อากาศร้อนระอุดันใช้ "ไฟพีค" 32,704 เมกะวัตต์

08 มี.ค. 2567 | 06:28 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มี.ค. 2567 | 06:28 น.

อากาศร้อนระอุดันใช้ "ไฟพีค" 32,704 เมกะวัตต์ พีระพันธุ์เผยไวกว่าปี 2566 ที่เกิดขึ้นเดือนพฤษภาคม เหตุฤดูร้อนเริ่มต้นเร็วกว่าปกติ คาดปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงฤดูร้อนจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วัมที่ 7 มี.ค. 67 ได้มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของปี 2567 เมื่อเวลา 19.47 น. ที่ 32,704 เมกะวัตต์ 

ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากฤดูร้อนที่เริ่มต้นเร็วกว่าปกติ และคาดว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าอุณหภูมิเฉลี่ยอาจจะสูงถึง 45 องศาเซลเซียสซึ่งจะทำให้มีการใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้เกิด Peak เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 เวลา 21.41 น. ที่ 34,826 เมกะวัตต์
 

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตรวจสอบและดูแลระบบการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม เพื่อมิให้กระทบต่อประชาชนและการดำเนินธุรกิจ 

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานได้เตรียมออกนโยบาย 5 ป. ประกอบด้วย 

  • ปิด : การปิดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน
  • ปรับ : ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 26 องศา
  • ปลด : ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังการใช้งาน
  • เปลี่ยน : หากมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 
  • ปลูก : ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้าน
     

“ได้สั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เตรียมความพร้อมในการดูแลเรื่องการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานในทุกภาคส่วน และจะต้องไม่มีเหตุการณ์ไฟฟ้าดับเกิดขึ้น"

อย่างไรก็ดี ปีนี้คาดว่าอุณหภูมิจะร้อนมากกว่าปีที่แล้ว จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าผ่านนโยบาย 5 ป. เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าลง ซึ่งนอกจากจะสามารถลดต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าในภาพรวมได้แล้ว ยังสามารถลดค่าไฟฟ้าของประชาชนได้