และแหล่งอื่น

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เปิยเผยถึงความคืบหน้าการปรับโครงสร้างก๊าซธรรมชาติ หนึ่งในแนวทางลดค่าไฟงวดปัจจุบัน(มกราคม-เมษายน2567) จาก 4.68 บาทต่อหน่วย เหลือต่ำกว่า 4.20 บาทต่อหน่วย ว่า 

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีนโยบายรื้อโครงสร้างพลังงานด้านก๊าซธรรมชาติครั้งสำคัญ โดยการแก้ไขการจัดสรรก๊าซธรรมชาติอ่าวไทยให้เกิดความเป็นธรรมขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีสิทธิการใช้ก๊าซธรรมชาติราคาถูกจากอ่าวไทย 

ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ได้ถูกนำมาหารเฉลี่ยกับราคาก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี (LNG) นำเข้าจากต่างประเทศ และแหล่งอื่น หรือที่เรียกว่าพูลก๊าซ(Pool Gas) ที่เป็นฐานต้นทุนที่ผลิตไฟฟ้าคนทั้งประเทศ ซึ่งมีราคาสูงกว่า 

กระทั่งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) สั่งแก้ไข โดยโยกก๊าซธรรมชาติที่ได้จากอ่าวไทยป้อนการผลิตแอลพีจีให้ประชาชนใช้หุงต้มดำรงชีวิตในราคาถูกที่สุดประมาณ 219 บาทต่อล้านบีทียู 

"พีระพันธุ์"รื้อโครงสร้างก๊าซธรรมชาติครั้งใหญ่กดค่าไฟถาวร 11.50 สตางค์

และให้ก๊าซที่เหลือป้อนการผลิตปิโตรเคมี เป็นราคาพูลก๊าซ ประมาณ 362 บาทต่อล้านบีทียู ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าของประชาชนลดลงถาวรประมาณ 11.50 สตางค์ต่อหน่วย

"แม้การปรับโครงสร้างดังกล่าวทำให้ต้นทุนด้านปิโตรเคมีเพิ่มสูงขึ้น แต่นายพีระพันธุ์เล็งเห็นว่าเป็นธรรม และควรปรับมาเนิ่นนานแล้ว นี่จึงเป็นการรื้อแรก จากภารกิจ รื้อ-ลด-ปลด-สร้าง โครงสร้างพลังงาน หลังจากนี้จะเดินหน้าส่วนที่เหลือต่อไป"