นายชาญ กุลภัทรนิรันดร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่แผนและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในการเสวนาหัวข้อ "NEW BUSINESS กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงาน POSTTODAY x TDRI ECONOMIC DRIVES 2024 ว่า ธุรกิจใหม่ของ ปตท. ประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลักสำะญ ได้แก่ 1.การนำเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่เข้ามาช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ส่งมอบให้กับลูกค้าได้ดีขึ้น
,2.การสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจใหม่ด้วยเทคโนโลยีใหม่เพื่อส่งมอบให้กับผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์ และ3.การนำพลังงานทางเลือกมาปรับใช้ ทำให้โลกอยู่ได้อย่างยั่งยืน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน โดยนิยามคำว่าธุรกิจใหม่จะต้องดีทั้งต่อบริษัท ,สังคม และชุมชนถึงจะสมบูรณ์
ทั้งนี้ แนวโน้มทางด้านพลังงานในอนาคตมองว่า จะมุ่งไป 2 ด้าน ประกอบด้วย Go Electric และ Go Green โดยสะท้อนอยู่ในเทคโนโลยีที่จะต้องมาบริหารจัดการพลังงานเพื่อนำไปสู่การลดปริมาณคาร์บอน
"สิ่งที่ ปตท. มองเห็น มีธุรกิจพลังงานจะเกิดขึ้นทั้งในส่วนที่เป็นของใหม่และของเก่า โดยของเก่าจะมีการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไหม หรือ Go Electric ของใหม่เรื่องของการเปลี่ยนไปสู่พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น"
ส่วนแผนพลังงานในอนาคตมองไว้ 3 กลุ่มคือ Business Growth หมายถึง Current Business โดยจะสร้างให้เติบโตได้อย่างไรเนื่องจากการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ทุกวันนี้ ทั้ง AI Robotics หรือ Digital Tools ทั้งหลาย สามารถทำให้ธุรกิจปัจจุบันมีการเติบโตขึ้นมาอีก
,New Business คือ New ไปเลยนอกเหนือจากการที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงาน น้ำมัน หรือก๊าซธรรมชาติ ของเดิมคือ ขึ้นอยู่กับเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก แต่ของใหม่คือ Renewable Energy หรือ พลังงานหมุนเวียน เป็นต้น
สำหรับธุรกิจใหม่ (New Business) ของ ปตท. จะอยู่ในเรื่องของพลังงานใหม่ และ Beyond Business ก็คือ อาจไม่คิดว่า ปตท. จะเข้าไปทำ เช่น เรื่องของพลังงานทดแทน (Renewable Energy) ที่ ปตท. เข้าไปลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น
การลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ ไปจนถึงการดักจับคาร์บอน รับจ้างผลิตโรงงานยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV)
รวมทั้งบริการที่รองรับเรื่องของ EV ไปจนถึงธุรกิจยา เช่น การเข้าไปซื้อบริษัทยาของไต้หวันเป็นต้น ไปจนถึงเทคโนโลยีอย่าง AI เป็นต้น